กระทรวงการคลังออกกฏกระทรวง ฉบับที่ 355 ตามพ.ร.บ.ร่างแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร ฉบับที่ 48 ที่เปิดทางให้กระทรวงการคลังสั่งให้สถาบันการเงินส่งข้อมูลของผู้ที่ได้รับเงินเข้าบัญชีทุกบัญชีรวมกันเกินจำนวนครั้งที่กำหนด (3,000 ครั้งต่อปี หรือ 400 ครั้งแต่ยอดเกิน 2 ล้านบาท)
ข้อมูลที่กระทรวงการคลังขอได้แก่ เลขประจำตัวเจ้าของบัญชี (เลขบัตรประชาชน, เลขหนังสือเดินทาง, เลขทะเบียนนิติบุคคล, เลขประจำตัวผู้เสียภาษี), ชื่อ-นามสกุล, จำนวนครั้งที่ฝากหรือรับโอนรวมกัน, จำนวนเงินที่ฝากหรือรับโอนรวมกัน, เลขบัญชีทุกบัญชีที่มีการฝากหรือรับโอน จะเห็นว่าข้อมูลที่ส่งไปให้ไม่มีรายละเอียดการโอนหรือฝากแต่ละครั้งแต่อย่างใด รวมถึงไม่ได้แจกแจงว่าบัญชีใดได้รับโอนมากน้อยเพียงใด เพียงแต่ขอเลขบัญชีที่เกี่ยวข้องเท่านั้น
ประกาศยังระบุว่าการนับจำนวนครั้งนั้นให้นับทุกวิธี และหากเป็นเงินตราต่างประเทศให้นับตราอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันสิ้นปี
ที่มา - ราชกิจจานุเบกษา, Facebook: TaxBugnoms
Comments
รีด.. ไปทำประชานิยม
ผมไม่มองว่าเป็นการรีดนะ ผมมองว่าเป็นการทำให้เท่าเทียม กวาดต้อนคนที่หนีภาษี หรือไม่เคยเสียอย่างถูกต้องมากกว่า
คนที่เสียอย่างถูกต้องอยู่แล้วไม่ได้เสียเพิ่มขึ้น
ถ้ามองแค่ข่าวนี้มันก็เหมือนปกติล่ะครับ
แต่เท่าที่ผมทราบ ปีนี้รัฐได้มีนโยบายการเก็บมากจนเกินผิดปกติ
และภาษีบางอันมันก็ไม่มีประเทศไหนในโลกเก็บก็มีอย่าง
- ภาษีความหวาน (เหตุผลสวยหรูอ้างสุขภาพประชาชน มาหากินกับพฤติกรรมปกติของมนุษย์)
- ภาษีเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ (กำลังจะเก็บ งี่เง่ามันก็แค่เครื่องดื่มรสเหมือนเบียร์ควรจะไปอยู่ในภาษีความหวาน)
- ภาษีความเค็ม (ยังพิจารณา อาหารเกือบทุกอย่างมีส่วนประกอบของเกลือ มาม่า ขนมถุง)
- ภาษีรายได้จากกองทุน
และอื่นๆ อีกเยอะมาก
แทนที่จะเร่งแก้ปัญหาภัยแล้งน้ำท่วมที่มันมีทุกปี หรือเร่งสร้างระบบคมนาคมขนส่ง (ที่สร้างนานมาก ผ่านไป 20 ปีก็เพิ่มมานิดเดียว)
ภาษีหวาน/เค็มนี่ผมเห็นด้วยที่เก็บภาษีนะ ผู้ผลิตจะได้ปรับสูตรกันบ้าง
มันมีเก็บซ้ำซ้อน เช่นชาเขียว โดนทั้งภาษีชา และความหวาน
ส่วนเรื่องปรับสูตรก็แค่ลดต้นทุน ไม่ลดราคาขายหรอก ดูจากราคาขาย กาแฟดำกระป๋องก็ขายเท่ากับกาแฟรสปกติ ทั้งๆที่เสียภาษีไม่เท่ากัน
อย่างน้อยก็มีทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการลดหวานเค็มครับ เรื่องลดราคาขายไม่ใช่ประเด็น
ภาษีหวานอังกฤษเก็บแล้ว
ภาษีความเค็มญี่ปุ่นก็เก็บ
อ้อที่ญี่ปุ่นเขาเก็บภาษีความอ้วนด้วยละ
https://today.line.me/th/article/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%8D%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%8E%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2+%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%87+%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%99-ZQy367
ญี่ปุ่นที่ดูมาไม่มีภาษีความอ้วนครับ บ้านเราตีความกันเองว่ามันเป็นภาษีทั้งๆ ที่ถ้าคนที่อ้วนเกินเกณฑ์มาตรฐาน
อาจจะต้องเข้าคอร์สหรือเข้ารับคำแนะนำเพื่อลดความเสี่ยงโรคที่เกี่ยวกับความอ้วนครับ
Ref : Wikipedia ภาษาญี่ปุ่น
ก่อนจะ Comment อะไร ต้องค้นข้อมูลดูก่อนนะครับ
คนมาอ่านผ่านๆ ก็นึกว่าไทยเก็บอยู่ที่เดียวในโลก
ภาษีความหวานและความเค็ม มีประเทศอื่นเก็บมาก่อนแล้ว
โดยส่วนใหญ่ของภาษีต่างๆ ส่วนใหญ่เราลอกเขามาทั้งนั้น ไม่ได้คิดเอง
ภาษีความหวาน
ภาษีความเค็ม
คือผมใช้คำว่าบางอันเพราะผมแน่ใจอยู่อันเดียวครับ
และประเด็นหลักของผมคือมันเยอะมากในเวลา 1 ปี
มันเยอะแล้วมันมีอันไหนที่ผิด และไม่เป็นสากลบ้างครับ?
