ชัดเจนแล้วว่า โรคระบาด COVID-19 กระทบทุกกิจกรรมทั้งความเสี่ยงทางสุขภาพ และความเสี่ยงที่จะล้มละลาย และกระทบในแทบทุกอุตสาหกรรม ไม่เว้นแม้แต่อุตสาหกรรมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
ครั้งหนึ่ง gig economy ได้รับการยอมรับว่าเป็นอนาคตแนวใหม่ของการทำงาน เราสามารถทำงานสร้างรายได้จากแพลตฟอร์มได้หลายๆ ที่ สร้างรายได้หลายทาง ส่งเสริมการทำงานที่ยืดหยุ่น แต่โรคระบาดเผยให้เห็นอีกมุมของคนทำงาน gig economy ว่าชีวิตไม่ง่าย และบางครั้งก็ต้องเลือกระหว่างยอมออกไปหารายได้ทั้งๆ ที่ก็กลัวตัวเองจะติดเชื้อด้วย
New York Times สัมภาษณ์คนทำงาน gig economy ทั้งในสหรัฐฯและยุโรป มีหลากหลายความเห็นแต่ก็สะท้อนไปในทำนองเดียวกัน เช่น
บริษัท gig economy รายใหญ่ก็พยายามปรับตัวและสนองตอบต่อสถานการณ์วิกฤต Uber, Lyft, Instacart และ DoorDash จะให้คนขับลาป่วยโดยที่ยังมีรายได้อยู่ ถ้ามีการตรวจพบว่าติดเชื้อหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง, Uber และ Lyft บอกว่าพวกจะจัดหาผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดให้แม้จะเป็นของหายากในขณะนี้, Postmates, DoorDash, Uber Eats และ Grubhub ยังเปิดตัวบริการ “no-contact delivery” วางอาหารไว้หน้าบ้านลูกค้าเลี่ยงการติดต่อ สัมผัสกัน, ยกเลิกบริการแชร์รถคันเดียวกันไปด้วยกัน แต่ดูเหมือนมาตรการเหล่านี้ก็ยังไม่เพียงพอในสถานการณ์ที่เปราะบางอย่างยิ่ง
Andrew Macdonald รองประธานอาวุโสของ Uber ดูแลการดำเนินงานทั่วโลก บอกว่า ไม่ใช่ทุกงานที่สามารถทำงานได้จากที่บ้านและเป็นความจริงที่เคยขับรถ และคนส่งของบนแพลตฟอร์มต้องเจอ สิ่งที่บริษัทพยายามทำได้คือ ทำให้ประสบการณ์การบริการนั้นปลอดภัยมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
Mark Warner วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตจากเวอร์จิเนีย ผู้เสนอให้รัฐบาลมอบสิทธิแก่คนทำงาน gig economy ในสหรัฐฯราว 15 ล้านคนบอกว่า คนทำงาน gig economy เหล่านี้ไม่มีประกันสังคมใดๆ และพวกเขาจะไม่เหลืออะไรเลย
ก่อนหน้าวิกฤตโรคระบาด ในวงการ gig economy ก็มีการต่อสู้กันทางกฎหมายแรงงาน เพื่อให้คนทำงานได้สวัสดิการเหมือนพนักงานประจำ โดยรัฐแคลิฟอร์เนียผ่านกฎหมาย AB5 ไปแล้วเมื่อปลายปี 2019 แต่ต่อมา Uber และ Postmates ได้ยื่นฟ้องเพื่อหยุดการออกกฎหมายฉบับนี้แล้ว
ภาพจาก Shutterstock
ที่มา - New York Times