ประเด็นความรุนแรงกับเกมมักถูกหยิบโยงขึ้นมาหลายครั้ง ไม่ว่าจะในสหรัฐอเมริกาเวลามีเหตุกราดยิงหรือในประเทศไทยเองก็ตาม และที่ผ่านมาหลายๆ ครั้งก็มีผู้เชี่ยวชาญออกมาชี้แจงหรืออ้างอิงงานวิจัยว่าเนื้อหารุนแรงในเกม ไม่มีความเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมก้าวร้าว
ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สมาคมจิตวิทยาอเมริกัน (APA) ได้ออกแถลงการยืนยันอีกครั้งว่ายังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มากพอที่จะเชื่อมโยงเกมว่าเป็นสาเหตุหลักของพฤติกรรมรุนแรงได้ และยืนยันข้อสรุปที่ทางสมาคมเคยประกาศในปี 2015 หลังจากเริ่มมีงานวิจัยชิ้นใหม่ๆ มาสนับสนุนมากขึ้น
APA กล่าวว่า พฤติกรรมความรุนแรงเกิดจากหลายปัจจัยประกอบกัน และการโทษเกมว่าเป็นสาเหตุหลัก ไม่ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ และอาจทำให้ความสนใจถูกดึงไปจากสาเหตุอื่น เช่นการเคยเป็นเหยื่อของความรุนแรงในอดีต ซึ่งมีผลวิจัยชี้ชัดว่าทำให้เกิดพฤติกรรมรุนแรงในอนาคตได้
ภาพจาก Shutterstock
แต่ในแถลงการยังพูดถึงอีก ว่าอาจมีความเชื่อมโยงระหว่างเกม กับความรุนแรงเล็กน้อย เช่นการ ตะโกนด่าทอ หรือการใช้กำลังเช่น การผลัก แต่ยังไม่สามารถเชื่อมโยงผลไปยังความรุนแรงที่ร้ายแรงกว่านี้ได้
เรื่องนี้เป็นประเด็นขึ้นมาหลังจากสมาคมกีฬาโรงเรียนมัธยมของรัฐเคนตัคกี ออกมาแบนเกม Fortnite จากการแข่งขัน esports ในสถานศึกษา หลังจากที่ PlayVS บริษัทที่เป็นพาร์ทเนอร์และตัวตั้งตัวตีสำคัญในการแข่งขัน esports ในโรงเรียนมัธยมอเมริกา เพิ่มเกมนี้ไว้บนแพลตฟอร์มของตัวเอง
Comments
ไม่ใช่สาเหตุ กับไม่ใช่สาเหตุหลัก ผมว่าความหมายต่างกันเยอะอยู่นะ
การตะโกนด่าทอ การผลักกัน ไม่เรียกว่าก้าวร้าวเหรอ?
อีกอันคือ พฤติกรรมเลียนแบบ แน่นอนคนเล่นเกมส์ไม่ได้แปลว่าจะกราดยิง แต่คนที่อยากแก้แค้นสังคม กับคนที่อยากแก้แค้นสังคมแล้วชอบเล่นเกมยิงๆ ผมว่าแบบหลังมีสิทธิ์กราดยิงมากกว่าแบบแรก
ผมว่าการมีพ่อแม่นี่แหละครับที่ทำให้คนกลายเป็นคนรุนแรง สังเกตุได้ว่าคนที่ก่อดหตุกราดยิงมีพ่อมีแม่ทุกคน
มันก็จริงนะ???