ภาษีเบียร์ไร้แอลกอฮอล์
อันนี้เห็นด้วย ว่าแต่เก็บแล้วเหรอครับ?
ผมเข้าใจว่าภาษีที่เก็บไม่ใช่ภาษีแอลกอฮอล์ แต่เป็นภาษีสรรพสามิตรทั่วๆ ไปนะ เพราะอากรแสตมป์ไม่ใช่อากรแสตมป์แอลกอฮอล์
แต่ผมก็มองว่าควรเก็บเป็นน้ำอัดลมทั่วๆ ไปอ่ะนะ
คำพูดของคุณมันย้อนแยงน่ะครับ
หยุดมโนกับคำว่า "ไม่มีประเทศไหนในโลกเก็บ"
เพราะ วิธีคิด และภาษีต่างๆ ของประเทศเรา ล้วนแต่ลอกประเทศอื่นมาปรับใช้
แล้วอีกอย่าง NON-ALCOHOLIC BEER จริงๆ แล้วมี Alchohol ประมาณ 0.5% ไม่ใช่ไม่มีเลย
ย้อนแย้งตรงไหนบ้างครับ
ย้อนแย้งตรงที่บอกว่าไม่มีที่ไหนในโลกเก็บแล้วลิสต์มาหลายตัว สุดท้ายมั่นใจอยู่แค่ตัวเดียวไงครับ
ผมเขียนบรรทัดที่สาม ว่า "บางอัน" นะครับซึ่งมันก็บอกว่าไม่ใช่ทุกอันที่ผมว่ามานะครับ
"บางอันมันก็ไม่มีประเทศไหนในโลก" แล้วที่คุณยกมาอันแรกนั่นมันขัดกับคำว่าบางอันของคุณ เลยทำให้มันไม่มีน้ำหนักครับ
จะสื่ออย่างนี้หรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ผมก็มองอย่างท่านอื่นๆว่านะว่าย้อนแย้ง
ถ้ามองแค่ข่าวนี้มันก็เหมือนปกติล่ะครับ
แต่เท่าที่ผมทราบ ปีนี้รัฐได้มีนโยบายการเก็บมากจนเกินผิดปกติ
- ภาษีความหวาน (เหตุผลสวยหรูอ้างสุขภาพประชาชน มาหากินกับพฤติกรรมปกติของมนุษย์)
และภาษีบางอันมันก็ไม่มีประเทศไหนในโลกเก็บก็มีอย่าง
- ภาษีเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ (กำลังจะเก็บ งี่เง่ามันก็แค่เครื่องดื่มรสเหมือนเบียร์ควรจะไปอยู่ในภาษีความหวาน)
- ภาษีความเค็ม (ยังพิจารณา อาหารเกือบทุกอย่างมีส่วนประกอบของเกลือ มาม่า ขนมถุง)
- ภาษีรายได้จากกองทุน
และอื่นๆ อีกเยอะมาก
แทนที่จะเร่งแก้ปัญหาภัยแล้งน้ำท่วมที่มันมีทุกปี หรือเร่งสร้างระบบคมนาคมขนส่ง (ที่สร้างนานมาก ผ่านไป 20 ปีก็เพิ่มมานิดเดียว)
รายได้รัฐภาษี ไม่มีเงิน จะเอาอะไรมาแก้น้ำท่วมหรือคมนาคมครับ
ไม่มีเงินแก้ปัญหา แต่มีเงินจัดโต๊ะจีนครับ Kappa จะช่วยน้ำท่วมยังมีรับบริจาค สรรหา สว. มีงบเป็นพันๆล้านแต่ได้พรรคพวกตัวเอง ภาษีมันก็แค่ข้ออ้างในการรีดเงินอะคับ...
เพิ่มเติม บอกไม่มีงบนู่นนี่แต่ดันมีให้ลาวกู้ งงๆกะตรรกะ..
มีชื่อซ้ำกันบ้างมั้ยครับนี่ เหมือนประเทศเราเป็นศูนย์รวมรูปแบบการเก็บภาษีทุกอย่าง เราเอาของเขามาจริง แต่ดูเหมือนกับเอาของแต่ละประเทศมารวมกันจนกลายเป็นของเราเก็บทุกรูปแบบมากกว่า มันจะกลายเป็นไทยมีภาษีทุกอย่าง แต่ต่างประเทศจะมีบ้างไม่มีบ้างคละกันไป
รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่ลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐานมากที่สุดแล้วครับ หลายๆ โครงการผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด เพียงแต่มันไม่ใช่กระดิกนิ้วเสกให้เสร็จได้ในทันที
นั่นสิ อยากทำอะไรก็ได้ไม่มีใครขวางเหมือนช่วงต้น 2550
เจ็บ
ไม่ต้องรอถนนลูกรังหมดก่อนด้วย
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
ขอโทษเถอะครับ รัฐบาลก่อนหน้ามีแต่แผนการกู้เงิน ผลการศึกษายังไม่มีเลย แถมกู้เงินมาตั้งไว้ ใช้ได้ตลอดอีก
สำหรับผมมองว่าสุดท้ายก็ไม่ควรมาประท้วงเพื่อรัฐประหารน่าจะดีกว่านะครับ
ก็เล่นล้มของเก่าหมด แล้วเปิดประมูลด้วยวิธีพิเศษ ใช้ม.44ยกเว้นข้อกฎหมายเพียบเลยครับ มันก็ไวสิครับ
ไม่ได้ล้มของเก่าครับ ทำต่อ คุยกันมาเรื่อยๆ
สมัยก่อนผลการศึกษาไม่เสร็จดี แต่ กู้เงินมาหละ
ล้มของเก่าก็ไม่ดี เอามาทำต่อก็บอกว่าลอก ...
