โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งบริหาร ยกเลิกการใช้ H-1B หรือวีซ่าทำงานสำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพเชี่ยวชาญพิเศษ เช่น คนที่มีทักษะไอทีเป็นการชั่วคราวถึงสิ้นปี 2020 เป็นการกีดกันกำลังแรงงานทักษะสูงนอกสหรัฐฯ ออกไป ตั้งเป้าให้สร้างงานสร้างรายได้แก่คนอเมริกันแทน คนที่มีวีซ่า H-1B หรือเพิ่งได้รับการอนุมัติวีซ่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการใหม่นี้
นอกจากวีซ่า H-1B จะได้รับผลกระทบแล้ว คำสั่งยังกระทบการขอวีซ่า H-2B สำหรับแรงงานทักษะพิเศษที่เดินทางไปทำงานชั่วคราวตามฤดูกาล, วีซ่า J-1 สำหรับนักเรียนแลกเปลี่ยน และ วีซ่า L-1 เพื่อการโยกย้ายคนภายในบริษัทระหว่างประเทศ
ภาพจาก โดนัลด์ ทรัมป์
เจ้าหน้าที่จากฝ่ายบริหารของทรัมป์บอกกับ Wall Street Journal ว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อปกป้องงานให้คนอเมริกา ช่วยให้มีตำแหน่งงานให้คนอเมริกันถึง 500,000 ตำแหน่ง โดย Wall Street Journal คาดจำนวนผู้ได้รับผลกระทบว่าจะถึง 525,000 ราย รวมถึงคนที่ถือกรีนการ์ด 170,000 รายที่ถูกห้ามเข้าประเทศตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา
ประเด็นนี้เป็นข้อกังวลในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก ซึ่งบรรดาคนไอทีก็ส่งสัญญาณเตือนมานานแล้วว่าข้อจำกัดวีซ่าจะส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถของประเทศในการแข่งขันในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี อันส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษกิจ และยังบีบให้บริษัทต้องขยายสาขาไปต่างประเทศมากขึ้นเพื่อพยายามจ้างและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยีเอาไว้
Linda Moore ซีอีโอ TechNet กลุ่มล็อบบี้บริษัทเทคโนโลยีบอกว่า ช่วงโรคระบาด อุตสาหกรรมไอทีทำงานหนักเพื่อให้คนอเมริกันได้เชื่อมต่อถึงกัน ทั้งการจัดส่งอาหาร, บริการต่างๆ, แพทย์ทางไกล เป็นต้น ในอนาคต เทคโนโลยีจะยังคงมีความสำคัญต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ คำสั่งบริหารในวันนี้เป็นอุปสรรคต่อความสามารถของธุรกิจในการตัดสินใจว่าจะปรับใช้แรงงานที่มีอยู่ให้ดีที่สุดและจ้างพนักงานใหม่ได้อย่างไร ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้นวัตกรรมเดินหน้าช้าลง
ด้าน Sundar Pichai ซีอีโอกูเกิลออกมาโพสต์ทวิตเตอร์ว่า แรงงานต่างชาติมีความสำคัญต่อความสำเร็จทางเศรษฐกิจที่ทำให้อเมริกาเป็นผู้นำระดับโลกในด้านเทคโนโลยี ทางกูเกิลรู้สึกผิดหวังกับคำสั่งบริหารในครั้งนี้อย่างมาก
Immigration has contributed immensely to America’s economic success, making it a global leader in tech, and also Google the company it is today. Disappointed by today’s proclamation - we’ll continue to stand with immigrants and work to expand opportunity for all.
— Sundar Pichai (@sundarpichai) June 22, 2020
Sharvari Dalal-Dheini ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์สมาคมทนายความด้านกฎหมายคนเข้าเมืองแห่งสหรัฐฯ แสดงความกังวลสูงสุดว่า การระงับวีซ่าในวงกว้างจะส่งผลเสียต่อความสามารถในการฟื้นตัวจากวิกฤติเศรษฐกิจตอนนี้ ชาวต่างชาติมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟู แต่รัฐบาลชุดนี้เลือกที่จะต่อต้านผู้อพยพมากกว่าการจัดลำดับความสำคัญอย่างเป็นระบบ
ทีม Global Public Policy ของทวิตเตอร์แถลงไม่เห็นด้วยกับคำสั่งบริหาร บอกว่าคำสั่งดังกล่าวทำลายทรัพย์สินทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดของอเมริกา รวมถึงความหลากหลายของผู้คนในประเทศนี้ ซึ่งพวกเขามาจากทุกมุมโลกเพื่อมาทำงาน จ่ายภาษี และมีส่วนร่วมในการแข่งขันในเวทีโลก
Statement on US high-skilled immigration proclamation: "This proclamation undermines America’s greatest economic asset: its diversity. People from all over the world come here to join our labor force, pay taxes, and contribute to our global competitiveness on the world stage.
