เว็บไซต์ Ars Technica รีวิวแว่น Oculus Quest 2 ตัวใหม่ของ Facebook และพบปัญหาว่าการหั่นราคาลงมาเหลือ 299 ดอลลาร์ (Quest รุ่นแรก 399 ดอลลาร์) ทำให้ต้องลดต้นทุนหลายด้านจนประสบการณ์ใช้งานแย่กว่ารุ่นแรกมาก
ปัญหาแรกที่พบได้ทันทีตั้งแต่ตอนสวมแว่นคือ Quest 2 เปลี่ยนมาใช้สายรัดหัวที่แย่ลง ไม่มีฟองน้ำหรือยางช่วยรองศีรษะเหมือนรุ่นแรก แต่เป็นเหมือนสายรัดกระเป๋าธรรมดาแทน ทำให้ใส่ไม่สบายและปรับขนาดยากกว่าเดิม หากผู้ใช้อยากได้สายรัดคล้ายๆ ของเดิมก็ต้องซื้ออุปกรณ์เสริม Elite Strap ในราคาอีก 49 ดอลลาร์ (เท่ากับว่ารวมกันเป็น 348 ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับรุ่นแรกแล้ว)
สายรัดของ Quest 2
อุปกรณ์เสริม สายรัด Elite Strap
คลิป Quest รุ่นแรก
ถัดมาคือประเด็นเรื่องจอภาพ โดยจอของ Quest 2 ละเอียดกว่าเดิมก็จริง แต่เปลี่ยนจากจอ OLED มาเป็นจอ LCD ทำให้เปลืองแบตเตอรี่กว่าเดิม อีกทั้งเป็นจอเดียวกันทั้งหมด ไม่แยกเป็น 2 จอสำหรับตาแต่ละข้าง ทำให้การปรับระยะ interpupillary distance (IPD) ทำได้ยากกว่าเดิมมาก อีกทั้ง Quest 2 เปลี่ยนวิธีการปรับ IPD จากเดิมเป็นแบบแถบเลื่อนที่ตั้งค่าได้ละเอียด มาเป็นการตั้งค่าแบบหยาบๆ ได้แค่ 3 ระดับ ซึ่งอาจไม่พอดีสำหรับสายตาของผู้ใช้บางคน
จอของ Quest 2 เป็นจอรีเฟรชสูงสุด 90Hz (ของเดิมสูงสุด 72Hz) แต่ต้องรอเกมให้อัพเดตเพื่อรองรับด้วย ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีเกมไหนรองรับเลย แม้แต่ Beat Saber ของ Facebook เอง
ส่วนเรื่องแบตเตอรี่ Quest 2 ใช้งานได้ประมาณ 2 ชั่วโมง จากการรันเบนช์มาร์คทดสอบแบตเตอรี่ของ Ars Technica พบว่าแบตเตอรี่อยู่ได้น้อยกว่า Quest รุ่นแรก (175 นาที vs 131 นาที) ซึ่งปัจจัยน่าจะมาจากจอภาพที่ละเอียดขึ้น
Facebook แก้ปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ด้วยการขยายอุปกรณ์เสริมเป็นสายรัด Elite Strap with Battery ในราคา 129 ดอลลาร์
คอนโทรลเลอร์ Oculus Touch รุ่นใหม่ของ Quest 2 ที่บอกว่าออกแบบให้ดีขึ้น กลับทำงานแย่ลง ทดสอบใช้งานแล้วแม่นยำน้อยลง (ตัวแทนของ Facebook บอกว่าตัดเซ็นเซอร์ออกให้ประหยัดแบต แต่ก็มีคนถ่ายภาพอินฟราเรดแล้วพบว่าเท่าเดิม) ในการใช้งานจริงยังไม่ประหยัดแบตอย่างที่เคลม และจับแล้วลื่นมือกว่าเดิม
ฝั่งซอฟต์แวร์ของ Oculus บังคับใช้ล็อกอินบัญชี Facebook ทำให้ขาดอิสระในการเลือกใช้งาน และน่ากังวลเรื่องการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว
ข้อดีของ Quest 2 ยังมีอยู่บ้างคือ เปลี่ยนมาใช้สเปกเครื่องที่แรงขึ้นคือ Snapdragon XR2 (อิงจาก Snapdragon 865) และเพิ่มแรมเป็น 6GB (ของเดิม 4GB) ทำให้สลับแอพ VR ได้รวดเร็ว ไม่ต้องกดออกมาหน้าโฮมของ Oculus ก่อนเหมือนแว่น Quest รุ่นแรก
Ars Technica สรุปว่า "ไม่แนะนำ" ให้ซื้อ Oculus Quest 2 เพราะใช้งานยากกว่าเดิม อีกทั้งไม่มีฟีเจอร์ใหม่ๆ (เช่น การต่อเชื่อมพีซีแบบไร้สาย) เพิ่มเข้ามา
ที่มา - Ars Technica
Comments
(เท่ากับว่ารวมกันเป็น 249 ดอลลาร์) << ราคาผิดป่าวครับ 299+49 น่าจะ 348 นะครับ
บวกเลขผิดครับ 555
จบเลย รอรุ่นต่อไปละกัน
หลังจากเริ่มสนใจจนถามคำถามเยอะมากในข่าวเก่า เจอข่าวนี้ก็เงิบไปครับ
เหมือนกันเลยครับ
เรื่องฟองน้ำไม่เท่าไร แต่ถ้า IPD ยาก + เปลี่ยนมาใช้จอเดียวแถมเป็น LCD ก็จบเลยครับ
ลาก่อย
น่าจะจบรอบ VR อย่างสมบูรณ์ละ
ก่อนหน้ามีข่าวคนทำคอนเทนท์ค่อยๆถอนตัว
ยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้ น่าจะหาทุนยาก
อาจต้องรอรอบใหม่ไปเลย
5ปี 10ปี ว่าไป
ผมว่าปั้นโมเดลแบบ vr มีอนาคตนะ เพราะการปั้นด้วยเมาส์ปากกามันเป็นการปั้นแบบด้านกว้างxด้านยาว 2 มิติ เหลือแค่รอคนทำโปรแกรมปั้นดีๆ ใช้ปั้นขายได้จริง
มีสายงานทางด้านงานปั้น ทั้งไทยและเทศ เค้าก็ใช้กันอยู่นะครับ ปั้นเสร็จส่งออก 3D Print
https://www.facebook.com/734230720/videos/10164061463605721/?extid=4V473aSxcKbLIoI0
ทำให้เข้าใจการวางทิศของ usb-c ละ เพื่อสำหรับต่อสายจาก battery หลังหัว ซึ่งต้องจ่ายเพิ่ม $129 เพื่ออายุการใช้งานอีกเท่าตัว
เอ้า อุตส่าห์เชียร์
คิดว่าจะแป๊กตั้งแต่บังคับล็อกอินละ
ผมว่าข่าวนี้ ต้นฉบับปั่นเกินไปหน่อย เห็นมาทีละ
ขอก๊อปจากที่ตอบในกลุ่ม vr party thailand ที่ผมดูแลอยู่มาตอบนะครับ
บางจุดผมไม่ค่อยมองว่าเป็นข้อเสียถาวรนัก เช่นแทรคกิ้งมันน่าจะแก้ด้วยเฟิร์มแวร์ได้ (ก็ไฟในคอนเห็นว่าเท่าเดิม)
สายคาดก็แก้ได้ ซึ่งตัวเก่าเควส 1 มันก็ไม่ได้ดีอะไรนัก ไม่สบายหัว
แต่จุดพิจารณามีตรง ipd ที่ปรับมากกว่า (บางรีวิวบอกใช้ไปสักระยะจะคุ้นเคย) รอดูว่าจะมีซอฟต์แวร์ปรับไหม
กรณีจอเดียว rift s ก็ใช้จอเดียวนะครับ และขยับ ipd ไม่ได้ด้วย ใช้ปรับในซอฟต์แวร์เอา
ส่วนจอ lcd แล้วแต่คนรับได้มากน้อยแค่ไหน หรืออยากได้จอละเอียดก็แลกกันไป เหมือน pimax แหละ
แต่จุดที่ต้องพิจารณาคือ อายุการใช้งานแบบเล่นเต็มที่ๆ ลดลง อาจต้องพิจารณาเรื่องสายคาดแบบมีแบตไหม และจะหนักเพิ่มแค่ไหน ผมเลยสั่งไปทั้งสองแบบมาเทียบดู แต่ผมก็ไม่ค่อยเล่นนานไรนัก 131 นาทีก็ตีไป 2 ชั่วโมง ก็เกินพอแล้ว