ผมก็รู้สึกว่า เป็นรัฐบาลที่เข้ามา เพื่อสร้างหลาย ๆ อย่างที่รัฐบาลก่อนหน้าทำไม่ได้
อาจเนื่องจากความขัดแย้งทางด้านการเมือง, การต่อต้านของประชาชน จากการเก็บภาษี
ปัญหาจากหน่วยงานอิสระต่าง ๆ ที่ค้านไปทุกอย่าง
โดนทุบด้วย ม.44 ทุกอย่างเกิดขึ้นมาได้ทันที
/ เอาเข้าจริงถือว่าทำได้ไม่เลวนะ สร้างมากขนาดนี้ ซื้อรถถัง ซื้อเรือดำน้ำ
แต่บัญชียังเกินดุลจนเงินบาทแข็งซะงั้นอะ
ถึงจะบอกว่าทั่วโลกค่าเงินตกไปเองก็เหอะ
/ พอรัฐบาลนี้ลงไป ก็คงจะได้ฐานที่ค่อนข้างโอเค ให้รัฐบาลตอ่ไปมาตีกันต่อ
เป็นคนล้มประมูลของคนเก่าเอง ด้วยจากคนที่ตัวเองแต่งตั้งหรือก่อม๊อบไปประท้วง หรือแม้แต่ม.44สั่งยกเลิกย้อนหลัง
แล้วก็ใช้ม.44 ทำโครงการใหม่ โดยอ้างว่าตัวเองทำสำเร็จ?
บัญชีเกินดุล? เอาตัวเลขเงินสำรองฯมาพูดปนกันหรือเปล่า เราทำงบประมาณแบบขาดดุลต่อเนื่องมาตั้งแต่รปห.แล้วนะครับแถมกู้เป็นภาระต่อเนื้องอีกหลายล้านๆบาทแล้ว ทีงี้ไม่สงสัยเรื่องความโปร่งใสเหมือนตอนกู้สร้างรถไฟความเร็วสูงกันบ้างเลย(ตอนนั้นหลายคนเย้วๆว่า กู้ไม่ถูกหลักการ ไม่ผ่านกระบวนการปกติ ฯลฯ) หลายๆโครงการใช้ม.44กำหนดประมูลวิธิพิเศษทั้งนั้น
อย่างว่าคนทั่วไป สนแค่ผลลัพธ์ ไม่ว่ากระบวนการมันจะเน่าแค่ไหน หรือมีโอกาสที่จะได้ดีมากกว่านี้แค่ไหนก็ตาม
บาทแข็งเพราะสงครามการค้าจีนเมกาครับ การส่งออกเราตัวเลขตกต่ำต่อเนื่อง ถ้าไม่ได้ทำภาคอุตสาหกรรมแล้วจะมองไม่ออก ต่างชาติเขาเอาเงินเข้ามาพักเพื่อเก็งกำไร หรือส่งต่อเพื่อซื้อสินค้าจากจีน-เมกา(กรณีห้ามทำการค้าโดยตรง) ไม่ได้เอามาลงทุนอะไรในประเทศ
คุณเข้าใจผิด
เกินดุล คือดุลการค้าครับ
แต่เป็นคนละเรื่องกับงบ
ยกเลิกประมูล ยกเลิกอะไรครับ เพราะตอน 2.2 ล้านๆ ยังใช้ตัวเลขประมาณการเลย
โครงการใหนกู้เงินพิเศษ เอามาคุยกันครับ เพราะผมว่าผมตามเรื่องนี้ตลอด หรือผมหลุด? เค้าก็เงินใน ปท เป็นส่วนใหญ่
สมัยยิงลักษณ์ใช้ 4.2 ล้านๆ แบ่งมากู้ 2.2 ล้านๆ
สมัยนี้ 3.6 ล้านๆ
ทั้งฟมดคือทำทั้งระบบเหมือนกัน
ถ้าเอาตามความเป็นจริงที่เห็นนะครับ
คนส่วนใหญ่เสพย์แค่สิ่งที่สือ่ปั่นออกมาให้อ่าน โดยไม่สนใจว่าความจริงจะเป็นยังไง ต่างหากล่ะ
แต่ถ้าอยากได้ความจริง อาจจะเหนื่อยหน่อย
เพราะต้องไปตาม page คนที่ชื่นชอบสิ่งต่าง ๆ
เช่น page คนชอบรถไฟ เขาก็จะสรุปข้อมูลความจริงทุกอย่างมาให้
หรือ ถ้าเกี่ยวกับคดีความ ก็ตามเพจ ทนายต่าง ๆ (แต่ต้องดูหลาย ๆ page หน่อย)
ซึ่งมันก็ยาวมาก
ถ้าจะโทษ ก็โทษ pr ของรัฐบาลเองแหละครับ ที่ทำให้มันเป็นแบบนี้
ตอบรวมๆสองคนแล้วกัน ข้างบน
ใครเข้าใจผิด เขาไมไ่ด้เขียนว่าดุลการค้านี่ครับ ดุลการค้าเราก็เกินดุลมาตลอด ไม่น่านับเป็นผลงานอะไร ตราบใดที่ประเทศเรายังทำรายได้จากส่งออกเป็นหลัก แต่ตัวเลขส่งออกตกต่ำ ติดลบ นี่ไม่พูดถึงเลยหรือครับ?
