By: hinatasenjou 
on 19 December 2019 - 17:33
Tags:
Google พยายามผลักดันแกมบังคับให้ USB-PD เป็นมาตรฐานกลางในการชาร์จไฟบนแอนดรอยด์ ซึ่งก็ทำให้สมาร์ทโฟนตระกูล Pixel รองรับ USB-PD ไปโดยปริยาย
อย่างไรก็ตาม Pixel รุ่นที่ผ่านมาแม้จะชาร์จด้วยสายที่ไม่รองรับ USB-PD ส่วนใหญ่ก็จะยังสามารถจ่ายไฟให้กับสมาร์ทโฟนได้ ทว่าบน Pixel 4 เหมือน Google จะจริงจังเรื่องมาตรฐานสายชาร์จมากขึ้น จากการที่ Android Authority ค้นพบว่าสาย USB-A to USB-C บางเส้นไม่สามารถใช้งานกับ Pixel 4 ได้ไม่ว่าจะจ่ายไฟหรือถ่ายโอนข้อมูล
Android Authority พบว่า USB-A to USB-C บางเส้นถึงจะจ่ายไฟให้ Google Pixel 3, Pixel 3a และมือถือรุ่นอื่นได้ตามปกติ แต่ไม่สามารถจ่ายไฟหรือโอนข้อมูลให้ Pixel 4 ได้ หรือต่อให้จ่ายไฟได้ แต่กำลังไฟที่ได้ก็จะสูงสุดแค่ 7 วัตต์เท่านั้น ไม่ว่าสายชาร์จและหัวชาร์จจะเป็นมาตรฐาน Quick Charge หรือ USB Charging 1.2 บนโน้ตบุ๊ค (USB ที่จ่ายไฟได้เองไม่ต้องเปิดเครื่อง) ก็ตาม (Pixel 3, 3a ถ้าไม่ใช่ USB-PD ก็จะรับไฟได้สูงสุด 7 วัตต์เช่นกัน)
อย่างไรก็ตาม ทางเว็บไซต์ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้สายชาร์จบางเส้นจ่ายไฟให้ Google Pixel 4 ไม่ได้ แต่ Android Authority สันนิษฐานว่าอาจจะมาจากการที่กูเกิลบังคับให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่ใช้ USB-C ต้องรองรับ USB-PD ด้วย จึงเริ่มทำที่สมาร์ทโฟนของค่ายตัวเองอย่าง Pixel 4 ก่อน
นอกจากนี้ทางเว็บยังพบว่า Pixel 4 ก็ไม่รองรับอะแดปเตอร์แปลง USB-C เป็นช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรของค่ายอื่นนอกจากของ Google Pixel ด้วยกัน รวมทั้งต่อพอร์ตแปลง USB-C เป็น HDMI ไม่ได้อีกด้วย
ที่มา: Android Authority
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
พื้นฐานของ Android ทำไม่ได้เองครับ เป็นมาทุกรุ่นรวมไปถึงพวก Android ที่ไม่ได้ดัดแปลงให้ทำได้ด้วยอย่างพวก pure Android หลายๆ ตัว ตัวไหนทำได้คือผู้ผลิตดัดแปลงเพิ่มให้
7w นี่ก็เร็วกว่าสายที่แถมมากะ iPhone 11 แล้วนะ 554
USB-C to 3.5mm ผมว่าน่าจะเป็นประเภทสายมากกว่านะ เพราะในบทความเขาบอกว่าใช้ของ OnePlus กับ Huawei ซึ่งเป็นสายแปลงแบบอนาล๊อคทดสอบ (ไม่มี DAC ในตัว)
กรณีนี้ผมว่าถ้าใช้สายแปลงแบบดิจิตอล (หรือแบบมี DAC ในตัว) แบบของ Samsung Apple ก็น่าจะใช้ได้นะครับ?
บทความนี้ส่วนตัวผมคิดว่าคนเขียนบทความต้นฉบับหาข้อมูลไม่แน่นเท่าไหร่ ก็ฟังหูไว้หูละกัน อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่า Google จงใจกั๊ก
ผมว่าถ้าเขาไม่ได้ประกาศว่า "รองรับ Quick Charge" ไว้ แล้วมือถือมันไม่ใช่มาตรฐานนี้ ... ก็เรื่องปรกตินะครับ (อาจจะลดต้นทุน?)
ส่วน USB Charging เท่าที่เห็นคือ ตามมาตรฐานแล้วมันทำได้แค่ 7.5W (1.5A) เท่านั้น ไอ้ที่ชาร์จตั้งแต่ 10W ขึ้นไปนี่ไม่มาตรฐานอะไรมารองรับ แค่ทำตาม ๆ กันเท่านั้น ดังนั้นการที่จะไม่รองรับก็เป็นเรื่องปรกติเหมือนกัน
ดังนั้นถามว่ากั๊กมั้ย ? ก็คงไม่ ก็อาจจะแค่เลือกใช้ regulator ที่ไม่รองรับกำลังที่สูงกว่าที่มาตรฐานระบุไว้เท่านั้นเอง
เห็นด้วยครับ ผมว่ากูเกิลทำถูกแล้วที่พยายามทำมือถือตัวเองให้ยึดเฉพาะมาตรฐานกลางอย่างเดียว อะไรที่นอกเหนือจากนี้ตัดทิ้งหมดซึ่งก็เป็นไปตาม goal ของ Pixel อยู่แล้วที่ทำตัวเป็น reference ให้ผู้ผลิตเจ้าอื่น ฉะนั้นเรื่องนี้ไม่ใช่การกั๊กหรือถือว่าเป็นปัญหาแต่อย่างใด เพียงแค่ทำสิ่งที่ควรทำเท่านั้น
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
ทำไมดูจะไม่ใช้ปัญหาหว่า
เอาจริงๆ USB-PD ก็มาตราฐานกลาง เรื่อง USB-C to 3.5mm เข้าใจว่าต้องใช้ DAC จากตัวสาย ไม่ใช่ที่ตัวเครื่องแบบยี่ห้ออื่นๆ
ส่วนตัวใช้ Xperia 1 อยากได้ Fast Charge ก็ต้องใช้สายและที่ชาร์จมาตราฐาน USB-PD ถึงจะใช้ได้ QC 3.0 ที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ตอนใช้ XZ1 ก็ใช้ไม่ได้ ส่วน USB-C to 3.5mm ก็ต้องหาตัวที่มี DAC ที่สาย ไปใช้พวกสายถูกร้อยกว่าบาทเอามาใช้ก็ใช้ไม่ได้เหมือนกัน