เรื่องการเล่น wireless แค่ facebook ไม่ได้ทำแบบ official แต่ quest 1 ก็ไม่มี แต่เราใช้ virtual desktop เล่นได้ รอรีวิว) ซึ่งบางอย่างมันเป็นแค่ ความคาดหวังว่าจะมี แต่ยังไม่มีเฉยๆ ครับ จุดนี้อย่าสับสน สิ่งที่ยังไม่มีคนออกมาระบุคือ มันต่อสัญญาน wireless แบบ ax ที่เร็วกว่า ac ได้ไหม เพราะชิพมันซัพพอร์ต ซึ่งถ้าทำได้ มันก็ย่อมดีขึ้น แต่อาจไม่ก้าวกระโดด เพราะแปรผันตามความละเอียดจอ เพียงแต่ สายเควสก็ยังใช้เส้นเดิมนะ ทั้งที่ใช้จอละเอียดขึ้น จึงต้องดูเทคโนโลยีการบีบอัดข้อมูล
การบังคับใช้ facebook คือการปรับนโยบาย จะรอเควส 3 4 5 ก็หนีไม่พ้นอยู่ดี
คอนโทรลเลอร์ลื่นมือไม่ใช่ปัญหา เดี๋ยวก็มีอุปกรณ์เสริมแบบปล่อยมือได้ออกมาตามเคย
ไงพิจารณาดูครับ เพราะรีวิวบวกก็พอมีอยู่
อยากรู้ต้องลองสัมผัสเหมือน จอภาพ 30Hz, 60Hz, 120Hz, 240Hz
สำหรับผม เอาถูกๆ ถ้าจะเด่นเรื่องไหนก็ไปให้สุด เดี๊ยวของเสริมทำเอง 555+
ปัญหาที่ VR เกิดยาก เพราะแว่น คุณภาพสูง ราคามันก็ดันสูงตาม
แต่ในความเป็นจริง แว่น VR ก็คลาย PC จอ สาย หูฟัง มันถอดประกอบแยกได้หมด ถ้าซื้อแยกประกอบเองได้ หรือบางส่วนมีแบบพิมพ์ให้ผู้ใช้จัดการต่อเองได้ น่าจะถูกลงเยอะ
ส่วนตัวผมใช้ Rift S ครับ เล่นดี หุ่นเพียว แล้วไม่อ้วนอีกเลย ที่แรกว่าจะซื้อชุดออกกำลังกายที่บ้าน ไปๆ มาไปลงแว่น VR ซะงั้น แต่ก็ไม่เสียใจเลยที่ซื้อมา
มีอันนี้ครับ 200 ดอล แต่คอนไม่แน่ใจนัก เพราะตัวสำคัญเลย
https://www.relativty.com/?ref=producthunt&fbclid=IwAR1--sDdhYLAI9Q76zA5u2q09e7c4LSRi2H39UzNjGPNeDiDtdGDDOhduRM
จากการเป็นเจ้าของ Oculus Quest 1 และใช้งานมาเต็มๆ
รีวิวนี้ เหมือนหาข้อติมากกว่า เพราะถ้าถามถึงการใช้งานกันจริงๆ ผมเชื่อว่ามันทำได้ดีกว่า Q 1 แน่ๆ
สรุป CPU GPU Screen ดีขึ้น ราคาถูกลง น้ำหนักเบาขึ้น
คือ ด้านการใช้งานมันดีขึ้นทุกอย่างนะครับ
Q1 user เห็นแล้วอยากได้มากๆ
ปล. Oculus Quest series เล่นเกม VR คอมได้แบบไร้สายได้
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
คนรีวิวต้นทางเขาก็มี Quest 1 นะครับ
การที่เอาเรื่อง 90hz มาติด้วยทั้งๆที่เรื่องนี้มันทำให้การใช้งานดีขึ้น แต่กลับหาเรื่องติต่อว่า app อื่นๆ ยังไม่รองรับเนี่ยสำหรับผมว่ามันไม่ใช่การรีวิวที่ตรงไปตรงมาเลย
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
ขนาดเล็กลง น้ำหนักลดลง CPU แรงขึ้น 6 เท่า จอละเอียด 4K ขอดีตั้งมากมายไม่เขียน ใครเชื่อบทความนี้ก็โง่แล้วครับ
Username checks out.
