ยุคหลังๆ หนึ่งในฟีเจอร์หลักที่หลายค่ายสมาร์ทโฟนใช้โปรโมต คือฟีเจอร์ชาร์จเร็ว ซึ่ง OPPO ก็เป็นอีกแบรนด์ที่มีฟีเจอร์นี้ และ OPPO Ace 2 ที่เปิดตัวเมื่อเดือนที่แล้ว นั้นสามารถชาร์จเร็วแบบไร้สายได้ถึง 40W (เมื่อใช้ระบบชาร์จ AirVOOC ของ Oppo) และชาร์จแบบมีสายได้ถึง 65W (ด้วย SuperVOOC 2.0)
Andrei F. ทีมงานเว็บไซต์ AnandTech ได้ทวีต ว่า OPPO ยืนยันว่า ในรอบการชาร์จ (cycle) เท่ากัน กำลังไฟ 40W จะทำให้ความจุแบตเหลือ 70% เมื่อเทียบกับกำลังไฟ 15W ที่ความจุแบตจะเหลือถึง 90%
นี่อาจเป็นเหตุผลที่ปัจจุบัน Apple ให้ที่ชาร์จเร็วสุดแค่ 18W, Samsung ที่ 25W และ OnePlus ที่ 30W และผู้ใช้ที่ไม่ชอบเปลี่ยนสมาร์ทโฟนบ่อยๆ ใช้เครื่องหนึ่ง 2-3 ปี อาจต้องคิดหนักหน่อยเวลาจะซื้อมือถือที่มีฟีเจอร์ชาร์จเร็วที่มีจำนวนวัตต์สูงๆ แต่หากเปลี่ยนโทรศัพท์บ่อย ทุก 1 ปี หรือต่ำกว่า อาจจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างในแง่นี้
ส่วน OPPO เอง เปิดตัวเทคโนโลยีชาร์จเร็ว SuperVOOC 2.0 65W, VOOC Flash Charge ชาร์จไร้สายแบบ 30W และ VOOC 4.0 ชาร์จเร็วแบบมีสาย 30W ตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว
ที่มา - Android Community
Comments
เหมือนทอดปลาอะ
ไฟแรง สุกเร็ว หนังไหม้ เนื้อข้างในไม่สุก
ถ้าไฟอ่อน สุกช้า สุกทั้งหนัง สุกทั้งเนี้อข้างใน
หิวเลยครับ 5555
ผมต้องเดือดร้อนหาปลาสลิดทอดกินแล้วมั้งครับเย็นนี้ 555555
ทอดปลาสลิดเสร็จ คุยกับหมา ไปฉี่ แล้วก็มาชมเชิงเทียน
แล้วมาอ่านเวลานี้ก็ไม่เหลือสิครับ มือเย็นได้1เมนูแล้วแน่ๆอะ 5555555555
มาอ่านตอนตีสาม ซวยไป...
น้ำปลา พริกขี้หนูซอย บีบมะนาว
แกล้มกับปลาทอด
อื้อหืมมมมมมมมมมมมม
ก็ถ้าตัวเซลแบตยังเป็นเทคโนโลยีเดิม การอัดกำลังไฟเพิ่ม มันก็ต้องเสื่อมสภาพเร็วขึ้นอยู่แล้ว
จะแก้ปัญหานี้ได้ ก็คงต้องหาวัสดุใหม่มาแทนลิเธียม แบบทุกวันนี้
ดีที่ของ Samsung ปิด Fast Charge ได้
ปิดตรงไหนครับ จะได้ไปปิด ปกติชาร์จทุกคืนอยู่แล้ว
ขอตอบแทนนะครับ: Setting > Device care > Battery > Charging
หรือ Setting แล้วกดแว่นขยายค้นหาคำว่า Fast Charging ได้เลยครับ
สำเร็จแล้วครับ
ขอบคุณครับ
เครื่องผมถ้า ปิด Fast charging ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 20 นาที จาก 0-100
ถ้าเปิด Fast charging ประมาณ 45 นาที
ถ้าเปิด Super Fast Charging 20-30 นาทีเต็ม แต่เครื่องร้อนเป็นไฟเลย 5555+
ไม่ค่อยเป็นปัญหา เพราะเดี๋ยวนี้นิยมไม่แถม adapter ชาร์จเร็วอยู่แล้ว อยากได้ต้องซื้อเอง
ผมนี่ไปกดปิด Fast Charging เลย
เสื่อมก็เปลี่ยนแบต
ผมชอบใช้เงินแก้ปัญหา 55
อีกปัญหาคือหาซื้อแบตไม่ได้ครับ อาจจะต้องเปลี่ยนเครื่องเลย
Oppo กับ Vivo ตัวที่สเปคดีๆ ก็ดันเป็นแบบขอบจอโค้งอีก Oneplus กับ Xiaomi ก็เปิดตัวมาแพงหูดับ เซ็งเป็ด
