ศาลเมือง Karlsruhe ในเยอรมันตัดสินโทษผู้ขับขี่รายหนึ่งที่ขับรถชนเข้ากับกำแพงข้างทางและต้นไม้ โดยขณะชนชายผู้นี้กำลังปรับความเร็วที่ปัดน้ำฝนบนหน้าจอของรถ Tesla Model 3 โดยศาลลงโทษห้ามขับรถ 1 เดือนและปรับ 200 ยูโร โดยอาศัยกฎหมายห้ามใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขณะขับรถ หรือที่เรามักเข้าใจกันว่าเป็นกฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ
ศาลระบุว่าไม่ว่าหน้าจอจะติดกับตัวรถหรือไม่ก็ไม่สำคัญ โดยตัวกฎหมายนี้ระบุให้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้เพียงช่วงเวลาชำเลืองมองสั้นๆ (brief glance) และต้องคำนึงถึงสภาพถนน, อากาศ, และการจราจร ขณะที่ Tesla Model 3 นั้นสามารถปรับความเร็วที่ปัดน้ำฝนแบบแมนนวลได้จากการเลือกไอคอนบนหน้าจอเท่านั้น แม้จะเปิด/ปิดที่ปัดน้ำฝนได้จากคันโยกที่พวงมาลัยก็ตาม โดยตัวรถมีฟีเจอร์ปรับความเร็วที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติให้
ที่มา - BBC
ภาพจอสัมผัสของรถ Tesla Model S
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
กฎหมายข้ามใช้ -> กฎหมายห้ามใช้
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
ทันสมัยเกินไปก็ไม่ดี
จริงๆควรใช้วิธีควบคุมโดยไม่ต้องละสายตาออกจากถนน
ผมไม่ชอบ ใช้จอสัมผัสบนรถอย่างแรงเลยครับ มันต้องละสายตาจากถนน เวลากดก็โดนมั่งไม่โดนมั่ง
ของบางอย่างไม่ต้องใส่ที่จอทั้งหมดก็ได้นะ ที่ก้านปัด มันสะดวกกว่าเยอะ
"โดยตัวรถมีฟีเจอร์ปรับความเร็วที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติให้"
ถ้ามีงี้แล้วปกติก็ไม่น่าจะปรับอะไรละ
ส่วนใหญ่ที่ปรับกันคือปรับค่า Sensitive ของ Sensor ครับ
เพราะบางทีอาจจะปัดช้าหรือเร็วไป
ไม่เพียงพอมั้ง
บางรุ่นแบบที่เราใช้อยู่ มันอัตโนมัติตามความเร็วรถ
รุ่นใหม่ มีเซ็นเซอร์น้ำฝน แต่ก็ยังมีก้านปรับความเร็วอยู่ดีนะ
พวกที่ปัดน้ำฝนแบบ auto บางทีความไว ไม่ถูกใจหรือไม่เหมาะสมกับสภาพน้ำฝน ที่บางทีมีฝุ่นละอองโคลนจากรถคันหน้าครับ พวกนี้ sensor รถหลายคันแยกแยะไม่ถูก ต้องปรับให้พอดี
เข้มงวดดี
พึ่งสังเกตว่าพวงมาลัยโล้นแปลกๆ มันดูแปลกที่มีลูกกลิ้งสองข้าง...
เห็นว่าในบางประเทศ การปรับวิทยุในขณะที่กำลังขับรถอยู่ก็ผิดกฎหมายนะครับ
ประเทศเขาบังคับใช้กฎหมายดีจัง น่าอิจฉา
ประเทศเค้าเปิดรับผู้อพยพอยู่นะครับ เป็นล้านคนเลย FYI
ใช้นิ้วจิ้มจอขณะรถวิ่งมันยากจริงๆนี่แหละ
มาสด้าถึงทำ knobs มาให้หมุนตรงแถวๆเกียร์ ใช้ง่ายกว่าเยอะ
ถ้าพูดถึง knob นี่ต้องพูดถึงต้นแบบ iDrive สมัย BMW ทำ iDrive ก็มีแต่คนบ่นว่าใช้ยากเพราะ feature มันเยอะมาก หมุนกันจนมือหงิกกว่าจะเข้าถึงoptionที่ต้องการแก้ จนตอนหลังก็ทำ touch screen +สั่งงานด้วยเสียงมาแทน
ต้องใช้ระบบสั่งงานด้วยเสียง555+
แต่ใจจริงอยากให้ถึงยุคที่แค่คิดก็รับคำสั่งได้แล้ว
แล้วถ้าจิตฟุ้งซ่าน คอมพิวเตอร์ก็คงงงกันพอดี
UX design เต็มๆ
พวกคอนโซลรถ พอใช้แบบ digital เข้าจริงก็อยากใช้ physical มากว่า
แต่ก็นึกไม่ออกว่าถ้าเป็น physical จริงๆมันดูปุ่มเยอะแยะไปหมดจนมั่วๆ และไม่สวยงามรึเปล่า
มียุคนึง Blackberry ก็มีคนบอกสวยงามดีนะครับ
อุปกรณ์บางอย่างเค้าตั้งใจออกแบบมาให้ใช้งานได้โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน พึ่งรู้เหมือนกันว่าก้านบังคับความเร็วที่ปัดน้ำฝนยังโดนย้ายไปอยู่บนจอ ซึ่งมันเป็นอะไรที่ต้องปรับอยู่บ่อยๆเลยนะ
เยอรมันนี่เยี่ยมจริงๆ ครับ
ใช้คำสั่งเสียงสิ
"Turn on windshield wipers/increase wiper speed"
บางอย่างเหมือนผู้ผลิตจะขี้เกียจหรือลดต้นทุน ยกทุกอย่างเข้าจอหมด อยากได้ปุ่ม หรือฟังกชั่นก็ไปงอกบนจอ ไม่ต้องมี Physical ใดๆ ไม่ต้องเดินสายสัญญาณ ประหยัดได้เยอะ