รีวิวนี้เห็นตั้งแต่หลังวันเปิดตัวเหมือนกัน ประสบการณ์จากคนใช้ Quest 1 มาแล้ว มาอ่านรีวิวตรงที่เขาบอกว่าเป็นข้อด้อย ข้อเสีย ผมอ่านดูทุกข้อผมว่ารีวิวดูเหมือนจงใจติ มากกว่า เพราะปัญหาหลายอย่างมันก็มีอยู่ในเควส 1 ชุมชนคนที่เล่นเควสรุ่นแรกก็ไปสรรหาอุปกรณ์เสริมมาช่วยเพิ่มเติมทั้งนั้น
การที่ทำรุ่นสองแล้วตัดลดต้นทุนออก ผมมองว่าดีกว่าด้วยซ้ำ เพราะเราสามารถไปซื้ออุปกรณ์อื่น ๆ ให้เหมาะสมกับเราได้
พอเปิดตัวรุ่นสองผมตัดสินใจซื้อโดยไม่รอเลยครับ เพราะด้านฮาร์ดแวร์ที่ใส่มาเพิ่ม และฟีเจอร์อื่นๆ ก็รออัพเดททีหลังได้อยู่แล้ว
พยายามสรุปคอมเมนท์ของคุณ
คือคุณเข้ามาบอกว่ามันห่วยแบบที่เค้าเขียน และมันห่วยมาตั้งแต่ Quest 1 และก็ยังห่วยอยู่จน Quest 2 แต่ราคามันถูกลง และจอมันละเอียดขึ้น ผมสรุปถูกมั้ยครับ?
เรื่องใส่แล้วหนักหน้ากับสายรัดหัวใช้ยากนี้เป็นปัญหามานานแล้ว มารุ่นนี้ก็เหมือนพยายามแก้นิดๆหน่อย แต่ที่ดีคือถูกลงกับสายรัดแต่งได้ง่ายขึ้น เอาส่วนต่างไปซื้อสายรัดใหม่แทน
ตอบสั้น ๆ คือใช่ แต่ไม่ใช่คำว่า "ห่วย" ครับ
เรียกว่าข้อด้อยมากกว่าใน Quest 1 และพอมา Quest 2 ก็ยังไม่ได้ปรับแก้
ซึ่งบทความนี้ที่รีวิวออกมาแย่ ดันเขียนปัญหาที่มีใน Quest 1 อยู่แล้วไม่ใช่ปัญหาใหม่
แทนที่จะเปรียบเทียบความแตกต่าง ผมมองว่าควรเอาข้อเปรียบเทียบมาบอกกันว่า
Quest 2 ปรับปรุงด้านไหนดีกว่า Quest 1 ข้อไหนบ้าง และอันไหนยังไม่ได้ปรับ
ซึ่งข้อด้อยทั้งหลายใน Quest 1 คนส่วนใหญ่หาอุปกรณ์เสริมมาแก้ปัญหาแล้วทั้งนั้น
ดังนั้นพอมาใน Quest 2 ไม่ได้แก้ไข มันก็แค่รู้สึกว่ายังไม่ได้แก้แค่นั้น ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร
เพราะเรามีอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ที่ซื้อมาอยู่แล้ว มาใช้กับ Quest 2 ได้เลย
แต่ที่มันว้าวมาก ๆ สำหรับคนเล่นรุ่นแรกแล้ว เพราะเรื่องราคาและน้ำหนักครับ
ผมสนใจประเด็นนี้มาก ๆ เลย รวมถึงสายรัด (Elite Strap) ด้วย
ปัญหาหลักของรุ่นแรกคือมันหนักและเจ็บตรงหน้าผากกับแก้ม
