เมื่อแอปเปิลเปิดตัว iPhone SE รุ่นใหม่เมื่อคืนนี้ ก็ต้องมี iPhone รุ่นที่หยุดการจำหน่าย นั่นคือ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus โดยรายละเอียดสินค้าได้ถูกถอดออกจากเว็บไซต์แอปเปิลไปเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ iPhone 8 มีขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว เท่ากับ iPhone SE รุ่นใหม่ จึงอาจบอกได้ว่า iPhone SE เป็นรุ่นที่มาแทนที่ พร้อมกับสเปกที่แรงกว่าด้วยชิปรุ่นใหม่ A13 ส่วน iPhone 8 Plus หน้าจอ 5.5 นิ้ว ไม่มีรุ่นมาแทนที่ (หรือจะมี iPhone SE Plus?)
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือการสิ้นสุดของเทคโนโลยี 3D Touch แยกแยะระดับการกดหน้าจอ ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2015 กับ iPhone 6s โดยแอปเปิลเปลี่ยนมาใช้ Haptic Touch แยกการกดสั้น-ยาว ตั้งแต่ iPhone XR ซึ่งเวลาผ่านไปก็เหลือเพียง iPhone 8 ที่ยังใช้ 3D Touch ซึ่งสุดท้าย iPhone SE ตัวใหม่ก็เปลี่ยนมาเป็น Haptic Touch เช่นกัน
แม้ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus จะหยุดจำหน่ายแล้วผ่านเว็บของแอปเปิล แต่อาจยังพอหาซื้อได้จากร้านค้าและตัวแทนจำหน่ายบางรายครับ
ที่มา: MacRumors
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
ไม่ใช่นะ
XR ไม่มี 3D Touch ก็จริง
แต่ XS, XS Max ที่ออกพร้อมกัน มี 3D Touch เป็นรุ่นสุดท้ายนะ
น่าจะหมายถึง ที่ยังจำหน่ายผ่าน Apple store นะ ซึ่ง Xs/Xs Max ไม่มีขายแล้ว
อ้อจริงด้วย ถ้าหมายถึงแบบนี้ก็เป๊ะเลย
Apple ก็เลยทำ UI แปลกๆให้รุ่นที่มี 3D Touch แทนสินะ แทนที่รุ่นที่มี 3D Touch จะตัด Haptic ออก นี่กลายเป็นกดแรงกับกดค้างได้เมนูเดียวกัน เมื่อก่อนกดแอพค้าง จัดหน้า Homescreen ได้เลย ตอนนี้กดค้างเด้งเมนูมาเหมือนกดแรง
รู้สึกเหมือนโดนไล่ให้ไปใช้ Haptic อ้อมๆเลย จากใจ Xs Max ที่เป็น 3D Touch รุ่นสุดท้าย
ใช่เลยครับ ผมนึกว่ารู้สึกไปเองคนเดียว จริงๆ ชอบ 3D Touch มากกว่า แต่คงยุ่งยากอะไรสักอย่างแน่ๆ เลยต้องเอาออก จำใจใช้แบบแปลกต่อไปจนกว่าจะเปลี่ยนเครื่อง
ถ้าแนวทางการออกแบบเดิมของ Apple เขาจะไม่ชอบเอาเมนูอะไรไปซ่อนแล้ว user หาไม่เจอครับ แบบการกด ต้องออกแรงไรงี้ ดูลึกลับไปนิด กดค้างยังดูแบบ simple กว่า แต่ปัจจุบันแบบกดค้าง ก็กดค้างนานเพิ่มอีกนิดก็เป็นการจัดหน้า home แบบเดิมได้อยู่นะครับ
จริงๆ กดค้างเท่าเดิมได้ครับ แต่พอขึ้นเมนูแล้วไม่ต้องปล่อย ให้ลากเลย มันจะย้ายได้เลยไม่ต้องค้างต่อครับ
หรือค้างจนเครื่องสั่นแต๊กนึงแล้วก็เลื่อนออกก็ได้ ไม่ต้องรอเมนูขึ้น
ถ้าเป็นคนใช้ 3D Touch คล่อง ๆ จะรู้สึกได้ชัดเจนครับว่า วิธีนี้ช้ากว่าการใช้ 3D Touch แบบเดิม อยู่ขยักนึง
ความไวมันลดลงไปเยอะครับถ้าเทียบการเปิดเมนู กดค้าง กับ กดหนัก
ผมเข้าใจนะครับว่าเทคโนโลยีวันนึงมันก็ต้องเปลี่ยน แต่เครื่องเดิมที่ Hardware มันยังรองรับอยู่ ก็ไม่ควรยัดไส้อะไรแปลกๆเข้ามาครับ มันกลายเป็นว่าพวกรุ่นที่เป็น 3D Touch ใช้งานยากขึ้นไปเลย
ใช่เลย เรียกได้ว่าถอดฟีเจอร์ไปเกือบหมดในตัว OS เวลากดแรงกดจะไปใช้ Haptic touch แทน ไม่ได้รับแรงกดอีกแล้ว (ยกเว้นตอนกด notification)
ส่วนแอพไหนที่ยังไม่ได้ Implement API ใหม่ เช่น instagram เวลากดชื่อ user จะต้องใช้แรงกด และ UI Peek & pop จะเป็นแบบเก่า
เรียกได้ว่าถ้าแอพไหนไปใช้ API ใหม่หมดก็ไม่มีประโยชน์ทันทีไอ้ตัว 3D Touch
ปกติสลับแอพใช้แรงกดด้านกลางจอมุมซ้าย ตอนนี้ถ้าเป็น iPhone SE รุ่น2 ก็คงทำไม่ได้แล้ว
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
เข้าใจว่า sensor 3D touch ที่ซ้อนในจอ ทำให้ฝัง scan นิ้วใต้จอไม่ได้ด้วย บางที Apple อาจจะพัฒนาลำบากเลยตัดทิ้งไปเป็นอีกเหตุผล ต้องรอดูว่า apple จะทำ touch id ใต้จอไหม สำหรับผม นิ้วสแกนง่ายกว่าหน้า ยิ่งในยุค covid นี่ชัดมาก
อยากได้สแกนนิ้วใต้จอเหมือนกันครับ ใช้ใน P30 Pro แล้วโอเคดี
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
เทคโนโลยี 3D touch มันควรเอาไปใช้กับ sex toy ถึงจะเหมาะ
กดแรงเพื่อเลื่อน cursor จากกลางคีย์บอร์ดไม่ได้นี้แปลกๆ ครับ
พอแบบใหม่ต้องไปกดค้างที่ space bar มันเลื่อน cursor ลงบรรทัดล่างไม่ได้ กรณีพิมพ์ข้อความหลายบรรทัด