— Twitter Public Policy (@Policy) June 22, 2020
ที่มา - TechCrunch, BuzzFeed
Comments
คนทำงานบ.ข้ามชาติลำบากล่ะทีนี้ ไปฝึกงานหรือไปดูโครงการที่บ.แม่ก็จะลำบากขึ้น แต่จะว่าไป มีผลถึงสิ้นปี ก็อาจจะไม่กระทบมาก เพราะไม่รู้ว่าน่านฟ้าจะเปิดเมื่อไรด้วยซ้ำ -_-"
นโยบายหาเสียง กำลังจะเลือกตั้ง Nov นี้แล้วพอดี so convenient
@mamuang
เดาว่า พอ บ. ใน usa จ้างคนทักษะสูง ให้ทำงานสาขานอกประเทศ
เมื่อเป็นข่าว ... จะกลายเป็นข่าวหดเสียงช่วง Nov พอดีนะสิ ...
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ตกลงเค้าคิดดีแล้วใช่ไหมครับเนี่ย
คือ... ทรัมพ์ เค้าไม่เข้าใจว่า H-1B คือ VISA แบบ "ขอกราบเท้าคุณพี่ให้ช่วยมาทำงานในสหรัฐด้วยนะคร๊าบบ" หน่ะครับ คงมองว่า Immigration มีแต่แบบ ล้างรถ ถูบ้าน ขายของจิปาฐะ ล้างจาน ทำงานนั่งโต๊ะนิดหน่อย งานแบบนี้ต้องให้ คนงานสหรัฐทำก่อน ประมาณนั้น
อาจจะทำให้แคลิฟอร์เนียล่มสลายได้เลยนะครับ 555
ผมว่าทรัมป์ต้องการให้แรงงั้นในจุดนี้ขาดแคลนเพื่อทำให้ตัวเลือกน้อยลง ซึ่งพอแรงงานคุณภาพเหลือน้อยก็จะเกิดการแย่งชิงกันค่าแรงก็จะสูงขึ้น บริษัทที่สู้ราคาไม่ไหวแต่ขาดแรงงานจริงๆ ก็ไม่มีทางเลือกนอกจากรับแรงงานที่คุณภาพน้อยกว่าเข้ามาปั้นให้เก่งขึ้น ไม่งั้นบริษัทก็จะไม่ยอมรับแรงงานกลุ่มนี้เข้ามาตั้งแต่แรก
รัฐฝั่ง Democrat โดนหมดแลยนะแบบนี้ เพราะมีแรงงานต่างชาติอยู่เยอะพอสมควร โดยเฉพาะสายวิทยาศาสตร์ การศึกษา และเทคโนโลยี
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
น่าสน จริงๆอาจกะพังคนที่ไม่เลือกรีพับลิกให้อ่อนแอลง
เเรงงานชั้นสูงพูดยังกะหาได้ง่ายๆ
แทนที่จะเป็นการสนับสนุนการสร้างความสามารถให้กับคนอเมริกาเทียบเท่ากับแรงงานชั้นสูงที่มีความต้องการสูง กลับใช้การกีดกันแทนเนี่ยนะ ยังไงก็ไม่ช่วยเพิ่มงานให้กับคนประเทศตัวเองหรอก เพราะสุดท้ายแล้วความสามารถไม่มีก็ไม่มีบริษัทไหนต้องการ
ทางออกง่ายที่สุด ของ บ. คือ ย้ายไป R&D นอกประเทศจ้า ...