ส่วนเรื่องกู้วิธีพิเศษ ผมพูดถึงเรื่องการจัดประมูลวิธีพิเศษครับ ตามจริง ต้องเคยเห็นประกาศม. 44 ยกเว้นกฎกติกาเพียบ ขนาดไม่บังคับว่าต้องมีคู่เทียบก็ยังมี บางอันให้ละเว้น EIA หรือกฎหมายสิ่งแวดล้อมบางอัน
ข้างล่าง
เพจรถไฟที่คนทำเพจไปเป็นแกนนำม๊อบตอนจะแปรรูปรฟท.ออกมาเป็นบ.น่ะหรือครับ แถมพอ ARL ให้เงินเดือนดี ก็หนีตามกันไปซะงั้น ไม่อยากจะ discredit แต่คนพูด พูดความจริงไม่ครบถ้วน ก็เป็นการชี้นำผิดๆเช่นกัน
อยากให้ลากไส้เพจดังที่คุณว่ามาเลยครับรับชุดข้อมูลจาก io แทบจะทั้งนั้น ไม่เคยสังเกต trigger หรือ?
ขออภัยที่ผมเพิ่งมาเห็น แต่อยากให้ลากไส้เหมือนกันครับ ผมอยากรู้ว่าเป็นไปตามนั้นมากแค่ไหนครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ได้ของราคาแพงกว่าด้วย ไม่มีคนบ่น
มันแค่ถึงช่วงที่จะเปิดประมูลเฉยๆ
ถ้ารัฐบาลมีศักยภาพจริง โครงการที่คาราคาซัง อย่าง รถไฟฟ้า
ส้มตก ม่วงใต้ แดงอ่อน ฟ้า เทา น้ำตาล ต้องเปิดประมูลไปได้แล้ว ไม่ใช่ยืดเยื้อมา ตั้งแต่รัฐบาล ที่แล้ว แล้ว จนตอนนี้ก็ยังไม่ได้ประมูล
เพิ่งผ่าน EIA กำลังเวณคืนที่ คิดว่ากำลังจะประมูลเร็วๆ นี้
โครงการรถไฟเด่นชัย-เชียงรายสิครับ
พูดตั้งแต่รปห.ใหม่ๆ จนผ่านมาห้าปี ยังไม่ผ่านการลงมติครม.สักที...
แทนที่จะรีบสร้างเพื่อทำทางเชื่อมสู่จีนง่ายๆ ทุกวันนี้เราขนส่งจากจีนมาทางสะพานห้วยทรายที่เชียงของทั้งนั้น
เคสนี้ไม่ได้ตาม แต่search ข่าว กำลังเวนคืน
ในฐานะที่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง
โครงการนี้ ยังไม่ผ่านการอนุมัติงบใดๆครับ รวมไปถึงรางคู่เส้นทางอื่นๆก็เงียบมาสองปีแล้ว
เรื่องเวนคืนก็แค่การสำรวจ ซึ่งการสำรวจทำแผนครั้งแรกสุดก็ตั้งแต่ผมเด็กๆ 30กว่าปีแล้วมั๊ง
ถ้าไม่อนุมัติงบก็ไม่เริ่มครับ
โครงการนี้อนุมัติหลักการตั้งแต่ตอนรปห.ใหม่ๆแล้ว
คุณยินยอมกับการเบิกงบหระมานที่ไม่มีการตรวจสอบเหรอครับ ขอให้เกิดกับบริษัทของคุณนะ
ไปแช่งเค้าทำไมอ่ะครับ เค้ายังไม่ได้บอกว่าเห็นด้วยเลย แค่ไม่ได้พูดถึงไม่ได้แปลว่าเห็นด้วยนะ
ถกการเมืองมันไม่จำเป็นต้องใส่อารมณ์ เหมือนพวกคลั่งเอาคำพูดคนไปตีความหมาย แล้วก็มาระเบิดใส่คนนั้นคนนี้
เหมือนพวกไม่รัก xxx, yyy ก็ออกจากประเทศไปซะอ่ะครับ ... นิสัยไม่ดีจะเอามาใช้ทำไม
มันก็ควรมีนะ ประเทศเราต้องเสียงบประมาณกับค่ารักษาคนป่วยตั้งเท่าไหร่ จ่ายแค่สามสิบบาทแต่ต้นทุนการรักษามันแพงกว่านั้นเยอะ
สามสิบบาทมีมาตั้งนานแล้วครับ แต่รัดถะบานที่รีดภาษีจากชนชั้นกลางมากมายขนาดนี้เพิ่งจะกำเนิด เอาไปช่วยคนจน? ทุกวันนี้คนจนในบริบทของรัดถะบานแทบจะเป็นอภิสิทธิ์ชนอยู่แล้วนะครับ แจกเงินให้เปล่าทุกเดือน เดือนละหลายๆ ร้อย ต้องใช้ให้หมดด้วยนะ คนจนเอาเงินไปซื้อสินค้าที่มีโฆษณา ชื่อดัง เพราะเป็นเงินให้เปล่า ล้มกระดาน sme รายย่อยในพื้นที่ รวมทั้งโชวห่วยรายเล็กรายน้อยที่ไม่มีปัญญาติดตั้งเครื่องรูดบัตร ยุคนี้คนรวยยิ่งรวย คนที่จนลงคือชนชั้นกลางครับ ต่อไปก็จะเหลือแต่คนรวยสุดๆ กับคนถือบัตรคนจน เท่าเทียมดีมาก