หรืออาจจะสาเหตุหลักคือเขาเป็นคน หรือว่าเพราะบิ๊กแบง
เราต้องอะไรที่ differentiate สิครับ ไม่ใช่หาข้อที่เป็นจริงร่วมทั้งสองกรณี
ยุคนี้ใครไม่เล่นเกมบ้างล่ะครับ แล้วเกมแนว action, FPS เป็นแนวที่มีผู้เล่นเยอะที่สุดด้วย
ผมถึงใช้วิธีการยกตัวอย่างว่ามีพ่อแม่ เพราะมันเป็นอะไรที่ใครๆ ก็มี เช่นเดียวกับที่คนสมัยนี้ใครๆ ก็เล่นเกมครับ
มันเป็นปัจจัยร่วมที่มีกันเกือบทุกคน และที่สำคัญควรดูว่าอะไรเป็นเหตุเป็นผล เช่น ชอบความรุนแรง เลยมาเล่นเกมแนวนี้ หรือมาเล่นเกมแนวนี้เลยกลายเป็นคนรุนแรง
สมัยก่อนผมเห็นคนเล่น Ragnarok นี่หัวร้อนมากกว่าคนที่เล่นเคาท์เตอร์ฯ อีกครับ เจอแจมทีนึงถึงขั้นหลอกมากระทืบกันเลย
ผมว่าคุณคิดไปเองละครับว่ายุคนี้ใครๆ ก็เล่นเกม fps action
เพราะคนเล่นเกมส่วนใหญ่กว่าร้อยละเก้าสิบเล่นบนมือถือ ไปหาได้ว่าเกมอะไรเป็นที่นิยมบนมือถือ ส่วนใหญ่ก็แบ๊วๆ มีรุนแรงหลุดมาก็แค่ pubg อันเดียว
มโนข้อมูลขึ้นมาเอง จะถกกันจริงๆ จังๆ แบบนี้คุยกันยาก
แต่คุณอ่านแล้วตีความว่า
ตีความผิดแล้วบอกว่าผมมโนขึ้นมาเองนี่นะ? นี่ผมไม่ได้หัวหมอนะ ผมตั้งใจพิมพ์ชัดเจนว่าทุกคนเล่นเกม และความนิยมอันดับหนึ่งคือ action และ fps
ส่วนข้อมูลที่คิดว่าผมมโน ผมไม่รู้จะให้ได้อย่างไรหมดครับ แต่เข้าคุณเข้ากูเกิลแล้วหาได้ คุณเลือกแหล่งข้อมูลที่คุณเชื่อถือได้เองด้วยครับ ผมไม่อยากแปะลิงค์เดี๋ยวจะหาว่าผมเอาแต่ลิงค์ที่เข้าข้างตัวเองมาแปะอีก
ผมหาข้อมูลก่อนมาแซะคุณเพื่อกันตัวเองหน้าแตกครับ ผมหน้าแตกบ่อยอ่ะนะ
ถ้าหาข้อมูลสำหรับเกมทั่วๆ ไปพิมพ์ว่า popular game genre ครับ ส่วนสำหรับมือถือ popular mobile game genre
แนะนำว่าลองเข้ากูเกิลแล้วหาจริงๆ จังๆ นะครับ จะได้ไม่ "มโน" เหมือนผม
//ผมไม่เล่นเกมครับ
คือสื่อที่มีภาพความรุนแรงก็มีเยอะแยะ แต่ทำไมคนถึงโฟกัสกันแต่เกม เพราะเกมเราต้องเข้าไปควบคุมการกระทำ เลยเสมือนว่าเราเป็นผู้กระทำด้วยตัวเองจริงๆ แบบนั้นเหรอ
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
อาชีพผลิตเกมไม่ใช่อาชีพที่คนส่วนใหญ่เข้าถึงได้ และทีอิทธิพลกับประชาชนน้อยอ่ะครับ
สื่อที่มีอิทธิพลมากกว่าย่อมไม่โดนเล่นงานอ่ะนะ
มันง่ายอ่ะครับ คนทำเกมในไทยก็ไม่เยอะ มีก็คนตัวเล็กที่ไม่ได้มีเสียงโวยวายอะไร ผู้ใหญ่มองว่าเป็นเรื่องของเด็กๆซึ่งค่านิยมบ้านเราผู้ใหญ่ไม่เคยเคารพเด็กอยู่แล้ว
จริงๆ แล้วเป็นปัญหาระดับโลกนะครับ ไม่ใช่แค่ที่ไทย อย่างทรัมพ์เองก็โทษเกมบ่อยๆ
comment นี้โหดมากครับ 555+
That is the way things are.
