เป็นเวลาร่วมสองเดือนแล้วที่อินเดียแบนแอป TikTok ซึ่งได้รับความนิยมทั่วโลกและคนอินเดียก็ใช้งานกันเยอะมากถึง 200 ล้านราย มีอินฟลูเอนเซอร์กว่า 2 แสนราย ถือเป็นตลาดใหญ่มากทีเดียวสำหรับ TikTok
ผู้ใช้งาน, อินฟลูเอนเซอร์แยกย้ายกันไปใช้แพลตฟอร์มโซเลียลอื่นอย่าง YouTube, Instagram ในอินเดียเองก็มีการพัฒนาแอปโซเชียลแนววิดีโอสั้นมากมาย เช่น Chingari, Mitron, Roposo และ Bolo Indya แต่ไม่มีแอปใดที่ประสบความสำเร็จมัดใจวัยรุ่นอินเดียได้เท่า TikTok บริษัทวิจัยตลาดและการวิเคราะห์ข้อมูล YouGov เผยผลสำรวจว่าชาวอินเดียกว่า 60% ยังคงมีความหวังว่าการแบน TikTok จะสิ้นสุดลง
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแอปที่สร้างขึ้นในอินเดีย ยังมียุทธศาสตร์การทำแอปไม่ชัดเจน เน้นจุดขายแค่ว่าเป็นแอปที่สร้างโดยคนอินเดีย และยังรองรับจำนวนผู้ใช้ได้ไม่มากพอ พบปัญหาแอปไม่โหลด, หยุดทำงาน นอกจากนี้ หน้าตาและฟังก์ชันการทำงานของแอปเหล่านี้ส่วนใหญ่คล้ายกับ TikTok มากจนเห็นได้ชัดว่าไม่มีแอปใดที่มีวิสัยทัศน์ที่แตกต่างอย่างแท้จริง ทำให้เห็นว่ายุทธศาสตร์ Made in India นั้นไม่สามารถใช้ได้จริงเสมอไป ข้อมูลจาก Quartz ยังเผยให้เห็นด้วยว่าคนไปใช้งาน Reels ฟีเจอร์วิดีโอสั้นใหม่ใน Instagram มากกว่าแอปท้องถิ่น
ปัญหาความปลอดภัยยังเป็นอีกจุดบกพร่อง เดือน ก.ค. ที่ผ่านมา นักวิจัยพบว่าแอป Chingari มีช่องโหว่ แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงบัญชีและรายละเอียดต่างๆ ได้ง่ายมาก ด้านแอป Mitron ตอนเปิดตัวใหม่ๆ ไม่มีนโยบายคามเป็นส่วนตัวที่ชัดเจนจนต้องถูกนำออกจาก Play Store
ที่มา - Quartz
Comments
ก็ต้องพัฒนากันต่อไป ทำแอพเองแบบนี้ แหละดี
สู้ๆ ค่อยๆทำกันไป
ถ้าไทยแบนแอพซักแอพแบบนี้แล้วทำเองนี่จะเป็นแบบนี้ไหมเนี่ย
ไม่ต่างกันหรอก เว้นแต่จะทำแอพฯ ได้ดีพอๆ กันหรือดีกว่าครับ
อย่างน้อยก็ช่วยกระตุ้นให้แอพของอินเดียเอง พัฒนาขึ้นกว่าเดิม
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
จีนวางโครงสร้างพื้นฐานและทดสอบมานานแล้ว อินเดียมาทำเองปุปปับแบบนี้ยังต้องพัฒนาอีกนาน
จากเทรนด์แบนนั่นแบนนี่แบบนี้
สุดท้ายแล้วทุกประเทศก็ต้องเริ่มคิดหาทางพึ่งตัวเองมากขึ้นแล้วแหละ
ถ้าเราใช้ React Native ทำแอพแบบนี้ มันจะลื่นมั๊ยครับ