หลังจากที่ได้แถลงการณ์เบื้องต้นไปเมื่อวันก่อนเรื่องเหตุผลที่ทีมชาติไทยไม่ได้เข้าแข่งขัน Overwatch World Cup 2019 ล่าสุด Mickie - ปองภพ รัตนแสงโชติ ผู้เล่นทีมชาติไทยได้ออกมาแถลงการณ์เพิ่มเติมถึงกรณีนี้ โดยชี้แจงว่าสาเหตุมาจากความเข้าใจผิดของสถานฑูตที่ส่งผลต่อการขอวีซ่าและการประสานงานของทางฝั่ง Blizzard ด้านการทำจดหมายขอวีซ่าสำหรับนักกีฬา
สำหรับที่มาที่ไปของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ Mickie กล่าวว่า ในขั้นตอนการขอวีซ่า ทางทีมชาติไทยได้ยื่นขอวีซ่าประเภท B1-B2 ซึ่งเป็นวีซ่าสำหรับการท่องเที่ยวและธุรกิจ ซึ่งครอบคลุมในกรณีการไปแข่งขันที่ Blizzcon แต่ถูกทางสถานฑูตแจ้งให้เปลี่ยนประเภทของวีซ่า เนื่องจากในจดหมายประกอบการขอวีซ่าจาก Blizzard มีการระบุว่านักกีฬาทุกคนที่เข้าแข่งขันจะได้รับเงิน 500 ดอลลาร์ ซึ่งจริงๆ แล้ว ถือเป็นเงินรางวัลสำหรับการผ่านเข้ามามีสิทธิ์ร่วมแข่งขัน แต่ประโยคนี้ มีส่วนทำให้สถานฑูตเข้าใจผิดว่า Blizzard จ้างผู้เล่นมาแข่งขันที่ Blizzcon จีงแจ้งให้ผู้เล่นทีมชาติไทยต้องยื่นวีซ่า P-1 ซึ่งเป็นวีซ่าสำหรับนักกีฬามืออาชีพที่ทำงานและได้รับเงินเดือนที่สหรัฐอเมริกาแทนโดยมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก
หลังจากนั้น ทีมชาติไทยจึงส่งเรื่องไปยังทาง Blizzard โดย Blizzard ตอบกลับมาว่าจะช่วยจัดการให้โดยจะเจรจากับทางสถานฑูตให้และแจ้งทีมชาติไทยให้ไปทำวีซ่า B1-B2 ใหม่อีกครั้ง โดยให้แจ้งว่าไปเที่ยวที่งาน Blizzcon แทน
หลังจากที่ทีมชาติไทยได้วีซ่าเรียบร้อยจึงเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา แต่เมื่อเดินทางไปถึงกลับถูก Blizzard เรียกเข้าไปพบเพื่อรับฟังผลการเจรจาระหว่าง Blizzard กับสถานฑูตซึ่งรู้ผลหลังจากวันเดินทาง โดยตัวแทนของทาง Blizzard ชี้แจงว่าได้คุยกับทางสถานฑูตแล้ว โดยวีซ่าที่ทางทีมชาติไทยได้รับมีการระบุว่าสามารถเข้าร่วมงาน Blizzcon ได้เท่านั้น (ไม่ได้มีการระบุว่าห้ามแข่งขัน) ซึ่งทาง Blizzard ได้ปรึกษากับทนายและได้รับคำตอบว่ามีความสุ่มเสี่ยงสำหรับทีมชาติไทยที่จะเข้าแข่งขันในงานนี้ จึงขอให้ทีมชาติไทยไม่ลงแข่งขัน
Mickie แถลงเพิ่มเติมว่าจากกรณีดังกล่าว Blizzard ได้แสดงความรับผิดชอบโดยการจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดของทีมชาติไทยสำหรับการเดินทางมาในครั้งนี้ ส่วนเงินที่ได้รับจากการบริจาคและสปอนเซอร์นั้นจะมีการคืนเงินทั้งหมด โดยขั้นตอนนี้ต้องขอปรึกษากับทีมงานและนักกีฬาก่อน
Comments
อันนี้เคลียร์ดีครับ ชัดเจนเรื่องการเรียบเรียงมาก่อนค่อยพูดมากๆ สู้ๆ ครับ
[S]
ดูจากเนื้อหาข่าวก็ดูตกลงกันได้ แล้วทาง Blizzard เองก็รับผิดชอบค่าเสียหาย หรือว่าที่พูดไม่ได้ในตอนแรกเพราะว่ายังตกลงค่าเสียให้ไม่ได้?