ฮ่าๆๆๆ สันดานผมไม่ค่อยดีครับ
เม้นต์นี้โคตรเรียล babyboom อาจรับไม่ได้
+1 พวกตรรกะเดียวกันแป๊ะพวกตรรกกะแบบนี้คงรับได้
+555
"หนามยอกเอาหนามบ่ง"
งั้นควรเลิกพูดถึงอาชีพทหาร ตำรวจ กรอกหูเด็ก ๆ ก่อนเลย วันเด็กก็เอารถถัง เอาเครื่องบิน เอาปืนมาโชว์ ให้เด็กขึ้นไปเล่นขี้นไปนั่ง เนี่ยแหละน่าเลียนแบบสุด ๆ ของเล่นเด็กก็มี "ปืน" นี่แหละ ที่ไม่ว่าคุณจะไปซื้อร้านของเล่นเด็กร้านไหนมันจะต้องมีขายทุกร้าน แบบนี้ไม่น่าเลียนแบบกว่าเหรอครับ
เผื่อคุณจะมาเถียงว่า อาชีพสองอาชีพนั้นเค้าทำเพื่อดำรงความยุติธรรม เพื่อความสงบของสังคม คือในมุมมองคนที่ก้าวร้าว กราดยิง เนี่ย เค้ามองว่าเค้าอดทนมาจนสุดแล้ว เค้ามาทวงความเป็นธรรมเนี่ยแหละครับ เค้ามองว่าเค้าทำถูกในมุมของเค้าอะนะ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
อาชีพมันคงยกเลิกไม่ได้ ตราบใดที่ยังอยากมีความสามารถในการป้องกันการรุกรานของประเทศอื่น (ไม่ต้องบอกว่าด้วยว่าสมัยนี้เขาไม่มีใครรบกันเพราะมันไม่จริง)
เห็นด้วยครับว่าวันเด็กควรเลิกเอารถถังไปสร้างความรู้สึกดีๆ ด้านนี้กับเด็ก แต่ประเด็นคือการถ่ายรูปคู่กับทหาร กับการดูหนังคนยิงๆ กันมันต่างกันนะครับ พฤติกรรมเลียนแบบคือเห็นคนทำ ไม่ใช่เห็นของชิ้นนั้น ไม่งั้นพฤติกรรมเลียนแบบคงเป็นเด็กชอบสะพายปืนยืนตรง?
ทำไมถึงมี assumption ว่าผมเห็นดีเห็นงามกับการกรอกหูเด็กเรื่องอาชีพตำรวจทหารครับ ผมยังไม่ได้หยิบประเด็นนั้นมาเลย
"อาชีพมันคงยกเลิกไม่ได้ ตราบใดที่ยังอยากมีความสามารถในการป้องกันการรุกรานของประเทศอื่น (ไม่ต้องบอกว่าด้วยว่าสมัยนี้เขาไม่มีใครรบกันเพราะมันไม่จริง)" - เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง
"เห็นด้วยครับว่าวันเด็กควรเลิกเอารถถังไปสร้างความรู้สึกดีๆ ด้านนี้กับเด็ก" - เย้ เราเห็นตรงกันข้อนึงละ
"แต่ประเด็นคือการถ่ายรูปคู่กับทหาร กับการดูหนังคนยิงๆ กันมันต่างกันนะครับ พฤติกรรมเลียนแบบคือเห็นคนทำ ไม่ใช่เห็นของชิ้นนั้น ไม่งั้นพฤติกรรมเลียนแบบคงเป็นเด็กชอบสะพายปืนยืนตรง?" ของชิ้นนั้นเราและเด็กก็ต่างรู้ว่าเอาไปใช้ทำอะไรครับ มันไม่เหมือนมีดนะ ที่เห็นแล้วต้องคิดว่าเอาไปทำครัวก่อน ไม่ใช่เอาไปกระซวกใครเล่น ไม่งั้นคงไม่มีภาพเด็กไปเล่นปืนจริงวันเด็กทำท่ายิงปืนแบบแรมโบ้ ทำหน้าสะใจสุด ๆ หลุดออกมาเป็นมีมแน่นอนอะ และผมถึงยกตัวอย่างร้านของเล่นไง เด็กคงไม่ซื้อปืนไปเล่นทำกับข้าวกระมังครับ?
