การใช้รูปหรือตัวปลอมหลอกระบบ Facial Recognition เป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงอยู่บ่อยครั้งในแง่ความปลอดภัยและความน่าไว้วางใจของเทคโนโลยี ล่าสุด Kneron บริษัทที่พัฒนา AI ได้ทดสอบหลอกระบบ Facial Recognition ที่ถูกใช้งานในที่สาธารณะด้วยหน้ากาก 3 มิติที่พิมพ์หน้าบุคคลอื่นไว้
นักวิจัยทดสอบทั้งระบบตรวจคนเข้าเมืองในสนามบิน Schiphol กรุงอัมสเตอร์ดัมและระบบจ่ายเงินด้วยใบหน้าของทั้ง Alipay และ WeChat ในจีน ซึ่งทุกระบบถูกหลอกได้ด้วยหน้ากาก 3 มิติที่นักวิจัยพิมพ์มา และแน่นอนว่าการทดสอบทั้งหมดได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่แล้ว นักวิจัยก็ย้ำด้วยว่าการมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลบริเวณระบบตรวจสอบน่าจะช่วยป้องกันการใช้หน้ากากแบบนี้ได้
อย่างไรก็ตามระบบสแกนใบหน้าของแอปเปิลอย่าง Face ID หรือของ Huawei กลับผ่านการทดสอบนี้ (ไม่ถูกหลอก) เพราะใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Structured Light Imaging ในการเก็บรูปใบหน้าแบบ 3 มิติด้วยการอาศัยแพทเทิร์นของแสงที่กระทบ
ที่มา - Fortune, Business Insider
ภาพจาก Kneron
Comments
กลับผ่านการทดสอบนี้
กลับไม่ผ่านการทดสอบนี้
ต่อไปพัฒนาเพิ่มการตรวจ ต้องให้ยิ้ม อ้าปาก ขยับใบหน้า แค่นี้ก็น่าจะทำให้ยากขึ้น 1000 เท่า แล้ว
มันก็เหมือนกับสแกนนิ้วนั้นล่ะ ถ้าแสกนแบบใหม่มาก็โดนทำอีกสรุปคืิอ ไม่ว่าจะเป็นไงก็ไม่ปลอดภัยอยู่ดี
แต่ถ้ามีทั้งสแกนหน้า และนิ้วก็น่าจะเพิ่มความปลอดภัยได้มากขึ้น และคงมีคนทำ AI แบบนี้อีกเหมือนกัน
ความหมายเขาคือเจ้าหน้าที่ต้องถูกฝึก (และย้ำ) ว่าอย่ามองจอว่าเขียวๆ แล้วปล่อยไปครับ ต้องดูเองให้ชัดอีกที เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีหน้าที่แค่มองว่าหน้าเหมือนในภาพ (คอมทำให้แล้ว และทำได้ดี) แต่ต้องมองซ้ายมองขวาดีๆ
ลายนิ้วมือเองก็น่าจะเหมือนกัน อนาคตเจ้าหน้าที่น่าจะขอดูมือซ้ำว่าไม่มีอะไรแปะอยู่
lewcpe.com, @wasonliw
ระบบอะไรก็มีสิทธิ์ถูกเจาะทั้งนั้นแหละครับ point ของมันคือ ระบบที่มีอยู่นั้นสามารถให้ความสะดวกพร้อมกับมีระดับความปลอดภัยที่ยอมรับได้หรือเปล่า
นี่มัน Mission Impossible
หน้ากากในภาพนี้งานไม่ค่อยเนียบเท่าไร แต่มีของคุณภาพดีกว่านี้มาปลอมขนาดหลอกตาผมได้เลย ถ้าไม่รู้จักกันมาก่อนไม่มีทางบอกได้เลยว่าหน้าปลอม
เดี๋ยวแยกเป็น
Active(คือจะเปิดใช้งานได้เฉพาะตอนที่หน้ามองเครื่อง)ตลอดเวลา(แต่ก็เปลือง Battery)
กับ
Passive(คล้าย Interupt แบบที่ใช้อยู่กันทั้งไป)
แต่ก็เห็น Qualcomm ่ทำสแกนนิ้วใหญ่ขึ้น ต่อไปคงทั้งจอถ้าลายมือไม่ตรงโดยใช้ AI ช่วยแยกเฉพาะช่วงกด
ส่วนอีกแบบก็ Project Soli หรือ Soli radar ของทาง Google
เสร็จทำงานด้วยกันทั้งหมด
ได้ผลิตผลแบบ Nintendo Switch คงอีกนาน