ร้านเพื่อนผมเป็นร้านโชว์ห่วยเล็ก อยู่ต่างจังหวัด แบบในซอยลึกเลย ทางรัฐบาลมาติดตั้งเครื่องให้เสร็จสรรพ พร้อมทดสอบใช้งานให้ด้วย ฟรีนะครับ ผมว่า รบ นี้ก็ทำงานดีอยู่นะ
มันมีทั้งดีทั้งแย่แหละครับ ทุกรัฐบาล เวลาวิจารณ์ก็ต้องบอกว่ารัฐบาลนี้ทำอะไรดีบ้าง อะไรแย่บ้าง อะไรห่วย อะไรไม่ได้เรื่องก็ว่าไป
ถ้าเอาข้อดีแค่บางอย่างมาพูดแล้วบอกว่ารัฐบาลทำงานดีนี่ก็แย่
อีกส่วนก็เอาข้อเสียมาพูดอย่างเดียว ไม่เคยพูดถึงข้อดี อันนี้ก็แย่
+1
แยกเป็นเรื่องๆ
แล้ววิเคราะห์ดีเลว...แค่นั้นก็จบ
ควรทำนั่นแหละ
บางคนแทบไม่เสียภาษีเลย (ยกเว้น VAT ที่น่าจะโดนทุกคน) ซื้อขายออนไลน์รายได้ก็ไม่น้อย ยิ่งถ้าคุยผ่าน Line, Messenger, Inbox ทั้งหลาย ไม่มีหน้าเว็บก็ไม่รู้จะตรวจสอบยังไง ถ้าไม่ตรวจจากจำนวนครั้ง ก็บอกยากว่าอันไหนโอนเงินทั่วไปหรือโอนจากการซื้อขาย
สำหรับจำนวน 3,000 ครั้ง
คนทั่วไปที่ไม่ได้ขายของออนไลน์ คงไม่โดนผลกระทบ
ค้าขายต้องเสียภาษี บางเจ้าขายของราคาเต็มแถมไม่ยอมเสียภาษีอีก ยิ่งสมควรโดน
หวยใต้ดิน คงจะโดนก่อนเลย
เร่งเก็บภาษีในระบบให้ได้เต็ม 100
แต่คนเสียภาษีไม่ได้มีสิทธิเต็ม 100 ในการเลือกคนใช้ภาษีที่จ่ายไป
นี่ไม่นับค่าใช้จ่ายจากความล้าหลังเชิงนโยบายอีกนะ
พอจะเก็บภาษีก็ว่าเขาถังแตกบ้าง
ประเทศอื่นๆที่เค้าเจริญทำกันแบบนี้เหรอผมมองว่ามันเป็นข้อมูลส่วนตัวมากเกินมันมีวิธีตรวจสอบอื่นที่ดีกว่านี้
China Model ครับ
อยากทราบเหมือนกันครับว่าถ้าไม่ใช้วิธีนี้ควรจะเป็นวิธีไหน
ถ้าประเทศที่เงินอยู่บนระบบเยอะๆ เปิดบริษัทกันเป็นหลัก ระบบการตรวจสอบบัญชีจะเป็นอีกแบบอยู่แล้วครับ
lewcpe.com, @wasonliw
จริง ๆ ก็ตรงไปตรงมาดีนะ เงินเข้าบัญชีอาจจะเป็นรายได้ที่ควรหักภาษีก็ได้
ข้อมูลก็มีแค่จำนวนครั้งกับยอดรวม กระทบความเป็นส่วนตัวไหมก็คงมีบ้าง ..แต่จะให้ดีแคลร์เองก็คงไม่ 555
จะประเมินแม่นยำขนาดไหนขึ้นกับว่าจะใช้โมเดลใหนวิเคราะห์ว่ายอดรายได้สุทธิควรจะเป็นเท่าไหร่
อันที่จริงควรแจ้งยอดเงินออกรวม และบัญชีลงทุนกับโบรกฯด้วยนะ การวิเคราะห์รายได้น่าจะแม่นยำขึ้น
และถ้าจะให้ยุติธรรม ก็ควรเก็บข้อมูลทุกคน เอาข้อมูลตรงนี้ไปวิเคราะห์ด้านอื่น ๆ เพื่อกำหนดนโยบายบริหารประเทศด้วย
จริงๆผมไม่เคยมีปัญหากับการเก็บภาษีเลย ยินดีจ่าย แต่มีปัญหากับการใช้ภาษีมากกว่า รู้สึกไม่ได้ประโยชน์จากมันเท่าที่ควร
เช่น การจัดเลี้ยง รัฐมนตรี และ สส
คงต้องแยกกันอะครับ ภาษีคือหน้าที่ทุกคนต้องจ่าย ส่วนการนำไปใช้ก็ต้องหาวิธีแก้ไขกันไปครับ
ก็แยกกันมาตลอดนั่นแหละครับ ทำตามหน้าที่มาตลอด แต่ไอ้การแก้ไขเรื่องการนำไปใช้เนี่ยมันเกินหน้าที่ผมไปนิดนึง ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน อยากจะแก้ด้วยการไม่จ่ายภาษีก็ไม่ใช่เรื่อง อย่างที่บอกว่า "คงต้องแยกกัน"