"ทำไมถึงมี assumption ว่าผมเห็นดีเห็นงามกับการกรอกหูเด็กเรื่องอาชีพตำรวจทหารครับ ผมยังไม่ได้หยิบประเด็นนั้นมาเลย" - ผมไม่ได้มี assumption นั้นเลย ผมแค่ยกตัวอย่างว่ามันมีประเด็นอีกเพียบเลยที่เราไปโทษมันได้ว่าเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนคลั่งไปกราดยิงใครต่อใคร ซึ่งอาชีพตำรวจ-ทหาร เนี่ย ก็เป็นหนึ่งในนั้น
ดังนั้นผมคิดว่าจะตีขลุมไปบอกเสียทุกครั้งไปว่าเกมเป็นหนึ่งในปัจจัยแน่ ๆ ของคนคลั่ง ผมว่ามันไม่ถูก สุดท้ายแล้วมันต้องดูเป็นคน ๆ ไปมากกว่า บางคนอาจบ้าเกมสุด ๆ แถมเล่น FPS ด้วย แต่การคลั่งอาจไม่ได้เกี่ยวกับเกมเลยซักนิดนึงก็ได้ (อาจเกี่ยวแค่รู้จักปืนชนิดต่าง ๆ ดีแค่นั้น) - อันนี้ผมไม่ได้เขียนตั้งแต่แรก อาจทำให้เข้าใจผิด ต้องขออภัยด้วยครับ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ขออนุญาตินะครับ ภาษา eng ที่เค้าพูดถึงคือ ไม่มีหลักฐานที่เพียงพอ ที่จะอ้างใด้ว่า ... ไม่ใด้บอกว่า ไม่ใช่สาเหตุ ก็จะตะแบงให้เป็นสาเหตุรอง
เรื่องสำคัญคือ ใน usa เค้าอนุญาติไห้มีปืนใด้โดยถูกกตหมาย... อยู่ในรัฐธรรมณูญเค้า กลุ่มธุรกิจปืน กับสมาคมปืนไรเพิล (National Rifle Association หรือ NRA - มีช่องทีวีของตัวเองด้วย) เลยกดดันประธานาธิบดี เพื่อให้ขายปืนใด้สดวกเหมือนเดิม ดังนั้นทุกครั้งที่เกิดเรื่อง เค้าจะอ้างเกมส์ ... เพราะ พูดเรื่อง ปืน ไม่ใด้
... ทั้งนี้ใน usa มีปัญหาเรื่องการกราดยิงกันอย่างมาก ปล้นทองลพบุรีบ้านเรา ตาย 3 เจ็บ 4 เป็นเรื่องใหญ่แค่ใหน ... ใน usa เฉพาะปีที่แล้วเค้า Mass Shooting 435 ครั้ง ตาย 517 คน เจ็บ 1,648 คน
https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_mass_shootings_in_the_United_States_in_2019#Statistics
และมันก็เข้าใจใด้ง่ายมากว่า video games กับ mass shooting ไม่เกี่ยวกัน
ส่วนเรื่องบ้านเรา ไม่อยากให้เกิดการยิงซ้ำ ก็ไปดูวิธีการจัดเก็บปืน จะดูเรื่องทำไมทหารเครียด ก็ไปดูเรื่องการกู้บ้านทหาร
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เป็นความเชื่อ ไม่ได้ต้องการเหตุผลรองรับ
ไม่ใช่สาเหตุหลักแต่ช่วยส่งเสริมทางอ้อมนะเป็นไปได้
ตย. จาก FB แก
สาเหตุหลักคือแกเป็นทหารรึเปล่าครับ ไม่ใช่น่ากรอบรูป
มันอาจจะเป็นหนึ่งในสาเหตุจริงๆก็ได้
แต่ประเด็นสำคัญคือ การที่ยกให้เกมเป็นจำเลย มันทำให้สาเหตุอื่นๆถูกมองข้ามไป
ซึ่งนี่แหละที่ทำให้ปัญหาไม่ถูกแก้ไขสักที
+1 ครับ
