Transportation and Security Administration (TSA) หน่วยงานควบคุมความปลอดภัยการบินเปลี่ยนกฎการนำของเหลวขึ้นเครื่องบินจากเดิมอนุญาตขวดละไม่เกิน 3.4 ออนซ์ หรือประมาณ 100 มิลลิลิตร โดยหากเป็นน้ำยาล้างมือจะอนุญาตให้นำขวดขนาด 12 ออนซ์ หรือ 350 มิลลิลิตรขึ้นเครื่องได้
อย่างไรก็ดี น้ำยาล้างมือขวดขนาดใหญ่กว่าปกติจะถูกแยกตรวจเป็นพิเศษ และทาง TSA เตือนว่าหากพกขวดใหญ่การตรวจความปลอดภัยก่อนขึ้นเครื่องอาจจะช้าลง
ที่มา - The Washington Post
ภาพเจลล้างมือจาก Dettol India
Comments
ประเด็นคือตอนนี้หาซื้อเจลล้างมือไม่ได้แล้วน่ะสิ ยิ่งกว่าแรร์ไอเท็ม ทิชชูอีก ไม่รู้จะบ้าตุนไปทำไม ติดเชื้อแล้วจะขี้แตกรึก็ไม่ใช่ รัฐบาลก็ไม่ได้ประกาศห้ามออกบ้านซักหน่อย บ้าจี้กันไม่คิดมั่งว่าสั่งปิดประเทศ ปิดเมือง ก็ยังมีทิชชู่ มีอาหารอยู่ ไม่ต้องตุน
ผมตุนเพราะจะได้ไม่ต้องออกนอกบ้านบ่อยครับ ลดโอกาสออกไปสัมผัสเชื้อจากผู้อื่น
ถ้าต้องออกไปทำงานนอกบ้านก็คือมีความเสี่ยงอยู่ดี จะแวะกินข้าวนอกบ้านหรือ DV ไปที่ทำงาน ก็คือนอกบ้านเหมือนกัน แต่ถ้าทำงานที่บ้านนั่นโอเคมีเหตุผล จะได้ไม่ต้องออกบ้านบ่อย แต่ก็สั่งทูโกได้เสมอนะจ๊ะ ร้านอาหารไม่ปิด
ฝรั่งเศสเพิ่งสั่งปิดร้านอาหาร, คาเฟ่ไป ร้านของชำยังเปิดแต่ถ้าของหมดจะไปหากินที่ไหนล่ะ คนถึงต้องตุนของก่อนเพราะจะไปหวังน้ำบ่อหน้าก็ไม่ได้
นี่ผมไปหาของสดที่ปกติซื้อมาทำกินเองอยู่ก็ไม่มีขาย
ผมทำงานที่บ้านจ้ะและที่นี่ไม่มีทูโก ไม่มีแกร๊บหรือเดลิเวอรี่ใดๆ นะจ๊ะ
เข้าใจทั้งคนที่ตุนและเจ้าของเม้นครับ คือมันดูตื่นตูมไปนิด แต่ถามควรจะตุนของไว้บ้างมั้ยคือมันก็ควรนะ เอาให้มันพอดีๆ พวกของแห้งหรือของใช้บางอย่างตุนไว้สักเดือนนึงนี่สบายๆเลย แต่บางคนนี่ตุนกันซะยังกะโลกจะแตก คือคนบางคนเค้าไม่สามารถจะซื้อของทีละเยอะอย่างนั้นได้ ไปไม่ทันของหมดอีก ถ้าไม่แห่กันตุนจนเว่อยังไงมันก็ไม่ถึงกับของขาดตลาดแบบเมืองนอกอ่ะนะ
แต่ทั้งหมดทั้งมวล มันเกิดขึ้นจากความที่ประชาชนไม่ไว้ใจรัฐบาลเลย กลายเป็นว่ายิ่งออกมาบอกว่าไม่ต้องตุน คนยิ่งไม่เชื่อแล้ววิ่งเข้าห้าง เลือกจะเชื่อข่าวจากในแหล่งที่ไม่เป็นทางการมากกว่า ตอนแรกผมก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องตุนของมากนะ จนวันที่นายกออกมาพูดว่าไม่ต้องตุน ฟังที่พูดรวมๆแล้ว สรุปกับตัวเองได้ว่าออกไปซื้อของแห้งไว้สักหน่อยดีกว่า