เรื่องราวเป็นเช่นนี้นี่เอง
เมื่อคืนดู live blizzcon ceremony ยังตะขิดตะขวงใจอยู่ 55 , วันนี้มีแถลงแบบนี้สบายใจขึ้นเยอะครับ
Clear clear ครับ เสียใจแทนนักกีฬาทุกท่านด้วยที่ไม่ได้ร่วมแข่งขัน สู้ต่อไปครับ
สถานทูตแจ้งชัดเจนแล้วนะครับว่าถ้าไปแบบมีรายได้(ซึ่งกรณีนี้ขัดเจนว่าได้แน่นอน)จะไม่สามารถใช้Visa B1/B2ได้ต้องใช้Visa P1ซึ่งพวกเขาบอกแพงไม่ทำ
ทีนี้จะฝืนไปไม่ทำตามนั้นจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่โดยไปบอกสถานทูตว่าแค่จะไปเที่ยวในงานblizzcon พอเป็นแบบนั้นแล้วคุณแข่งไม่ได้นี่สถานทูตผิดตรงไหนครับ
พวกคนที่จะไปแข่งนั้นแหละทำผิดเต็มๆทำทั้งๆที่รู้ผลก่อนแล้วจะไปโทษใคร
ใจเย็นๆ ตั้งสติ ค่อยๆอ่านนะครับ มีเวลาอีกเยอะก่อนจะพิมพ์คอมเม้น
จากข่าว ผมเข้าใจว่าคนที่แนะนำให้ขอ B1-2 โดยแจ้งว่าจะเข้าไปชมงานคือทาง blizzard เองนะครับ
ผมสงใสประเด็นเดียวครับ ตามคลิปคือบอกว่าสถานทูตผิดอันนี้ผมว่าไม่น่าใช่เพราะเขาแจ้งแล้ว ประเด็นผมมีแค่นี้ไม่ได้เกี่ยวกับBlizzardที่คุณพูดมานะครัย
ส่วนที่Blizzardคุยกับผู้เล่นให้ไปขอVisaใหม่ผมว่าอันนี้ก็ชัดเจนนะครับว่าขอไปเที่ยวงานซึ่งถ้าจะโวยกับBlizzardผมก็เห็นด้วยนะไม่น่าให้ลักไก่ไปแบบนี้ เพราะถ้าฝืนไปแข่งจริงแล้วถูกจับได้ก็งานเข้าแน่นอน
ค่อยๆ อ่านตามคอนเม้นต์บนบอกดีกว่านะครับ
ผมก็คิดว่าอ่านผิด เลยไปอ่านอีกรอบเลย
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
ผมแยกประเด็นสถานทูตกับBlizzardออกจากกันครับ
เท่าที่ผมหาข้อมูลมา สถานฑูตตัดสินใจไม่เมคเซนส์ตรงที่มองว่าผู้เล่นทุกคนที่ไปจะได้เงินอย่างน้อย 500$ เลยมองว่าต้องทำ Type P ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการขอยื่นฟอร์ม Form I-129 $460 ยังไม่รวมค่าทำวีซ่า Type P อีก 190$ มองจากตรงนี้ยังไงถ้าไปด้วย Type P นี่เข้าเนื้อแน่นอน แถมไม่ได้ไปเพื่อจะเป็นนักกีฬาถาวรด้วย ค่าใช้จ่า่ยเฉพาะวีซ่าที่ต้องออกเงินไปก่อนมีหลักแสนแน่ๆ
ส่วนเรื่องที่บอกว่าฝืนไปไม่ทำตามนั้น อันนี้เข้าใจว่าบลิซซาร์ดเป็นคนบอกให้ไป ดังนั้นจะบอกนักแข่งผิดเต็มๆผมว่าไม่ถูกนะ อีกอย่างคนที่ไปแข่งเค้าก็ไม่ได้รู้ผลก่อนว่าจะไม่สามารถแข่งได้เหมือนกันดูจากไลฟ์ก่อนหน้า
สถานทูตไม่ได้มีหน้าที่ดูว่าคนไปแข่งจะเข้าเนื้อหรือไม่นะครับ เขาให้Visaตามวัตถุประสงค์การเดินทาง ถ้าไม่คุ้มคนไปแข่งก็คงต้องคิดต่อว่าจะดำเนินการอย่างไรครับ
ส่วนเรื่องที่สองพอเขียนว่าไปงานเฉยๆเขาก็ให้ตามนั้นแหละครับคือไปเที่ยวเฉยๆไม่ได้ไปแข่ง ซึ่งจากLiveก็เหมือนกับทางทีมก็รู้ก่อนแล้วว่ามีความเสี่ยงที่จะแข่งไม่ได้ก่อนเดินทางแต่ไปลุ้นเอาหน้างานอีกทีว่าจะแข่งได้หรือไม่เนื่องจากผลของการเจรจามาไม่ทันก่อนflightบิน ซึ่งถ้าเป็นตามนี้คือคุณรู้ล่วงหน้าแล้วล่ะว่ามีความเสี่ยงแต่คุณตัดสินใจที่จะลองครับ