สิ่งที่เรารับมาต่าง ๆ มันย่อมมีแรงกระตุ้นมากน้อยตามแต่ภูมิคุ้มกันของแต่ละคน
อาจเป็นแค่องค์ประกอบส่วนร่วมหนึ่งบ้าง
แต่คนชอบโทษว่าเป็นทั้งหมดของสาเหตุหรือปัจจัยหลัก
แล้วก็ทำเป็นมองข้ามสาเหตุหลักจริง ๆ อื่น ๆ ไป
(อาจเป็นเพราะ สาเหตุปัจจัยหลักที่ส่งผลมาก คนที่ชอบโทษไม่อยากพูดถึง บอกไม่ได้ กระทบตัวผู้พูด ผู้ที่ชอบโทษเอง)
ผมมั่นใจว่าเกมเป็น 1 ในปัจจัย แต่ไม่ใช่สาเหตุครับ ผมเห็นว่าเกมช่วยวางแผนก่อเหตุ ช่วยให้เข้าใจอาวุธได้เยอะนะ
ใช้ครับ "ช่วยวางแผนก่อเหตุ ช่วยให้เข้าใจอาวุธได้เยอะ"
ไม่ใช้ สาหตุ แต่เป็น วิธี วิธีที่ในการเรียนรู้ถ้าจะฆ่าใช้วิธีไหนฆ่าก็ได้จะไปอ่านหนังสือดู youtube ดูหนังสารคดีก็ได้เหมือนกัน
โดนโกงค่าบ้านค่าที่ พอมันทะลุหลอดไปแล้วครับ จะหักปัจจัยอะไร เกม หนังสือ youtube หนัง สารคดี หักไปหมดนี้มันก็จะต้องลงมือฆ่าครับ
เจ้าตัวเค้าบอกว่าไม่เล่นเกมส์ครับ - https://www.techoffside.com/2020/01/ปล้นร้านทอง-ลพบุรี/
อีกอย่างเค้าชอบกีฬายิงปืน และมีพ่อเป็นอดีตตำรวจ น่าจะวางแผนก่อเหตุ และเข้าใจอาวุธ เยอะกว่าที่เกมส์จะสอนมั้งครับ
... ถ้าเรื่องที่เกมส์สอนเป็นเรื่องจริง คงมีกระสุนปืนเกลื่อนเมือง และตอนนี้ผมคงจะวิ่งไปหาซื้อ BFG (doom) มาประดับบ้าน
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ผมว่าสังคมเป็นปัจจัยหลัก เกมเป็นเสี้ยวนึงของปัญหานะ ที่เหลือเรื่องครอบครัว เงินทอง ความรัก ยาเสพติด เปอเซนต์ยังสูงกว่าเสียอีก
ตีไก่ ชนวัว ดูมวย กินเหล้า แล้วด่าเด็กเล่นเกมส์
ปัจจจุบัน นี้ เด้กๆ น่าจะ ทุกคน ต้องผ่าน การเล่นเกม มากันอยุ่แล้ว นะ ก็มีส่วนน้อยๆ มาก ที่ จะเกิด ความรุนแรงแบบนั้น
อาจจะมีส่วนนะครับ ผมนี่พยายามร่ายเวทย์ Explosion หลายรอบแล้ว แต่ MP ไม่พอซักที
เดี่๋ยวเกิดออกขึ้นมา สลบไปทั้งวันเลยนะครับ
นี่เ__ุ_ิ_เหรอครับ -.-
เมกุมิน
-ใช้ครับตอนนี้เล่นเกมปลูกผักอยู่ครับ คิดว่าผมอยากจะหยิบปืนขึ้นมายิงนายกไหมครับ
-แล้ว ROV DOTA ละมีใครเล่นแล้วคุ้มคลั่งใช้สกิลถล่มหน่วยงานรัฐที่ไหนบ้างไหม้
-เล่น GTA แล้วไปขโมยรถ ได้ยังไงในเกมมันสอนวิธีงัดรถตัดสายไฟต่อวงจรวิธีหาแหล่งขายรถไว้ปลอยของระเอียดขนาดนั้นเลยหรือครับพอดีไม่ได้เล่นแค่ดูคนอื่นเล่นเลยไม่ค่อยมีความรู้(แค่ดูก็รู้ว่าเกมมันไม่ได้สอนขนาดนั้น)เกมมันก็แค่เปิดประตูแล้วดึงคนในรถออกมาแค่นั้น
-แล้วก่อนตอนเกิดสงครามโลกนี้เด็กยุคนั้นคงติดเกมกันแทบจะทุกบ้านใช้ไหม
