บริการโซเชียลยอดนิยมทั้ง Facebook, Twitter, YouTube พร้อมใจกันแบนวิดีโอเกี่ยวกับยารักษา COVID-19 ที่เป็นข้อมูลผิดๆ และถูกรีทวิตโดย Donald Trump (รวมถึงลูกชายของเขาคือ Donald Trump Jr.)
วิดีโอนี้เป็นการแถลงข่าวของกลุ่มแพทย์ที่เรียกตัวเองว่า America's Frontline Doctors และเผยแพร่ผ่านช่องทางของ Breitbart สำนักข่าวฝ่ายขวาที่สนับสนุน Trump มาโดยตลอด เนื้อหาในวิดีโอเป็นแพทย์ที่อ้างว่า ไฮดรอกซีคลอโรควิน (hydroxychloroquine) ซึ่งเป็นยารักษาโรคมาลาเรีย สามารถใช้รักษาโรค COVID-19 ได้ (องค์การอนามัยโลก WHO สั่งระงับการทดลองใช้ไปตั้งแต่เดือน พ.ค. เพราะมีแนวโน้มให้ผู้ป่วย COVID-19 เสียชีวิตเพิ่มขึ้น - BBC)
คลิปวิดีโอนี้เผยแพร่ผ่าน Facebook ของ Breitbart และมีคนแชร์อย่างแพร่หลาย ยอดวิวก่อนโดนแบนคือเกิน 20 ล้านครั้ง โฆษกของ Facebook อธิบายเหตุผลที่แบน (แต่อธิบายผ่าน Twitter) ว่าบริษัทลบคลิปนี้ออกเพราะเป็นการแชร์ข้อมูลที่ผิดๆ เกี่ยวกับ COVID-19
Yes, we removed it for sharing false information about cures and treatments for COVID-19.
— Andy Stone (@andymstone) July 28, 2020
ฝั่ง YouTube และ Twitter ก็นำวิดีโอนี้ออกจากระบบเช่นกัน โฆษกของ Twitter บอกว่านำวิดีโอออกเพราะผิดเงื่อนไขเรื่องข้อมูล COVID ส่วนวิดีโอบน YouTube ดูไม่ได้และขึ้นข้อความว่าละเมิดเงื่อนไขของ YouTube
Donald Trump Jr.'s Twitter account will have some of its functionality limited for 12 hours after he tweeted a video that ran afoul of Covid-19 misinformation policies, a company spokesperson says https://t.co/Ch1DkZdoke
— CNN Breaking News (@cnnbrk) July 28, 2020
ที่มา - CNN, CNET, Business Insider
Comments
WHO ที่เคยบอกว่าไม่ป่วยไม่ต้องใส่หน้ากาก
COVID-19 ไม่(พบว่า)ติดต่อระหว่างคนสู่คน
เมินคำเตือนของไต้หวันเรื่องการคิดต่อระหว่างคนสู่คน
ต่อต้านมาตรการ Travel Ban คนที่มาจากประเทศจีนในช่วงแรกของการระบาด
หวังว่าครั้งนี้จะเป็นการเตือนที่ถูกต้อง หลังจากถลอกปอกเปิกในเรื่องนี้มามากแล้ว
โรคอุบัติใหม่ ข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดตามความก้าวหน้าของการวิจัย
ส่วนเรื่องต่อต้าน Travel Ban จีน อันนี้ต้องเข้าใจก่อนว่า WHO ประกอบด้วยสมาชิกจากหลายๆประเทศ และมีสมาชิกจากประเทศ"แห่งหนึ่ง"ออกมาอวยปกป้องจีนเต็มที่ ส่วนจะเป็นประเทศไหนนั้น ลองดูในลิ้งค์นี้ครับ อิๆ (หลายคนบอกคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นประเทศนี้)
https://www.hfocus.org/content/2020/03/18477
ผมคิดว่าโรคใหม่ที่เราไม่รู้จักควรรัดกุมกว่านี้
ออกมาประกาศตั้งแต่ยังไม่รู้ว่าติดต่อระหว่างคนหรือไม่
โดยเมินคำเตือนจากคนที่มูลที่มากกว่าเหตุเพียงเพราะ
มาจากคู่ขัดแย้งกับจีนไม่ควรเกิดกับองค์กรณ์ที่ควรจะเป็นกลาง
พอขั้วทางการเมืองมันชัดขนาดนั้นก็ลดความน่าเชื่อถือของตัวคนพูดลงมา
ปล. คนไทยเองก็ด่าเรื่องแบบทัวร์จีนช้าเหมือนกันนะครับ
ยังที่ที่คนไทยเราคุ้นเคยกับการอยู่กับบ้านตามคำสั่งรัฐ
(มันน่าภูมิใจใหมเนี่ย)เลยควบคุมโรคได้ดีกว่าหน่อย
เก่งหลังเหตุการณ์แบบนี้ จะพูดอะไรก็พูดได้ครับ
สหรัฐฯเป็นประเทศแรกๆในโลกที่แบนไฟลท์จากจีน และรีบส่งเครื่องบินไปรับคนของตัวเองกลับ
ส่วนประเทศสารขัณฑ์ ด่ารัฐบาลว่าทำไมไม่ทำ Travel Ban ทำไมไม่รีบไปรับคนของตัวเองกลับ (คุณด้วยหรือเปล่า?)