+1 ครับ ไปแล้วมีโอกาสทำเงิน ต้องทำวีซ่าเพื่อไปหาเงินคับ จุดประสงค์มันผิดมากๆ ที่บอกว่าจะขอวีซ่าท่องเที่ยว ไม่รู้ว่ามีวีซ่านักกีฬาหรือเปล่า แล้วเขาจัด e-sport ไว้ในหมวดนั้นไหม (ถ้า B1 รับเงินได้คือ blizzard จดหมายมาไม่ดี) สรุปคือถ้าจะ tricky เน้นง่ายเข้าว่า ไม่อยากจ่ายแพง ถือว่าพลาดมากๆ จะว่า blizzard ผิดที่ไม่ให้ลงแข่งก็ไม่ได้ เขาทำตามกฏ โทษใครไม่ได้ สะเพร่าเองส่วนหนึ่ง น่าจะเช็คให้เรียบร้อย สิทธิตัวเองแท้ๆ ต้องทั้งเรื่องผจก.ที่ลาออก ก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าเมลที่คุยกะงานมันผูกกะผจก. ทำไม่รีบแจ้งคนจัด เรื่องระยะเวลาการเตรียมวีซ่า รายละเอียดวีซ่า ควรจะไปปรึกษาสถานฑูตแต่แรก ถึง Blizzard จะว่าไง แต่คนออกวีคือสถานฑูต ปีหน้าเอาใหม่ สู้ๆ
B1 ใช้สำหรับนักกีฬาที่ไปร่วมแข่งขันแล้วรับเฉพาะเงินรางวัลได้ครับ เขียนอยู่ description ของกฎหมายอเมริกาเองเลย แต่สถานทูตกับ blizzard ประสานกันยังไงก็ไม่รู้ ถึงออกมารูปนี้
น่าจะจากตรงนี้ ทำให้โดนเปลี่ยนประเภท
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
เห็นด้วยกับคุณ s4535065 ทุกข้อความครับ ก่อนสมัครวีซ่าอะไรต้องเข้าใจและศึกษาจุดประสงค์ของผู้สมัครให้ต้องกับการสมัคร visa เหล่านั้น รวมถึง condition/limitation ต่างๆก็ของ visa เหล่านั้นด้วย ผมเชื่อว่าสมัครผิดประเภทของ visa ล่ะครับ
สรุปใครผิด? ผมก็เชื่อว่าสถานทูตทำตามหน้าที่ อีกอย่างคนที่ให้ visa คือ สถานทูต ไม่ใช่ Blizzcon
ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ทำความเข้าใจ
ในคลิปเต็ม ๆ ทีมที่ไปแข่งเค้าก็บอกแล้วว่าสมาชิกบางคนเคยไปแข่งแล้วด้วยวีซ่าประเภท B ซึ่งไม่มีปัญหาอะไร และตามกฎหมายก็ใช้ได้จริง ๆ
แต่เพราะจดหมายของบลิซซาร์ดที่ใช้ประกอบการยื่นขอวีซ่าดันไปเขียนว่าทุกคนจะได้ 500 ดอล (ซึ่งมันคือเงินรางวัลสำหรับคนที่ผ่านการแข่งขันรอบคัดเลือกจนได้มาเข้าร่วมรอบที่ต้องแข่งในสหรัฐฯ แล้ว) แต่สถานทูตกลับตีความว่า 500 ดอลนี่คือค่าจ้างให้ไปแข่งที่สหรัฐฯ ไม่ใช่เงินรางวัล ถึงได้ตีความว่าต้องไปขอวีซ่าแบบ P
ฉะนั้นสถานทูตก็ไม่ผิดซะทีเดียวหรอก แต่ก็ไม่แปลกถ้าจะโดนบางคนตำหนิ เพราะดันตีความเรื่อง 500 ดอลคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
เห็นด้วยนะ
คงเป็นประสบการณ์ไว้ปีหน้า คงต้องปรึกษาให้ถูกคนละแหละ
ขอ งBlizzard -> ของ Blizzard
โชคร้ายที่มีประเทศไทยประเทศเดียวที่พลาดถ้าหลายประเทศอาจจะมีสิทธ์ต่อรองมากกว่านี้
เช่นเข้ามาแข่งในฐานนะทีมพิเศษ เงินรางวัลอาจจะเก็บไว้เพื่อจ่ายในครั้งหน้าที่เข้ามาอย่างถูกต้องเป็นต้น
ปีหน้าก็สู้ใหม่
Professional athletes are permitted to enter the United States on B-1 business visitor visas, as long as they receive no salary or payment other than prize money.