คนที่เล่นจะแก้ปัญหาด้วยการเอาอะไรหนัก ๆ มาห้อยด้านหลัง ให้เหมือนดึงขึ้นไปจะได้ไม่หนักข้างหน้า
พอรุ่นสองมาทำราคาถูกลง ลดน้ำหนัก ลดขนาดแบตเตอรี่ และเอาแบตไปใส่ในอุปกรณ์เสริม
(Elite Strap with Battery and Carrying Case) มันก็เหมือนช่วยถ่วงน้ำหนักไปด้านหลัง
และมีกรอบที่สวมข้างหลังได้อีก ค่อนข้างประทับใจเลยครับจะได้ไม่หนักมาข้างหน้า
ดังนั้น ผมเลยรู้สึกว่าประทับใจรุ่นสอง เพราะเหมือนเขาแก้ปัญหาตรงจุด และมีความรู้สึกว่ามันถูกพัฒนาให้ดีขึ้น
และถึงแม้ว่าจะต้องซื้ออุปกรณ์เสริม รวม ๆ กันแล้วราคาก็เกือบเท่ารุ่นแรก แต่มันให้ความรู้สึกที่ดีว่า ไม่ต้องไปหาวิธีการแล้ว ซื้อครั้งเดียวจบเลย (รุ่นก่อนต้องไปหา Power Bank มาถ่วงน้ำหนัก) และถ้าคนที่มีอุปกรณ์เสริมอยู่แล้ว หรือไปซื้อเอาจากจีน ก็ช่วยเพิ่มทางเลือกให้ประหยัดงบลงไปได้อีก
สรุปคือยังไง ก็เชียร์ให้ซื้อครับ มันดีมากจริง ๆ ดีตั้งแต่รุ่นแรกแล้ว
สอบถามหน่อยครับ ถ้าผมจะสั่งรุ่นสองจากอเมซอนนี่ใีอุปกรณ์เสริมอะไรที่จำเป็นจริงๆบ้างจะได้สั่งมาพร้อมกันเลย ใช้เล่นเกม Steam ด้วยครับ
ผมแนะนำเพิ่ม Elite Strap
เพราะถ้าสั่งอเมซอนเฉพาะเควสจะบวกภาษี (~100$)
แต่ถ้าเราเพิ่ม Elite Strap ภาษีจะเหลือ (~40-50$)
ซึ่งคุ้มกว่า เพราะราคารวมแล้วพอ ๆ กัน
ส่วนนอกนั้นก็แล้วแต่ชอบครับ
ถ้าเล่นกับ PC ซื้อสาย USB-C cable(5m) ด้วย
และถ้าพกไปข้างนอกก็เพิ่มกระเป๋า
ขอบคุณครับ USB-C นี่อันไหนก็ได้ใช่มั้ยครับที่ยาวกว่า 5m
USB-C ที่จะต้องเป็น USB 3.x ขึ้นไปด้วยนะครับ
USB 3.x (3.1 = 5 Gbps) ความเร็วสูงกว่า USB 2.0 (480 Mpbs)
ถ้าสายไม่ดี ก็ย่อมมีผลต่อการเล่น และบางครั้งต่อแล้วไม่ติดได้ครับ
ส่วนสายของแท้ สาเหตุที่แพงเพราะเป็น USB-C และข้างในสายเป็น Fiber Optic ครับ
ทำให้รวดเร็วกว่าสาย USB-C ทั่ว ๆ ไป
ปล. ส่วนตัวผมยังไม่ได้ซื้อเพราะผมเน้นเล่นใน Quest เป็นหลัก
ไม่ได้ต่อ PC ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่ติดตามมาครับ หากผิดพลาดต้องขออภัยไว้ล่วงหน้า
ขอบคุณมากครับ ที่มาตอบแบบตั้งใจเขียนให้อ่านเลย