ผมก็ว่ายิ่งเร็วยิ่งร้อนแหละนะ
ยังงี้ใครจะใช้ Fast Charge ละเนี่ย ใช้แบบปกติดีกว่า
ผมใช้ครับ ในเวลาที่รีบๆ มันช่วยทำให้ชีวิตดีขึ้นมากจริงๆ
มิน่าไอโฟนไม่มีชาร์จไวๆ ซะที 55
ตรงข้ามเลยครับมีการถนอมแบตหากชาจข้ามคืนก็เต็มตอนตื่น ชาจกลางวันพอใกล้ถึง 90 ก็เริ่มช้าลงๆ เรื่อยๆ
ผมกลับชอบที่มีชาร์จเร็ว เพราะมันทำให้ผมสะดวกสบายในการใช้ชีวิต
Google Pixel 3 รองรับชาร์จเร็วสูงสุดที่ 18W ซึ่งส่วนมากผมก็ไม่ชาร์จเร็วด้วยนะครับ สรรหาที่ชาร์จเก่าๆ ที่จ่ายได้ 5-10W มาเสียบ
ผลเหรอครับ ปีเดียวแบตบวมจุไฟได้แค่ 50% ต้องเปลี่ยนแบตไปแล้วทีนึง
แต่อาจจะเพราะแบตมันน้อยจนผมต้องชาร์จรัวๆ ถี่ๆ ก็ได้นะ
วิธีแก้ปัญหานี้ง่ายๆ ทำเครื่องแบบถอดเปลี่ยนแบตได้แบบง่ายๆ เหมือนเมื่อก่อนนี้สิ
ผมเข้าใจว่ามันจะทำให้ขนาดเครื่องใหญ่น่ะครับ เลยไม่ทำกันเพราะแข่งกันบาง ไม่แน่ใจว่ามีเหตุผลอื่นๆ มั้ย
อันนี้ปสก ตรง
ผมถอดเคสชาร์จแล้วเปิดพัดลมจ่อตัวเครื่องไว้ด้วยครับ ช่วยระบายความร้อน ไม่รู้ว่าช่วยได้จริงไหมทำมั่วๆครับ 555
เคยใช้ oppo find 7a มี vooc รุ่นแรกๆ แต่ผมแทบจะไม่เคยใช้ปลั๊กชาร์จเร็วเลย ใช้ปลั๊กปกติชาร์จ ใช้งานสองปีกว่าแบตก็ยังไม่ค่อยเสื่อม ขณะที่ไปอ่านในกลุ่ม oppo เครื่องที่ใช้ชาร์จเร็วบ่อยๆ ปีเดียวแบตก็ไปแล้วครับ
ความคิดที่ใช้ชาร์จเร็วแล้วแบตเสื่อม ติดมาจากตอนเล่นรถแข่งทามิย่าตอนเด็กๆ ถ่านก้อนที่ใช้กับแท่นชาร์จเร็วๆ ไฟเยอะๆเสื่อมโครตเร็ว ถถ
ผมคิดว่าชาร์จที่ประมาณ 15W + คุมอุณหภูมิได้ก็เพียงพอ ปัจจุบันปัญหานี้จะลดลงถ้าคุม W เท่าเดิม
เพราะมือถือมีขนาดแบตใหญ่ขึ้น ใช้ได้ทั้งวันแทบไม่ต้องชาร์จระหว่างวันแล้ว
อีกอย่างที่ว่าชาร์จเร็วไม่เร็วมันจะเทียบกับความจุด้วย
มันเป็นธรรมชาติที่แบตลูกใหญ่จะชาร์จด้วย W มากกว่าโดยที่แบตไม่เสื่อม (% การเพิ่มยังเร็วเท่าเดิม)
นี่คงเป็นเหตุผลนึงที่ทำให้ iPhone ไม่ทำชาร์จเร็ว + ก่อนหน้านี้มีปัญหาเรื่องแบตอยู่ด้วย
ขอบ่นประเด็นรักษ์โลกได้ไหม ใครจะหาว่าโลกสวยหรือเปล่า
ช่วยทำอะไรที่มันใช้ได้นานๆไม่สร้างขยะไวจนเกินไปด้วยเถอะนะ
อันนี้เห็นด้วย
จากที่มา ที่ oppo ออกมาบอกนี่หมายถึง 40W wireless ชาร์จนะครับ ไม่ใช่ชาร์จแบบสาย
ส่วนมากที่ผมเห็นคนใช้มือถือทั่วๆไป..
-iPhone แบตเสื่อมเปลี่ยนราคาหลักร้อย-พันกำใช้อีกเป็นปีๆ
-Android แบตเสื่อมซื้อเครื่องใหม่หลักพัน-หมื่นเพื่อที่ใช้งานลื่นไหล..
ส่วนตัวเงินใครเงินมันล่ะครับเรื่องแบบนี้..เพราะผมเชื่อว่าทุกคนจะมีเหตุผลในตนเอง
เพื่อจะคิดและตัวสินใจในสิ่งที่ตนเองทำว่ามันดีที่สุด (สำหรับตัวเอง) อยู่แล้ว..
ไม่ว่าใครจะพูดว่าอย่างไรก็ตาม..
เรื่องอะไหล่นี่จริงมากครับ โดยเฉพาะแบรนด์หรูอย่างพวกโซนี่ โมโต อะไรแบบนี้ เสียแล้วหาอะไหล่ยากมาก