B1 ใช้แข้งได้ครับ รับเงินได้ด้วย แต่ต้องเป็นเงินรางวัลเท่านั้นครับ ถ้ามีการได้รับเงินนอกจากใน prize pool ถือว่าใช้วีซ่าตัวนี้ครับ
แต่โดยทั่วไปแล้วนักแข่งที่ไปแข่งแบบนี้ก็ไมไ่ด้เงินค่าจ้างจากอะไรฝั่งนู้นอยู่แล้ว ไม่ควรมีปัญหาครับ
ในส่วนของ P1 จะเป็นวีซ่าสำหรับนักกีฬาที่มีการว่าจ้าง มีเงินให้สำหรับการเล่นที่ไม่ได้มาจาก prize pool
แต่ในวีซ่าบางครั้ง จะมี remark เขียนไว้ ซึ่งตัวนี้แหละที่น่าจะเป็นปัญหา ที่เขียนว่าให้เข้างาน BlizzCon เท่านั้น
ถ้าเป็นงี้ก็ขอลงแข่งแต่ไม่เอา 500$ ที่แจกทุกคนที่ลงแข่ง แต่เอาแค่เงินรางวัลอย่างเดียว ก็ไม่น่าจะผิดกฎหมายรึเปล่า? ถ้า visa ไม่มี remark นะ
แต่ทาง blizzard นับตรงนี้เป็นเงินรางวัลสำหรับผู้ที่เข้ามาได้ถึงรอบนี้ครับ ไม่ได้เป็นเงินที่จ้างมาแข่ง แต่ทางสถานทูตอาจจะตีความเป็นอีกแบบครับ
สรุปคือน่าจะเข้าใจไม่ตรงกันจริงๆแหละครับ
กะแล้วว่าต้องเป็นบุคคลที่ 3 ที่ไม่มีบริษัทไหนกล้าบุ่มบ่ามวิจารณ์ในตอนแรก
คนด่าโดยไม่หาข้อมูลนี่นึกว่าจะมีแต่ในเฟสบุ๊ค
ผมเข้าใจว่าคนจัดการน่าจะเป็นสถานกงสุลฯ มากกว่าจะเป็นสถานฑูตฯ นะครับ
อีกอย่างคือสถานฑูตฯ หรือสถานกงสุลฯ ประเทศไหนครับ การไม่ระบุอาจจะทำให้เข้าผิดไปได้มากเลย
ทำไมเราไม่ทำตามกฎ ผมเข้าใจว่าทีมจากประเทศอื่นที่เข้าแข่งได้ก็คงทำ visa แบบ P-1 กันหมด มิเช่นนั้นก็คงไม่มีทีมไหนสามารถแข่งได้เลย เพราะทุกทีมที่ผ่านเข้ารอบก็ได้ $500 อยู่แล้ว
ผมว่าไม่ต้องโทษใครเลยเรื่องนี้ ผิดที่ตัวเองล้วน ๆ
That is the way things are.
ผมอยากรู้ว่าทีมอื่นๆ ใช้วีซ่าประเภทไหน ผมเชื่อว่าน่าจะมีทั้ง B และ P อยากรู้สถิติจัง
หยุมหยิม
ฑูต => ทูต
อยากรู้ว่าประเทศอื่นที่ไปแข่งรายการเดียวกัน เขาทำวีซ่ากันยังไง? และ Blizzard ประสานงานให้ยังไง?
