ช่วงนี้อาจมีข่าวจากปากของ Phil Spencer ถี่เล็กน้อย (ข่าว 1, 2, 3) จากการไปให้สัมภาษณ์กับ The Verge และเขาก็ถูกถามเรื่องการถูกแซะเรื่องค่าธรรมเนียมของสโตร์ขายเกมดิจิทัลที่กำลังเป็นประเด็นจาก Apple vs Epic ซึ่ง Xbox ก็ประกาศจุดยืนข้าง Epic แต่ Xbox หรือแม้แต่ PlayStation ก็เก็บค่าธรรมเนียมเดียวกับ Apple
Phil บอกว่าการเปรียบเทียบว่า Apple/Google เก็บค่าธรรมเนียมเท่ากับ Xbox/PlayStation เป็นการเปรียบเทียบที่ไม่ค่อยแฟร์ เพราะผู้ผลิตคอนโซลขายเครื่องแบบขาดทุน แล้วไปทำกำไรจากการขายเกมและบริการอีกที ซึ่งเป็นโมเดลที่แตกต่างกับ iOS, Android หรือแม้แต่ Windows แถมเน้นขายแต่เครื่องเล่นเกมเป็นหลัก ไม่ใช่อุปกรณ์ประมวลผลทั่วไปอย่าง มือถือ (น่าจะหมายถึงยูสเคสมันแคบกว่า)
ขณะที่จำนวนคอนโซลที่ขายก็อยู่ที่ราว ๆ 200 ล้านเครื่องตลอด 1 ช่วงอายุของคอนโซล (ราว 6-7 ปี แถมไม่โตด้วย) ซึ่งตัวเลขดังกล่าว สมาร์ทโฟนสามารถทำได้ในเวลาไม่ถึงปี
คนอาจจะบอกว่าจำนวนเครื่องจำนวนลูกค้าไม่เกี่ยวกัน Phil บอกว่ามันเกี่ยว และหากคุณมองถึงเหตุผลที่เราต้องทำแพลตฟอร์มเปิดและเข้าถึงให้ได้มากที่สุด จำนวนเครื่องและการสเกลยิ่งเกี่ยว ในแง่กฎหมาย (น่าจะหมายถึงการผูกขาด) ก็สำคัญ ไมโครซอฟต์ก็ผ่านการมีประเด็นกับกระทรวงยุติธรรมมาแล้ว ดังนั้นเมื่อแพลตฟอร์มคุณสามารถสเกลได้มากขึ้น ก็ควรจะมีความรับผิดชอบตามไปด้วย (ผมตีความว่า Phil น่าจะแซะแอปเปิลเรื่องระบบปิดและการคิดค่าธรรมเนียมเท่าเดิม แม้ผู้ใช้ iOS จะมากขึ้นเรื่อย ๆ)
ที่มา - The Verge
Comments
ทำไม่ได้แบบเค้าเลยไปแซะรึเปล่า
เดาว่า เพราะตัว Sony, MS, Nintendo เองก็ช่วย Developer มากกว่าที่ Apple, Google ให้ในระบบโมบายล์ด้วยครับ
คือเค้ามี licensed developer น้อยกว่ามาก ดูแลทั่วถึงกว่า ประชาสัมพันธ์ให้ดีกว่า แล้วพวก technical support (จากที่เคยมีประสพการณ์เมื่อก่อนนู้น...ตอนนี้ไม่รู้เป็นไง) ก็ดูแลดีกว่ามากครับ ของ Google นี่จากที่เคยลองคือส่งไปแล้วหายไปกับสายลม ...
อันนี้ผมก็เห็นด้วย
ສະບາຍດີ :)
ของแอปเปิลนี่ติดต่อยากด้วยครับ เคยติดต่ออยู่
Coder | Designer | Thinker | Blogger
+1024
ปากว่าตาขยิบจริงๆ
เห็นด้วยนะ ตลาดคอนโซลมันไม่ได้ใหญ่และมี ecosystem ให้กินเงินตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางแบบมือถืออ่ะสิ เรื่องนี้ทางฝั่ง dev ก็ไม่เห็นบ่นอะไรกัน คงประมาณว่าน้ำพึ่งเรือเสือก็ต้องพึ่งป่าด้วย
ส่วนตัวผมเห็นด้วยนะ
ผมคิดว่าเรื่องนี้ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ว่าผูกขาดกี่เจ้าหรือแต่ละเจ้าทำหรือไม่ทำอะไร แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า "มีอำนาจเหนือตลาดมากแค่ไหนมากกว่า" ต่างหาก
เพราะงั้นต่อให้ทำเหมือนกัน แต่ถ้าไม่มีอำนาจเหนือตลาดอะไรก็ไม่มีความจำเป็นต้องควบคุม
แล้ว XBox, PS5 มีอำนาจเหนือตลาดมากแค่ไหน? ลองสมมติว่าถ้าวันดีคืนดีก็ขึ้นค่าธรรมเนียมแพงๆจะเกิดอะไรขึ้น? นักพัฒนาจะลดกำไรหรือเพิ่มราคาหรือย้าย? ถ้าเพิ่มราคาผู้ใช้จะยอมจ่ายหรือย้าย? ลองเทียบคำตอบด้วยคำถามเดียวกันกับ Play Store, App Store ดูครับแล้วจะรู้ว่าแต่ละบริษัทมีอำนาจเหนือตลาดต่างกันมากน้อยแค่ไหน