คอมเมนต์เชียร์แต่ละอันนี่แปลกๆทั้งหมดเลยแฮะ
3 อัน เนื้อหาคล้ายกัน (รีวิวแย่หาแต่ข้อติ, ที่บอกว่าห่วยคือรุ่นแรกก็เป็นเหมือนกันซึ่งต้องซื้อของ 3rd party มาแก้, ตัดฟีเจอร์แต่ราคาถูกลงคือข้อดี)
อีก 1 อันก็สมัครมาเม้นอยู่ 2 ข่าว (ฝากเพจในข่าวเปิดตัว Quest 1 กับ แย้งรีวิวแง่ลบในรีวิว Quest 2)
ขออภัยถ้าตั้งข้อสงสัย คือมันน่าสงสัยจริงๆ...
ไมแปลกหรอกครับ ผมก็ไปอ่านใน page vr มา ส่วนใหญ่ก็จะพูดประมาณนี้
ผมว่าการรีวิวสินค้า มันก็คือรีวิวแบบ as is นะครับ
ไอ้ที่บอก แก้ได้ ก็ซื้อเพิ่ม ก็รอ upgrade firmware ผมว่ามันไม่ใช่อ่ะ
ไม่งั้น ผมรีวิว iphone บอกแบตไม่ทนไม่ใช่ปัญหา เพราะซื้อแบตสำรองได้
ส่วนเรื่อง ไม่มี wireless นี่ผมเข้าใจว่าเขาบอกว่า “ไม่มี feature ใหม่ๆ เช่น wireless built in)
ถ้าให้เดาก็คงแค่ข่าวนี้ไปถึงกลุ่ม VR สมาชิกก็เลยเข้ามาโพสต์ตอบในนี้แหละครับ คงไม่มีไรมาก
Reviews for Oculus Quest 2
Guardian 5/5
Ars Technica: avoid
The Verge 8/10
Upload VR: The new king of VR
Engadget 89%
Wired 9/10
Techradar 4.5/5
Road to VR: best standalone HMD you can buy
Techcrunch: Outstanding
Toms Hardware 4.5/5
Mashable 4.8/5
Seems very good in general except Ars Technica
ที่มา : https://twitter.com/PiersHR/status/1306528661928054785?fbclid=IwAR3Zg1puk_YLUGWlRdHqJgHm9NflxamUoCeEIyxPckTh-3I--YEjKAe2BVY
คนไทยส่วนใหญ่อ่านภาษาอังกฤษไม่ออกครับ
ข้อมูลที่เป็นภาษาไทยเค้าเลือกแปลมาอิงด้านไหน คนอ่านเค้าก็เชื่อแบบนั้นแหละครับ
เค้าไม่ดิ้นรนไปหา source อื่นที่เป็นภาษาอังกฤษหรอก
ทำไมคิดว่าคนไทยส่วนใหญ่อ่านภาษาไทยไม่ออกละครับ?? อีกอย่างเขามีสังคมคนที่เล่นของเหมือนๆกันอยู่ ข้อมูลก็มีให้อ่านให้ศึกษาหลากหลายใน community นั้นๆ นี้ยุค 2020 แล้วนะครับ ไม่ใช่สัก10-20ปีก่อนที่หาข้อมูลกันแม้แต่ภาษาไทยยังหาอ่านยาก
อย่าให้ราคาบัญชีนี้เลยครับ เน้นขวางโลก
เอาแค่ คห.ในมู้นี้ ส่วนมากก็ลักษณะตามนั้นนะ จนกระทั่งเริ่มมีเสียงค้านจากคนใช้จริงเข้ามา