ง่ายๆ ครับ ให้ประชาชนทุกคนเป็นคนจัดการเองทั้งหมด แล้วเลือกว่าจะให้รัฐบาลหรือหน่วยงานเอาไปทำอะไร แล้วโหวตอนุมัติไปเลย หมดปัญหาใช้เงินภาษีฟุ่มเฟือย ง่ายด้วยอีกต่างหาก
มันถึงเวลาต้องเปลี่ยนศูนย์กลางจากรัฐบาล มาที่ประชาชน 100% ได้ตั้งนานแล้ว
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
คิดไปคิดมาญี่ปุ่นเองก็ใช้โมเดลนี้อยู่นี่นา ทีนี้เลยมองย้อนกลับมา ถ้าจะทำมันก็มีตัวอย่างให้เห็นแล้วว่าทำได้จริง
อยากให้มี Cashless Society แต่ดูกฏหมายสิ
แบบนี้ มันก็เหมือนบีบให้คนก็อยากใช้เงินสดต่อไป ถ้าไม่อยากให้ข้อมูลเราถูกส่ง
3,000 ครั้งต่อปี หรือ 400 ครั้งแต่ยอดเกิน 2 ล้านบาท
มันไม่ได้มีปัญหากับคนจ่ายเงิน แต่มันมีปัญหากับคนรับเงินหรือพ่อค้า แล้วมันจะส่งผลกระทบต่อ Cashless Society ยังไงในเมื่อคนจ่ายไม่ได้โดนผลกระทบอะไร ต่อให้พ่อค้าดึงดันจะรับเงินสดแต่สุดท้ายก็ต้องเก็บในบัญชีธนาคารอยู่ดีซึ่งก็ไม่รอดเหมือนกัน
ก่อนหน้านี้จ่ายผ่าน QR ได้ ตอนนี้ร้านไม่อยากรับแล้วไงครับ มีผลกับพวกของที่ transaction ต่อวันเยอะๆ อย่างร้านข้าวแกงเงี้ย สุดท้ายร้านขอรับเป็นเงินสด แล้วไปโอนเข้าบัญชีทั้งก้อนทีเดียว คนจะจ่ายก็จ่ายไม่ได้ต้องไปกดเงินสดออกมา อะไรประมาณนี้
แต่ธนาคารก็มีตัวช่วยให้ อย่างไทยพาณิชย์มีแอพแม่มณีที่เหมือนเป็น wallet ส่วนตัว แล้วตั้งให้โอนเข้าบัญชีทีเดียวทั้งก้อนได้ ลด transaction ไปได้เยอะเลย
สังคม Cashless จุดติดไม่ยากเลยครับ
โดยปกติภาษี VAT บ้านเรา 10% แต่ทุกปีจะมีการออกพระราชกฤษฎีกา ลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มเหลือ 7%
เพียงแค่ปีต่อไปออกพระราชกฤษฎีกา ลดเหลือ 7% สำหรับการจ่ายผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น เงินสดให้คิด 10% ตามเดิม หรือจะลดเหลือแค่ 8-9% ก็ได้ เท่านี้คนก็หันมาใช้ cashless กันแล้ว พอคนใช้มากร้านก็จะโดนกดดันให้รับชำระผ่านช่องทางอิเช็กโทรนิกส์แบบอ้อมๆ ร้านไหนที่ไม่รับคนก็อาจจะไม่เข้าแค่นั้นเอง
ผมรายได้ประจำเสียภาษีอยู่แล้ว แต่ที่ไม่พอใจคือภาษีผมเป็นเงินเอาไปทำรัฐประหารนี่ซิ แล้วก็เลือกตัวเองมาเป็นต่อ น่าจะมีวิชีที่ชอบธรรมมากกว่านี้
เข้าของบัญชี > เจ้าของบัญชี
"ประกาศยังระบุว่าการนับจำนวนครั้งนั้นให้นับทุกวิธี และหากเป็นเงินตราต่างประเทศให้นับตราอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันสิ้นปี"
อันนี้อันตราย ปีหน้าค่าเงินบาทอ่อนยวบแน่ๆ เพราะแข็งมานานแล้ว มันต้องย้ายไปสินทรัพย์อื่น ผลคือต้นปีไปปลายปี ห่างกันมากแน่ๆ โลกการเงินไม่มีอะไรคงที่ได้นานหรอกยิ่ง ค่าเงินแข็งเป็นประวิติการณ์ที่บ่นๆกันแบบนี้ยิ่งคงตัวไม่นานก่อนจะทรุด
ถ้าสงครามการค้าจีนเมกา คลี่คลายลง
บาทอ่อนทะลุ 35 แน่ๆล่ะครับ ตอนนี้บาทแข็งเพราะทุนนอกเข้ามาพัก หรือใช้เป็นตัวกลางทั้งนั้น ส่งออกตกต่ำลงเหว
เห็นคนเชียร์รบ.ทหาร บอกบาทแข็งเพราะเศรษฐกิจไทยดี อยากจะขำ...