-และก็เพราะเกมด้วยใช้ไหมที่สอนให้โกงค่าที่ดินค่าบ้าน จนเค้าต้องสติแตกหาทางออกชีวิตไม่ได้จนต้องมาทำอะไรแบบนี้
-14 ตุลา จัตุรัสเทียนอันเหมิน ที่ต้องยิงประชาชนเนียก็เพราะเกมใช้ไหม
-ที่ต้องสร้างนิวเคลียร์เยอะจนล้างโลกได้เป็นสิบรอบเนียก็เพราะเกมใช้ไหม
-การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่มันมีอยู่ทั่วโลกก็เพราะเกมใช้ไหม
แน่จริงก็พิมย์มาเลยว่า ใช้
แน่จริงก็อย่าสะกดผิดสิ
ขอโทษครับ เห็นแล้วอดไม่ได้พิมพ์สะกดผิดเยอะเกิ๊นนนนนน
นายเล่นเกมส์ปลูกผัก ต้องไปเป็นเกษตรกรดิ
ชั่ย
เกมมันไม่ใช่สาเหตุหลัก แต่ผมว่ามันคืออาหารของความรุนแรง
อาหารไม่ได้ทำให้คนหิว แต่ความหิวทำให้คนอยากกินอาหาร
คนไม่ชอบกินอาหารเผ็ด ก็ไม่กินเผ็ดอยู่แล้ว
ถึงจะมีอาหารเผ็ดมาวางต่อหน้า ก็ใช่ว่าเขาจะเปลี่ยนใจไปชอบมันได้
ผมว่าเกมคืออาหารของอารมณ์ อาหารของสัญชาตญาณลึกๆของคนคนนั้น คนไหนมีจิตใจอย่างไร มีอุปนิสัยอย่างไร ชื่นชอบอะไร ก็จะเล่นเกมแนวนั้น ดังนั้นเกมไม่ใช่ต้นเหตุ แต่มันเป็นอาหารที่คนหามารับประทานหล่อเลี้ยงให้จิตใจด้านนั้นเติบโตขึ้น เอาจริงๆแล้วเราทุกคนมีความรุนแรงในจิตใจทั้งนั้นแหละ แต่การที่เราจะทำอะไรเกินขอบเขตมันอยู่ที่ขอบเขตของเรามันแค่ไหนหรือเราควบคุมใจเราให้อยู่ในขอบเขตได้ไหม ถ้าขอบเขตเราแข็งแรง การควบคุมเราดี ก็ไม่มีปัญหา นี่จึงเป็นที่มาที่เกมมีเรตติ้ง ก็เพื่อให้แน่ใจว่าคนที่จะเล่นเกมนั้นๆ มีขอบเขตต่างๆที่มั่นคงแล้ว เข้าใจในขอบเขตของมันและจะไม่เสพมันจนล้ำเส้นไป ไม่ใช่เฉพาะความรุนแรง รวมไปถึง เซ็กซ์ คำหยาบ และอื่นๆด้วย
ร้อยทั้งร้อยการเล่นเกมเราต้องเลือกมาเสพเอง ไม่มีใครบังคับให้เราเล่น จึงถือได้ว่ามันเป็นแค่อาหารที่เราเอามาป้อนตัวเองเท่านั้น แต่ปัจจัยความรุนแรงที่กระตุ้นในสังคมที่อันตรายกว่าคือปัจจัยที่เกิดจากการยัดเยียดความรุนแรง เช่น ความรุนแรงในครอบครัว ความรุนแรงในสังคมโรงเรียน/ที่ทำงาน การบูลลี่ สิ่งต่างๆเหล่านี้เราไม่สามารถเลือกมันได้แต่มันยัดเยียดให้เรา ดังนั้นควรจะไปโฟกัสสิ่งเหล่านี้ให้มากขึ้นด้วย
ผมเองก็ชอบเล่นเกม แต่ผมไม่ชอบเล่นเกมแนว FPS ส่วนใหญ่ชอบแนว RPG หรือ TBS หรือพวก Casual มากกว่า เกมแนวรุนแรงผมก็ไม่ชอบเล่น ไม่ใช่ดัดจริตตอแหลว่าผมโลกสวยนะ ผมรู้ตัวเลยแหละว่าผมมีความรุนแรงในจิตใจอยู่บ้าง แต่ผมไม่ต้องการ feed จิตใจด้านนี้ของตัวเองให้เติบโต ผมต้องการให้มันอยู่เล็กๆพอ แต่นี่ไม่ได้ว่าคนชอบเล่น FPS นะ ถ้าคนคนนั้นเค้าควบคุม มีขอบเขตที่แข็งแรง ก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