แล้วไงครับ? สรุป ทำแบบสหรัฐฯ แล้วมันได้ผลมั้ย?
คุณคิดว่า travel ban ไม่ได้ผล ทั่วโลกควรยกเลิก?
คุณยังพูดดีเทลไม่หมด
สหรัฐ ทำ TRAVEL BAN เป็นประเทศแรกๆ ถูกต้อง
แต่คนที่ติดโรค เข้า USA ไปจำนวนมากแล้ว รวมถึง ยุโรป ด้วย
เอาFACT มาพูดเลยว่า ทุกหัวเมืองใหญ่ๆ จากจีน มีบินไป USA ทั้งนั้น
รวมถึง อู่ฮั่น ด้วย ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ของจีน
แล้วในความเป็นจริง การไปรับคนในชาติ ก็เป็นสิ่งที่ควรจะรีบทำอยู่แล้วนะ
ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีศักยภาพสูง มีฐานะทางเศรษฐกิจไม่เป็นสองรองใคร
และที่สำคัญ เราเป็นมิตรประเทศจีน (ฉาก อู่ฮั่นสู้ๆในตำนาน ฯลฯ ยังตราตรึง)
แต่ในขณะเดียวกัน มีประเทศที่มีฐานะทางเศรษฐกิจด้อยกว่าประเทศไทย
รีบนำคนของเค้ากลับประเทศได้หลายประเทศ
จุดนี้ ที่เป็นที่วิจารณ์ ไงละ
แล้วหลังจากนั้น USA เค้าล้มเหลวด้านการจัดการภายในเอง (ยุโรป ด้วย)
รวมถึงการเชื่อ WHO มากเกินไป
โรคใหม่ ไม่มีใครรู้มากกว่าใคร ข้อมูลยังเปลี่บนได้ตลอดเวลา
WHO ไม่ได้บอกว่ายาใข้ไม่ได้ เพียงแต่ยกเลิกการทดลองของตัวเองที่กำลังทำ เพราะ"แนวโน้ม"ไม่ได้ผล และมีงานวิจัยอีกบางประเทศที่ออกมาว่าไม่ได้ผล แต่หมอกลุ่มหนึ่งก็ยังไม่เชื่อ เพราะงานวิจัยบางอันช่วงแรกก็ยังได้ผล
แต่SOCIAL MEDIA เลือกข้างชัดเจน และมีการเซ็นเซ่อร์ไปแล้ว
ส่วนตัวคิดว่าค่อนข้างปิดกั้นเกินไปหน่อย
ผมว่าปัญหาจริง ๆ คือคนจะไปหามากินกันเองเยอะไปและจะเกิดปัญหาเพิมจากยาตัวนี้ครับ
มันไม่ใช่แค่แนวโน้มมันไม่ได้ผล แต่ผลข้างเคียงจากยาที่ไม่เกี่ยวกับโรคมันเยอะ เพราะยาตัวนี้มันต้องใช้ภายใต้การควบคุมของแพทย์ เพราะฉะนั้นการแบนจึงเป็นทางเลือกที่ดี เว้นแต่ว่าจะมีหลักฐานว่ามันใช้ได้ผลจริงๆ แต่ก็ต้องพูดถึงผลข้างเคียงด้วยครับ
Trump กับ hydroxychloroquine(และ Breitbart) ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกครับ คือมันเป็น hoax เก่า ปั้นใหม่นั่นแหละ
me: stupid looking people who are not even wearing masks called themselves America's frontline doctors that might not even be real doctors with the motto-restoring peace & protecting from harm
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)