บาทแข็งมันก็เศษฐกิจแนวโน้มแบบนั้นนะครับ คือเราดีกว่าชาวบ้านไง หรือพูดอีกด้านคือแย่น้อยกว่าชาวบ้าน และเพราะอัตราดอกเบี้ยด้วย
ส่วนประเทศใหญ่ เช่น
เพราะเขาแทรกแทรงค่าเงินแถมมีกำหนดไม่ให้ค่าเงินเกิน 5% ด้วยมั้งถ้าจำไม่ผิด เช่นจีน
USA ก็พิมพ์เงินเพิ่มทำให้มูลค่าอ่อนลง ตอนนี้กำลังดูดซับกลับไปเพื่อลดจำนวนดอลล่า แต่ล่าสุดได้ชะลอการทำแล้วเพราะเศรษฐกิจชะลอตัว
EU ดอกเบี้ยติดลบ
JP นี่ดอกเบี้ยติดลบหรือเล่านี่จำไม่ได้แต่ใกล้ 0
เลยมา Asian ก็ตามสภาพ เงินลงตามความเชื่อมั่นเศษฐกิจ มาเลเซียนี่ตกต่ำ ฟิลลิฟปินนี่มีปัญหาอยู่ อินโดนนีเซียไม่รู้ สิงคโปร์นี่ทรงๆ ไทยน่าจะดีอันดับต้นๆ ไม่อันดับ 2 ก็อันดับ 3 นี่หล่ะใน Asian อ่ะ จะด้วยอะไรก็ไม่รู้หล่ะ
ส่วนที่อื่นๆในโลกเดาว่าเหลือ อินเดีย กับ แอฟริกาใต้ ที่ อาจมีการนำเงินไปพักไว้ที่นั่น ส่วนเขตอเมริกาตายผมว่าเละไปแล้ว เงินไม่น่าไปพักที่นั่น
สุดท้าย เศษฐกิจดี แต่ละคนใช้ตัวชี้วัดไม่เหมือนกันนะ มุมมองนักลงทุนคงมองอย่างอื่นแล้วเทียบกันไม่ได้ใช้แบบมุมมองคนในประเทศ แต่เป็นเงินร้อนด้วยเพร้อมโยกออกถ้ามีที่ที่ดีกว่า
อย่างมุมมองแม่ค้าที่เคยได้ยินบ่อยก็จะได้ยินว่าเศษฐกิจไม่ดี ค้าขายไม่ค่อยดีตลอดนั่นหล่ะ มีใครเคยได้ยินแม่ค้าบอกเศษฐกิจดี บ้างหล่ะในช่วงชีวิตเราอ่ะ จะมีก็คงก่อนตำยำกุ้งมั้ง คือพีคสูงสุดก่อนฟองสบู่แตกเลย งี้ถ้าแม่ค้าบอกว่าเศษฐกิจดีเมื่อไหร่ก็ ควรระวังตัวสินะ
บาทแข็งส่งออกแย่ครับ ตปท. เขาหาว่าของเราแพงไปก็ไปซื้อประเทศอื่น พอขายของไม่ได้ ก็ลดคนงาน สั่งวัตถุดิบลดลง กระทบห่วงโซ่อุปทานเป็นทอดๆ บางแห่งปิด รง. ย้ายฐานไปเลย ล่าสุดก็ mazda จะย้ายกลับไปผลิตรถบางรุ่นในญี่ปุ่น
รง. ปิดตัว/ลดคน คนกินข้าวหายไป แม่ค้าข้าวแกง ตามสั่งก็ขายได้ลดลง ก็ซื้อหมูซื้อผักลดลง แม่ค้าในตลาดก็บ่นว่าขายไม่ดี เศรษฐกิจแย่
ประเทศไทยพึ่งรายได้หลักมาจากภาคส่งออก ไม่ใช่การบริโภคในประเทศ ดังนั้นเวลามันกระทบจะหนักหน่วงมาก
มันเป็นแบบนี้ครับ
ตัวเลขการขยายตัวบ้านเราแย่กว่าเพื่อนบ้านรอบๆนะครับ....
