นอกจาก iPhone 12 ที่เปิดตัวแล้ว แอปเปิลยังเปิดตัว iPhone ตัวบนในตระกูล Pro อีกสองรุ่นเช่นกันคือ iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ซึ่งใส่เทคโนโลยีเพิ่มเข้าไป พร้อมดีไซน์เครื่องแบบใหม่ขอบเรียบไปกับหน้าจอ เหมือนกับ iPhone 12
iPhone 12 Pro มาพร้อมขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้ว และ iPhone 12 Pro Max ขนาดหน้าจอ 6.7 นิ้ว ซึ่งมีหน้าจอใหญ่กว่าไลน์ของ iPhone 11 Pro อยู่เล็กน้อย (5.8 และ 6.5 นิ้ว)
กล้องซึ่งเป็นจุดขายของ iPhone รุ่น Pro ยังคงจัดเต็มเหมือนเคย โดยมีกล้องหลัง 3 ตัว (Ultra-Wide, Wide f/1.6 และ Telephoto) เทเลโฟโต้ทางยาวโฟกัส 52 มม. ทำให้ช่วงซูมออปติคอลเป็น 4 เท่า ในรุ่น Pro และ 62 มม. ทำให้ช่วงซูมแบบออปติคอลเพิ่มขึ้นเป็น 5 เท่า สำหรับ Pro Max เพิ่มสแกนเนอร์ LiDAR ช่วยในการถ่ายภาพโหมดกลางคืนได้ดียิ่งขึ้น และยังมีการประมวลผลภาพแบบใหม่เรียกว่า ProRAW ซึ่งจะออกมาให้ใช้งานเร็ว ๆ นี้
รายละเอียดสเป็กเพิ่มเติมมีดังนี้
iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max มี 3 ขนาดความจุคือ 128GB, 256GB และ 512GB ตัวเลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ เงิน กราไฟต์ ทอง และแปซิฟิกบลู
ราคาขายในอเมริกาเริ่มต้นที่ 999 ดอลลาร์ สำหรับ iPhone 12 Pro และ 1,099 ดอลลาร์ สำหรับ iPhone 12 Pro Max ซึ่งเป็นราคาที่เท่ากับ iPhone 11 Pro ตอนเปิดตัว โดย iPhone 12 Pro เริ่มเปิดให้สั่งจอง 16 ตุลาคมนี้ จัดส่งสินค้า 23 ตุลาคม เป็นต้นไป ส่วน iPhone 12 Pro Max เริ่มสั่งจอง 6 พฤศจิกายน และจัดส่ง 13 พฤศจิกายน ในประเทศไทยระบุว่าจะเริ่มจำหน่ายเร็ว ๆ นี้
ที่มา: แอปเปิล
Comments
มี Event Macbook อีกรอบไหมนะ
มีครับ เดือนหน้า
การเรียกระยะ Optical Zoom ถ้าเอาตามมาตรฐานมือถือส่วนมากในตลาดตอนนี้
iPhone 12 Pro จะมี Optical Zoom 2x (52mm)
iPhone 12 Pro Max จะมี Optical Zoom 2.5x (65mm)
ถ้า 4x Optical นี่ต้อง 100mm ++
หรือ 5x Optical ต้อง 120mm ++
แก้ไขแล้วครับ
ปกติกล้อง digital ตัวคูณ 2x 4x 10x อิงตามระยะน้อยสุดของกล้องตัวนั้นครับ
เช่น ต่ำสุดที่ 18mm optical zoom 10x ก็คือสูงสุด 180mm
ในที่นี้ 4x น่าจะอิงจากระยะ ultra wide ครับ ข่าวต้นทางก็เขียนว่า 4x ครับ
จริงๆแล้วเรื่องนี้มันไม่มีมาตรฐานซะทีเดียวครับ เพราะเท่าที่ผมรู้มันยังไม่มีกล้องคอมแพคเลนส์ซูมที่เริ่มตั้งแต่ Ultrawide ในตลาดเลย
เพราะงั้น 1x ควรเป็นระยะกว้างสุดหรือระยะ normal อันนี้ก็ยังไม่ได้มีมาตรฐานซะทีเดียวครับ
ส่วนกล้องมือถือที่ผ่านมา ส่วนมากจะเอากล้องหลักเป็น 1x เสียมากกว่าครับ กว้างกว่านั้นก็ใช้ 0.5x 0.6x อะไรพวกนี้แทน แต่ก็มีบางรุ่นที่จงใจนับตั้งแต่ ultrawide เพื่อการตลาดเหมือนกัน
ส่วนตัวผมคิดว่าเปิดแอปกล้องมามันใช้ระยะไหนระยะนั้นควรจะเป็น 1x มากกว่าครับ
เสียดาย iPhone ตระกูล Pro นิดนึง เพราะส่วนตัวแล้ว อยากให้มีฟีเจอร์ที่ Pro จาก iPad เช่น จอ 120 Hz, หัวสำหรับชาร์จและถ่ายโอนข้อมูลเป็น USB-C, สนับสนุนการใช้ Apple Pencil เป็นต้น
แต่ก็ได้ LiDAR เพิ่มเสริมเข้ามาที่เหมือนกับ iPad Pro
จอ 120Hz เนี่ย ตอนแรกจะใส่ครับ แต่ supply chain ไม่พร้อม เลยไม่ใส่มาครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
จอ OLED ด้วยแหล่ะครับ และทำไม่ทัน ตอนแรกมีข่าวว่าจะใส่ แต่สุดท้ายไม่ใส่มา
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
Jon Prosser บอกมาว่าจอเป็น 120Hz ครับ แต่ที่ไม่ใช่ 120Hz เพราะว่าชิปที่เอาไว้สำหรับแสดงผลภาพ supply ไม่พอครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
โกรธที่กล้อง 12 ธรรมดากับ Pro ต่างกัน T T
Apple ProRAW ด้วยครับ ไม่น่ากั๊กเลย T T
ไอ้เนี่ยควารด่ามากกว่าไม่แถมอะแดปเตอร์หรือหูฟังตั้งเยอะ
จริงครับ เพราะมันแค่ Software เอง ผมหล่ะงงจริงๆเลย T T
ใน live อธิบายว่า พื้นที่มันเยอะขึ้น เลยทำอะไรกับกล้องได้มากขึ้น ผมว่าพอเข้าใจได้นะ
แต่ไอ้ proRaw นี่มันควรมีทุกรุ่นด้วยซ้ำ
การที่เราใส่เคสทำให้มันปิดกั้นการระบายความร้อน มีผลอะไรกับโทรศัพท์มั๊ยครับ เคยเล่นเกมแล้วแกะออกจากเคสโทรศัพท์ร้อนมากเลย
มีครับ
มือถือส่วนใหญ่ระบายความร้อนผ่านทางวัสดุตัวเครื่อง ใส่เคสไปก็เหมือนห่มผ้าให้อ่ะครับ
เคสบางแบบนี้ฉนวนความร้อนเลย บางคนไม่รู้ว่าเครื่องร้อนมาก...จนถอดเคสนั้นแหละ
สยองเลย
อีกเสียงยืนยันว่ามีผลครับ ไม่ต้องเล่นเกมเลย แค่ใช้งานทั่วไป ระบายความร้อนไม่ได้/ไม่ทัน Touch เพี้ยนไปเลย
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