usa เค้าสรุปมานานแล้วครับ ว่าเกมส์กับการไช้ความรุนแรงไม่เกี่ยวข้องกัน ข่าวนี้ก็ยืนยันอีกครั้งว่า เกมส์กับการไช้ความรุนแรงไม่เกี่ยวข้องกัน
แต่ก็ยังโดนอ้างอยู่โดยนักการเมือง usa เพราะไม่อยากขัดใจ NRA ไปพูดเรื่องการควบคุมปืน และคนไทยอีกกลุ่มที่สรุปโดยความรู้สึกและสมมุติฐาน แม่จะขัดกับหลักฐาน ... เช่น
กำไรจากเกมส์ (usd) - คนตายจากการไช้ความรุนแรง+ปืน ต่อ 100,000 คนในปี 2017 (คน)
จะเห็นว่าจำนวนคนที่ตาย ไม่แปลผันตามกำไรจากเกมส์
สรุปก็คือ การเล่นเกมส์ไม่เกี่ยวข้องกับการไช้ความรุนแรง
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
กราฟนี้มันมีอีกมุมให้คิดนะ เรารู้กันว่าเกมที่เป็นที่นิยมในแต่ละประเทศมันแตกต่างกัน อย่างในอเมริกาจะนิยมเกมแนว FPS แอคชั่นยิงกันตูมตาม ส่วนญี่ปุ่นนี่มีเกมแนว FPS น้อยมาก เกาหลีใต้ก็มาแนว E-Sport
บางทีอาจจะไม่ใช่คนติดเกมแนวยิงๆจนเป็นคนรุนแรง อาจจะเป็นเพราะคนนิยมความรุนแรงอยู่แล้วเลยผลิตเกมแนวนี้ออกมาสนองความต้องการ
คือสุดท้ายผมเชื่อว่าเกมมันเป็นแค่องค์ประกอบนึงที่มีส่วนน้อยมากๆ คือถ้าจะแก้ปัญหาเรื่องเหตุกราดยิงในอเมริกา เกมมันไม่ควรจะเป็นประเด็นแรกๆที่ต้องแก้ไขเลย คือพื้นฐานความคิดเป็นคนรุนแรง ปืนหาซื้อง่ายมากๆอีก ต่อให้ไม่มีเกมเค้าก็ยังเป็นคนรุนแรงอยู่ดี จะบอกว่าเกมมันจุดประกายให้กล้าลงมือทำ ประเด็นอื่นมันจุดง่ายกว่านะ เกมมันควรจะถูกมองเป็นทางออกด้วยซ้ำ รุนแรงเหรอ อยากฆ่าคนเหรอ เปิดเกมไล่ยิงบอทไปดิ เอาให้หนำใจไปเลย
ข้ามฟากมาบ้านเรา เหตุกราดยิงสองสามครั้งหลังที่เพิ่งจะเกิดไปนี่ก็ชัดเจนอยู่ว่าไม่ได้มาจากเกม แต่ก็ยังมีพวกที่ลากเข้าไปหาเกมอีกจนได้ เพราะมันง่ายดี ยังไงผู้ใหญ่ก็มองว่าการกระทำของเด็กมันไร้เหตุผลเสมอ
บางทีผมไม่หิวแต่เปิดเจอรูปอาหารก็หิวนะครับ 5555555555
คนเล่นเกมมีเป็นร้อยล้านแปลว่าคนพวกนี้ทั้งหมดเล่นแล้วอยากใช้ความรุนแรงหรอ บางคนไม่เล่นเกมแต่ปากหมาด่าเขาไปทั่วไปไม่ใช่สาเหตุหนึ่งหรอ(ขออภัยไม่ได้หมายความว่าจะด่าใครไม่ได้เลยนะ) ยกตัวอย่างคุณแค่กำลังเล่นเกมอย่างเพลิดแล้วเดินออกมาเจอคนนิสัยบ้าๆด่าว่าพ่อคุณเป็นสาววายแล้วเกิดอารมณ์ขึ้นชกเขาไปสักหมัดอ่าวเชี่ยเกมผิดคนปากหมาไม่ผิดนี่คือความบิดเบี้ยวของสังคม มารยาททางวาจาคือสิ่งที่ควรสอนมากว่านะผมว่า แม้จริงๆเกมก็มีส่วนกระตุ้นแต่ไม่มากเท่าแน่นอน