ไหนๆ ก็เก็บเพิ่มรัวๆ แล้ว อยากให้เก็บภาษีสัตว์เลี้ยงตามแต่ขนาดตัวและสายพันธุ์ ไปอีกอันจัง
พอจะจัดระเบียนหมาแมว ก็โดนต้านกันอะครับ เสียเงินค่า Tag ติดตามตัวหมา ตัวละไม่กี่ร้อยต่อปี คนก็ด่ากันเละแล้ว ปัญหาหมาแมวจรจัดคงไม่มีทางหมดไปจากประเทศไทย
เห็นด้วย สำหรับคนขายของออนไลน์กับพ่อค้านอกระบบ แต่นอกจากนั้น ไม่ได้มีผลดีกับคนกลุ่มอื่นเลย
เห็นด้วยกับการเก็บภาษี แต่ควรจะใช้ภาษีให้คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากพอที่จะไม่ต้องกู้เงินจากสถาบันการเงินและจากต่างประเทศในการทำโครงการต่างๆ และลดต้นทุนที่สามารถเลี่ยงได้
อย่างเช่น ให้นักโทษมาทำงานเป็นแรงงานในโครงการของรัฐ (สร้างอาคาร วางท่อ สร้างระบบขนส่งมวลชน ผลิตสินค้า เครื่องใช้ และรถสาธารณะ) แลกกับการลดโทษหรือปล่อยตัวแล้วเข้าทำงานให้กับรัฐ สำหรับนักโทษสถานเบา ก็ไม่เลวร้ายนะ ลดต้นทุนจากการจ้างบริษัทเอกชนหรือต่างชาติได้เยอะเลย
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
เจ้ามือหวยไม่น่ารอด คงไม่พ้นทรูมันนี่ตามเคย
น่าสงสารบางคนโดนภาษี 30 35% แต่สวัสดิการรัฐก็เหมือนไม่มี
ถ้าประชากรมากกว่า 40% ของประเทศ มีรายได้พอที่จะจ่ายภาษี และจ่ายภาษี 30% ผมเชื่อว่าน่าจะดีขึ้นครับ
ถ้าในสภาไม่มีคนบ้าๆ บอๆ เรียงลำดับ priority ด้วยความรู้สึกพร้อมเข้าสงครามมาตั้งแต่ 40 - 50 ปีก่อนอ่ะนะ
คุณต้องลงทะเบียนเป็นคนจนครับ แล้วจะได้อภิสิทธิ์ที่สมควรจะได้รับเท่าเทียมกันทั้งประเทศ. ยุคนี้คนชั้นกลางอยู่ลำบากครับ รายได้หด รายจ่ายท่วม โดนรีดภาษีจุกจิกอีก คนจนได้สวัสดิการ บลา บลา ยกระดับขึ้นมาเท่าเทียมชนชั้นกลาง แต่ยังคงทำตัวเหมือนเดิม ไม่พัฒนาตัวเอง รอเงินให้เปล่าใส่บัตรเดือนละหน คนที่รวยจริงเขาวางแผนรับมือจัดการภาษีเอาไว้เรียบร้อย
สิ้นปีมา ใน payslip ออกมา น้ำตาหลั่งไหล โดนหักภาษีไป 1 เดือนเต็มๆ
ทำงาน 12 เดือน ได้เงินแค่ 11 เดือน
น้ามตาจะไหล
30 บาท ประกันสังคมนี่ ดี ติดอันดับโลกเลยนะครับ
ช่วย Ref แล้วกันนะครับ
https://www.brighttv.co.th/news/social/social-insurance-pension-retire-thai
มีประกันสังคมแล้ว 30 บาทหลุดไม่ใช่หรอครับ
เก็บทุกภาษี ทุกเม็ดแต่พอเป็นต่างชาติลดทุกภาษีลดแหลกแจกแถม ถามหน่อยจะเอาบริษัทในประเทศไปแข่งกับต่างชาติยังไง แค่ต้นทุนทางภาษียังแข่งไม่ได้ขนาดนี้
ไม่ได้รับการยกเว้นภาษีไม่ได้ทำให้ความสามารถในการแข่งขันลดลงนี่ครับ ยกเว้นว่าจะเป็นบ.ที่ตั้งมากิน margin ต่ำๆ จากยอดขายเยอะๆ อันนั้นก็คงเป็นกรณีไป
ค้าขายแข่งกัน คนไทยต้องจ่ายภาษี คนต่างชาติจ่ายภาษีน้อยกว่าหรือไม่จ่ายเลย มันก็แพ้ตั้งแต่เริ่มแล้วนี้ครับ
จะเถียงกันทำไม สรุปเก็บภาษีผมแล้ว คุณและผมได้อะไรบ้าง... ผมจ่ายทุกปี
สรุปแบบเข้าใจ ที่ซอยบ้านผมได้ฟุตบอลเน่า ๆ เจาะแทบปีเว้น ฝาท่อเตรียมชำรุด
ฝนตกน้ำท่วมรอระบาย
เรามาต้องคำถามดีกว่าเก็บภาษีแล้ว มีอะไรบ้างที่ทำให้รู้สึก ชีวิตดีขึ้น หรือสวัสดิการ
ใช่คับ นอกจากเอาไปแจกหาเสียงเชิงนโยบาย แล้ว ประชาชนทั่วๆไป เราได้อะไรบ้าง จากการบริหารเงินภาษี
รพ.รัฐฯ, อนามัย (ชื่อใหม่ รพ.ประจำตำบล), 30 บาทรักษาทุกโรค, ขสมก.
ฯลฯ
จริงๆ มีเยอะคับ ที่ใช้ภาษีได้อย่างเหมาะสม ส่วนที่ไม่เหมาะสม เราก็ไม่สามารถ ทัดทานหรือโต้แย้งได้เลย
ถ้าพูดแบบนี้เห็นด้วยครับ