การปรับตัวให้ทันต่อเทรนด์และวิธีการทำธุรกิจที่เปลี่ยนไป ผลักดันให้ผู้ประกอบการตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจให้ขับเคลื่อนไปด้วยเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบ แนวคิดเกี่ยวกับ Digital Transformation จึงถูกหยิบยกให้เป็นประเด็นสำคัญของยุคสมัย เนื่องจากพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของคนในสังคมที่ขับเคลื่อนด้วยแพลตฟอร์มดิจิทัลอยู่ตลอดเวลา การยกระดับธุรกิจให้สอดคล้องและตอบรับกับความเป็นดิจิทัลจึงไม่ใช่แค่เรื่องของการตามกระแส แต่เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ของการทำธุรกิจในปัจจุบัน โดยความสำคัญของ Digital Transformation ยิ่งมีความชัดเจนมากขึ้นเมื่อโลกต้องเผชิญหน้ากับ COVID-19 ที่ไม่มีเวลาให้ปรับตัวแต่ต้องใช้และทำได้อย่างเชี่ยวชาญในทันที ทั้งการ Work from Home การประชุมออนไลน์ หรือการควบคุมการทำงานบนระบบคลาวด์ โดยเพื่อให้ได้โซลูชันที่เหมาะสม Microsoft 365 จึงถูกพัฒนาและออกแบบให้มุ่งสร้างมาตรฐานใหม่ของการทำงาน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าธุรกิจและ SMEs จะขับเคลื่อนไปในยุค Digital Transformation ด้วยเครื่องมือที่ตอบสนองธุรกิจดังนี้
ปรับปรุงวิธีการทำงานร่วมกันของพนักงานภายในองค์กรรวมถึงการทำงานกับบุคคลภายนอกเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุด โดยมีจุดเด่นเป็น Microsoft Teams ที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อการสื่อสารผ่านแชทและการประชุมออนไลน์กับผู้ใช้งานทั้งภายในและภายนอกองค์กร ส่วน SharePoint จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการจัดเก็บข้อมูลและอำนวยความสะดวกใหผู้ใช้สามารถทำงานและแก้ไขเอกสาร Word, PowerPoint, Excel และ OneNote ร่วมกันได้แบบเรียลไทม์
ลดความกังวลเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลทางธุรกิจและเอกสารที่ต้องใช้ในการทำงานด้วยพื้นที่จัดเก็บข้อมูลออนไลน์อย่าง OneDrive ขนาด 1 TB ที่ให้ผู้ใช้สามารถจัดการเอกสารและข้อมูล ได้อย่างเรียบร้อย ถูกต้อง ง่ายต่อการค้นหาและดึงไปใช้งานต่อ โดยมั่นใจได้ว่าผู้ใช้ทุกคนจะสามารถเข้าถึงไฟล์งานที่อัพเดตล่าสุด รวมถึงการอัพเดตไฟล์จากการแก้ไขในระหว่างที่ออฟไลน์อย่างอัตโนมัติเมื่อมีการเชื่อมต่อออนไลน์ ทั้งนี้ ยังช่วยแก้ปัญหาเรื่องกล่องเมลเต็มด้วยพื้นที่จัดเก็บเมลที่มากถึง 50 GB อีกด้วย
โซลูชันในการทำงานที่ดีที่สุดเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมทางการทำงานที่สะดวกสบาย โดยเอื้อให้ผู้ใช้สามารถทำงานบนอุปกรณ์ได้อย่างหลากหลาย ทั้ง PCs, MACs และสมาร์ทโฟน ในทุกระบบปฏิบัติการไม่ว่าจะเป็น iOS, Android หรือ Windows ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกทำงานบนอุปกรณ์ได้มากถึงประเภทละ 5 ชิ้น รวมสูงสุด 15 ชิ้นต่อ 1 ผู้ใช้งาน
ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานยุคใหม่ที่นิยมใช้อุปกรณ์ส่วนตัว (BYOD) อย่างแล็บท็อป แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟนในการทำงาน บนพื้นฐานการสร้างความปลอดภัยในการใช้งาน ด้วยการผสานการทำงานของ Azure Active Directory (Azure AD) ที่ทำหน้าที่บริหารจัดการการยืนยันตัวตนและควบคุมการเข้าใช้งานคลาวด์ เพื่อให้มั่นใจว่ามีการใช้งานที่ถูกต้องตามบทบาทและสิทธิที่องค์กรกำหนดให้ และ Intune ที่ทำหน้าที่จัดการแอปพลิเคชันและปกป้องข้อมูลที่อยู่ในทุกอุปกรณ์ที่กำลังเข้าใช้งานเพื่อความปลอดภัยของธุรกิจ
การป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ของ Microsoft 365 เริ่มต้นด้วยการทำงานของ Microsoft Exchange Online Protection ที่จะปกป้องผู้ใช้จากลิงก์ที่เป็นอันตรายและมัลแวร์ที่เป็นที่รู้จักทั้งหมด จากนั้น Office 365 ATP จะสร้างการป้องกันให้กับสิ่งที่อยู่ภายใต้ Office แอพพลิเคชัน ไม่ว่าจะเป็นอีเมล, Microsoft Teams, Word, Excel, PowerPoint, Visio, SharePoint และ OneDrive for Business ปิดท้ายด้วย Windows Defender ATP ที่จะตรวจจับและบล็อกภัยคุกคามใหม่ที่เกิดขึ้น โดยใช้การตรวจสอบไฟล์และการตรวจจับพฤติกรรมขั้นสูง
Microsoft 365 ได้รับการออกแบบมาให้ใช้แอปพลิเคชัน Office ที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์ด้านคลาวด์ที่เพิ่มขึ้นด้วยการสามารถเพิ่มจำนวนผู้ใช้ใหม่เมื่อธุรกิจมีการเติบโต นอกจากนี้ยังมีความยืดหยุ่นในการผสมผสานหรือจับคู่แผนการใช้งานต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะสมต่อลักษณะการใช้งานและความต้องการขององค์กร ซึ่งนับว่าเป็นการเริ่มต้นที่เยี่ยมยอดสำหรับการก้าวสู่ Digital Transformation ของผู้ประกอบการ SMEs
พบกับ Microsoft 365 Business Premium ได้ที่ https://www.microsoft.com/th-th/smb/talk-to-us