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เสาหลักของอเมริกันที่สร้างชาติจนเจริญมาถึงทุกวันนี้ คือการเปิดรับผู้มีความสามารถจากทั่วโลก
นี่เป็นคำสั่งที่ทำลายข้อได้เปรียบของตัวเองไป
ไม่เข้าใจทรัมป์จริงๆ เขาไม่รู้เหรอว่าทรัพยากรมนุษย์ที่เชี่ยวชาญมีมูลค่ามากแค่ไหน
(นึกถึงประเทศหนึ่งในแอฟฟริกา ที่ racist คนขาวหนักจนขับไล่ ยึดธุรกิจ ยึดที่ดิน สุดท้ายประเทศล่มสลายเพราะคนไม่มีความสามารถพอจะ maintain และพัฒนาสิ่งที่ยึดมา)
Trump คงนึกไม่ออกว่า ของใช้, เทคโนโลยี และอุปกรณ์ที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ และที่ทำให้สหรัฐฯ เป็นมหาอำนาจได้จนทุกวันนี้ ก็มาจากผู้อพยพ ชาวต่างชาติ และผู้ลี้ภัยมาสหรัฐฯ ทั้งนั้น (ชาวยิว ชาวมุสลิม คนเอเชีย ฯลฯ) ทั้งทำงานกับรัฐบาลสหรัฐฯ และภาคเอกชน
เช่น Nuclear ก็มาจาก Albert Einstein ที่ลี้ภัยมาจาก Nazi Germany, Nicola Tesla ผู้คิดค้น AC Current ก็มาจากยุโรปตะวันออก เป็นต้น
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง = ประชาชน
ชาวต่างชาติเข้ามาเป็นแรงงานทักษะ (คิดสั้นๆ ได้ว่า) เข้ามาได้รายได้ดีกว่าประชาชนดั้งเดิม รู้สึกด้อยกว่า
ประชาชนไม่ต้องการรู้สึกด้อยกว่า เลยเลือกคนที่บอกว่าจะจัดการตรงนี้ให้
อะไรแบบนั้นรึเปล่าครับ
ผมเข้าใจว่า อันนี้เป็นนโยบาย american first ของทรั้มป์เอง ซึ่งหาเสียงมาตั้งแต่เลือกตั้งครั้งก่อนแล้ว
แต่สงสัยว่าทำไมเพิ่งจะเอามาใช้ตอนหาเสียงเลือกตั้งรอบที่จะถึงนี้(เกือบ 3 ปีกว่าๆ)... หรือว่าเค้าใช้ในทางปฏิบัติไปแล้ว แต่ไม่ได้เป็นข่าว???
เดียวๆ H-1B นี้คือไม่ใช่ใครจะได้ก็ได้นะเห้ยย นี้คือระดับเชิญมาทำงานนะ แปลว่าเขาหาคนในประเทศแบบนี้ไม่ได้เลยต้องเชิญคนอื่นมาทำให้ แบบนี้องค์กรไม่ร้องแย่เหรอ ถถถถ
The Dream hacker..
ช่วงหาเสียงจากคนอเมริกันเอาไรมาก
คิดเหมือนกันครับ เลือกตั้งก็ใกล้เข้ามาแล้วอะเนอะ
ประชาชนอเมริกันถูกใจ เพราะตัวเองจะได้งานเยอะชึ้น
แต่บริษัทอเมริกันไม่ถูกใจ เพราะคนเก่งมาจากต่างชาติก็เยอะมาก
นึกถึง9armเลย ติดตามช่องเขาอยู่
โปรช่วงหาเสียงแหละ เดี๋ยวพอเลือกตั้งเสร็จก็คงเหมือนเดิม
นโยบายนี้เขาใช้ตั้งแต่ first ในระดับคนผิวขาวก่อน
ดูสาเหตุที่ประท้วงตอนนี้ได้
เดี๋ยวก็ยกเลิก/เปลี่ยนแปลงคำสั่ง เค้าทำอะไรแบบนี้บ่อยๆอยูแล้วรึเปล่า
เกรงว่าในประเทศพี่จะมีไม่เพียงพอนะ
ทรัมป์ต้องการแค่ ประเทศอเมริกาที่มีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีครับ
อื่นๆ นอกเหนือจากนี้ ไม่ใช่ประเทศที่เขาต้องการ
คนอเมริกันคงฝันหวานว่าอัตราการจ้างงานจะพุ่งกระฉูด เศรษฐกิจจะเฟื่องฟู
ส่วนประเทศอื่นๆตอนนี้ยิ้มหวาน บริษัทอเมริกันอีกเท่าไหร่ที่จะมาเปิดสาขาเพื่อหลีกเลี่ยงกฏหมายฉบบับนี้