จากประเด็นอัยการสหรัฐฯ กังวลเรื่องที่เฟซบุ๊กจะทำแชทแบบเข้ารหัสว่าจะทำให้การสืบคดีก่อการร้าย, ละเมิดเด็กนั้นทำได้ยากขึ้น ล่าสุดเฟซบุ๊กออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนจะยังคงทำให้แชททั้ง Facebook Messenger และ WhatsApp เป็นแชทเข้ารหัสต่อไป
จดหมายแถลงจุดยืนของเฟซบุ๊กจ่าหน้าถึง Bill Barr อัยการสูงสุดสหรัฐฯ, Chad Wolf รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ รวมถึงผู้นำในอังกฤษและออสเตรเลีย
ในจดหมายของเฟซบุ๊กระบุว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่เฟซบุ๊กจะสร้าง backdoor ให้ใครคนใดเข้าถึงข้อมูลเพื่อจุดประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าทำอย่างนั้น ความปลอดภัยของผู้ใช้งานก็จะลดลงและคนชนะคือคนที่จ้องจะหาผลประโยชน์จากการที่การคุ้มครองข้อมูลนั้นถดถอยลงไป
ตั้งแต่เกิดเหตุข้อมูลหลุด เฟซบุ๊กก็พยายามกู้ภาพลักษณ์ เปิดยุทธศาสตร์เน้นความเป็นส่วนตัว รวมถึงการเข้ารหัสแชทในผลิตภัณฑ์ของตัวเองทั้ง Facebook Messenger, Instagram และ WhatsApp (มีการเข้ารหัสอยู่แล้ว) แต่ในมุมของเจ้าหน้าที่ที่ต้องสืบสวนอาชญากรรม ก่อการร้าย คดีละเมิดเด็ก การเข้ารหัสแชทจะทำให้อาชญากรทำผิดได้ง่ายและสืบสวนยากขึ้น ถือเป็นความท้าทายของสังคมที่ต้องหาทางออก และการบาลานซ์ระหว่าง privacy หรือ security
ที่มา - The Verge
Comments
ทิ้งท้ายได้แบบคำถามนางงาม MU มากก
ทำไมช่วงนี้เหมือนมีความพยายามที่จะให้ privacy กับ security อยู่คนละฝั่งกัน?
จริงๆมันไปทางเดียวกัน more privacy = more security
มันต่างตรง public security กับ individual security privacy เป็นแบบหลัง..
เอาแค่ "ไม่ต้องแถมอย่างอื่นมานอกจากแซต" จะเป็นพระคุณมาก
เข้ารหัสแล้วยังจะมีโฆษณาในเรื่องที่แชทกันอยู่รึเปล่าครับ ถ้ายังมีแบบนี้ไม่ต้องเข้ารหัสก็ได้ครับเพราะปกติเรื่องสำคัญเค้าไม่คุยผ่านเครือเฟสบุ๊คกันอยู่แล้ว
ผ่นทางไหน Line ? ซึ่งปลอดภัยมากกกกกกกกก