ซัมซุงนอกจากจะมีขายอุปกรณ์มือถือและแท็บเล็ตเจาะกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปแล้ว ยังมีกลุ่ม Rugged Device หรือมือถือบุกน้ำลุยไฟ ทนทานเป็นพิเศษเพื่อใช้ในการทำงานท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ไม่ปกติ ล่าสุด ซัมซุงประเทศไทยเผยว่าในปี 2021 นี้ จะเน้นทำการตลาดในกลุ่ม Rugged Device ในไทยให้มากขึ้น เพราะมองเห็นโอกาสการเติบโตสูง และคาดว่ามีมูลค่าทางการตลาดในไทยสูงถึง 73 ล้านดอลลาร์
ดร.มารุต มณีสถิตย์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กรธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เผยเทรนด์ที่เกิดขึ้นว่า ในตลาดต่างประเทศมีการใช้งาน Rugged Device อยู่แล้ว รายงานจาก Tech Research Asia พบว่า ประเทศไทยมีการใช้งาน Rugged Device 44% เป็นอันดับที่ 7 รองจาก ออสเตรเลีย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, นิวซีแลนด์, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์
และถ้าคำนวณตัวเลข 44% ออกมาเป็นเม็ดเงิน คาดว่าสูง 73 ล้านดอลลาร์ ทำให้ทางบริษัทมีความมั่นใจในการรุกทำตลาด Rugged Device มากขึ้น ผ่านการทำโร้ดโชว์, เปิดตลาดพื้นที่ใหม่ๆ ตามต่างจังหวัด รวมถึงการเข้าถึงองค์กรอุตสาหกรรมต่างๆ ที่มีความเป็นไปได้ว่ามีความต้องการใช้งาน Rugged Device
นอกจากขนาดตลาดที่ใหญ่แล้ว ซัมซุงยองมองว่าปัจจัยที่จะช่วยให้ Rugged Device โตขึ้นคือ COVID-19 ที่เป็นสถานการณ์บังคับให้ทุกคนต้องใช้เทคโนโลยีให้เป็น, ความต้องการเฉพาะด้านในแต่ละอุตสาหกรรม องค์กรกำลังมองหาเทคโนโลยีที่มีความเฉพาะเจาะจงกับรูปแบบงานของตนมากขึ้น และในขณะเดียวกันก็ต้องการอุปกรณ์ที่ทนทาน สามารถใช้เพื่อทำงานได้ไม่ต้องถนอมมาก
สินค้าที่ซัมซุงมีในหมวดนี้คือ Galaxy Tab Active Pro ราคา 23, 900 บาท, Tab Active 3 ราคา 21, 900 บาท, X Cover Pro ราคา 16,900 บาท โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้จะไม่มีขายทั่วไป ต้องติดต่อผ่านตัวแทนจำหน่ายของซัมซุง
ซัมซุงมองว่า จุดขายของ Rugged Device คือ ความทนทาน ทนการกระแทกหลายต่อหลายครั้ง การตกจากที่สูง กันน้ำกันฝุ่นในระดับสูง ใช้งานได้แม้หน้าจอเปียก สวมถุงมือแล้วยังใช้งานได้ ใช้น้ำยาทำความสะอาดทางการแพทย์ได้ รวมถึงการออกแบบ UI UX เพื่อใช้งานระดับปฏิบัติการโดยเฉพาะและมีอีโคซิสเต็มที่มาจากการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ เช่น Microsoft, VM Ware, Google เป็นต้น
ด้านกลุ่มธุรกิจที่มีความเป็นไปได้สูงในการใช้งานผลิตภัณฑ์ Rugged Device คือ ธุรกิจค้าปลีก (Retail) โดยเฉพาะในส่วนงานบริหารจัดการคลังสินค้า, ระบบบริหารและติดตามพิกัดตำแหน่งยานพาหนะ (Fleet Management), ธุรกิจบริการด้านสุขภาพ (Health Care) เช่น Wellness Center และ Telehealth และธุรกิจการศึกษา (Education) โดยเฉพาะในระดับ B2B2C
ที่มา - งานแถลงข่าว
Comments
มือถือเพื่อการชุมนุม
ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะนึกถึง Panasonic Hitachi
notebook ผมว่ายังต้อง Pana อยู่ Samsung มาแต่ Mobile Device
ควรจะมีมานานแล้ว หาซื้อยากมาก และพวกนี้ควรรวมพวก Service License ที่เอาไว้จัดการเครื่องแบบ Remote ไปด้วยเลย บริษัทจะได้ไม่ต้องไปหาซื้ออีกให้ยุ่งยาก
Texion Business Solutions
+1
แต่ไม่ได้กันจอแตกสินะ