เท่าที่หาข้อมูลมาจะสรุปให้สั้นๆ จากข่าวสั้นๆ อีกทีนะ
1.ทีมไทยยื่นขอ visa แบบ B1-B2 ซึ่งครอบคลุมกรณีนักกีฬาที่ไปแข่งในอเมริกาและได้รับเฉพาะเงินรางวัล ย้ำว่า "เฉพาะเงินรางวัล"
2.แต่ใน "จดหมายประกอบการขอวีซ่าจาก Blizzard มีการระบุว่านักกีฬาทุกคนที่เข้าแข่งขันจะได้รับเงิน 500 ดอลลาร์ ซึ่งจริงๆแล้วถือเป็นเงินรางวัลสำหรับการผ่านเข้ามามีสิทธิ์ร่วมแข่งขัน" ทำให้สถานทูตวิเคราะห์ว่าเป็นการจ้างไปแข่ง คือมีรายได้นอกเหนือจากเงินรางวัล แถมขอ visa ในนามทีมกีฬาที่เป็นตัวแทนประเทศอีกทำให้สถานฑูตแจ้งว่าเข้าข่าย visa Type P
3.ทีมไทยเลยต้องขอวีซ่าใหม่ แต่ปรึกษากับ Blizzard ทาง Blizz บอกให้ขอ B1-B2 ใหม่นะแต่ให้แจ้งเหตุผลว่าไปเที่ยว Blizzcon เฉยๆ และBlizzard จะไปเจรจาสถานทูตให้ซึ่งทีมไทยก็ขอวีซ่าตามที่ Blizz บอกและได้ไปถึงอเมริกาแล้ว
4.ไปถึงอเมริกา Blizz แจ้งให้ทีมไทยไปรับทราบผลเจรจากับสถานทูต ซึ่งผลเจรจาทราบหลังจากทีมไทยออกเดินทางจากประเทศไทยแล้ว
5.วีซ่าทีมไทยระบุว่าไปเที่ยวงาน Blizzcon เท่านั้น หลังจากฺ Blizzard ปรึกษากับทนายก็เห็นว่าสุ่มเสี่ยงจะผิดกฎหมายเลยขอให้ทีมไทยไม่ลงแข่ง
สรุปจากที่อ่านข่าวนี้นะ ถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งอื่นก็อย่ามาว่ากัน
+1 มันไม่มีใครผิดทั้งนั้น ทุกคนทำตามหน้าที่ B1-B2 มันก็แข่งได้ รับเงินรางวัลได้ ถ้าเป็น วีซ่าปกติ แต่ของนักกีฬาเราครั้งนี้ เค้าเป็น B1-B2 ที่เพิ่ม Remark ไว้ด้วยว่าให้เข้าชมงาน Blizzcon เท่านั้น เลยแข่งไม่ได้ ถ้าไม่มี Remark ก็แข่งได้ปกติเหมือนนักกีฬาชาติอื่น ๆ ที่น่าจะใช้ วีซ่า B1-B2 เหมือนกัน
คือสถานฑูตบ้านเราออก B1-B2 โดย Remark เพิ่มว่าออกให้ไปชมงานเท่านั้นนะ เลยแข่งไม่ได้ ประเทศอื่นเค้าออก B1-B2 แบบธรรมดาเท่านั้นเองเลยแข่งได้
ผมว่า ผิดที่ Blizzard บอกให้โกหกครับ ว่า "ไปเที่ยวงานอย่างเดียว"
จริงๆคือ Blizzard ต้องเจรจาอธิบายให้สถานทูตเข้าใจ ว่า 500 ดอล มันเป็นเงินรางวัล ไม่ใช่เงินจ้างไปแข่ง
เพื่อที่จะออกวีซ่า B1 ได้
แต่ดันมาบอกให้เราแจ้งสถานทูต ว่าไปเที่ยวอย่างเดียว
ที่ผมสงสัยคือ แล้วชาติอื่นที่เข้าร่วมแข่งขันเค้าขอวีซ่าแบบไหนกัน?
แล้วทำไมไม่ขอให้มันเหมือนๆกันทุกชาติ
ชาติอื่นเขาก็ขอ B1 เหมือนกันนั่นแหละครับ
ได้วีซ่าประเภทเดียวกัน แต่ทำไมบางคนแข่งได้ บางคนแข่งไม่ได้ล่ะครับ งง
ใส่หมายเหตุ ให้ถูกต้องแต่แรกก็ได้แข่งแล้ว งี้เงินรางวัลก็ไม่ได้ซิเนี่ย
พลาดที่บอกว่าให้ขอ B-1 ใหม่โดยบอกว่าไปเที่ยวเฉยๆนี่แหละ ถ้าไปลงแข่งนี่อาจเข้าข่ายโกหกเพื่อให้ได้ Visa แล้วปัญหาใหญ่กว่านั้นจะตามมา
จริงๆผิดเรื่องการประสานงานของฝั่งบ.มากกว่า
อันนี้คือทีมชาติอย่างเป็นทางการหรือเปล่าครับ ถ้าใช่แล้วทางสมาคมฯ ได้ช่วยเหลืออะไรบ้างไหม ทำไมถึงมีปัญหาแค่ประเทศเราประเทศเดียว