อิสราเอลกลายเป็นชาติที่ตัวเลขการฉีดวัคซีนต่อประชากรสูงที่สุดในโลก ด้วยอัตราการฉีดถึง 11.55% ต่อประชากรทั้งหมด ทิ้งห่างชาติอื่นๆ ที่เริ่มฉีดวัคซีนแล้ว โดยเริ่มฉีดวัคซีนของ Pfizer-BioNTech ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมาด้วยอัตราการฉีดที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ตัวเลขล่าสุดฉีดได้มากกว่า 150,000 คนต่อวัน
อิสราเอลจองวัคซีนจากทั้ง Pfizer, Moderna, และ AstraZeneca ผู้ผลิตสามรายหลักที่วิจัยจนผ่านการทดสอบเฟสสามเรียบร้อยแล้ว และทดสอบขนส่งวัคซีนของ Pfizer ไปเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
รัฐบาลอิสราเอลลงนามข้อตกลงกับ Pfizer ในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และมีข่าวว่ารัฐบาลยอมจ่ายแพงกว่าปกติเนื่องจากทำข้อตกลงกับบริษัทหลังจากผลเฟสสามเบื้องต้นออกมาแล้ว โดยรวมรัฐบาลต้องจ่ายเข็มละ 28 ดอลลาร์ เทียบกับสหรัฐฯ ที่จ่ายเข็มละ 19.50 ดอลลาร์เท่านั้น แต่อิสราเอลสั่งรวม 8 ล้านโดสขณะที่สหรัฐฯ สั่งนับร้อยล้านโดส
ที่มา - BBC
Comments
ของไทย จะมี Sinovac จากจีน เข้ามาขัดตาทัพ 2 ล้านโดสภายในเมษา ส่วนทัพใหญ่คือ Oxford/AstraZeneca 26 ล้านโดส จะมากลางปี ภายใต้คอนเซปต์ ของขวัญจากคนบนฟ้า (ผลิตโดยบริษัทในเครือ SCG)
ส่วน Pfizer/Moderna ไม่มีความชัดเจนว่าจะเข้ามาไหม มีแต่ข่าวว่ามีการเจรจา แต่ไม่มีข้อตกลง แต่คิดว่าคงมีเอกชนเอาเข้ามาเอง(เช่น รพ วิภาวดี ที่ประกาศจองวัคซีน Moderna ราคาสี่พันบาท)
คนบนฟ้าคือใครอ่ะ แล้วทำไมถึงเป็นของขวัญล่ะ ในเมื่อก็เขาก็กินภาษีปชช นะ แถมเยอะด้วย
เขาออกข่าวตอนเซ็นสัญญาแบบนี้จริงๆ นะ
คนบนฟ้าเขาจะใช้ sinovac ถูกๆที่ไม่ผ่านการรับรองไหมนะหรือเขาจะไปใช้ pfizer/modena แทนไม่เหมือนที่เอาภาษีมาซื้อแจก
คนนี้มั้ง ?
ยังไม่วาย ลากเข้าการเมือง
ข่าวนี่ก็การเมืองตั้งแต่บรรทัดแรกยันบรรทัดสุดท้าย เรื่องการจัดหานี่ก็เป็นเรื่องการเมืองตั้งแต่เริ่มเขียนโครงการยันออกนโยบาย
มันเรื่องการเมืองตั้งแต่ยังไม่เขียนเป็นข่าวด้วยซ้ำอ่ะครับ
เรื่องจริงเหรอ ของขวัญจากคนบนฟ้าเนี้ยะ
PR ฟรีจากภาษีประชาชน
อย่างน้อยบริษัทเขาก็ลงมือทำนะครับ
ถูกที่ ถูกเวลา
แต่ผิดที่บอกว่าเป็นของขวัญจากใครก็ตามครับ บอกว่าเป็นของขวัญจากรัฐบาลยังดูเหมาะสมกว่า แต่ก็ยังไม่เหมาะสมอยู่ดี
เงินบริษัท แต่ให้บอกว่าเป็นของขวัญจากรัฐบาล?
งั้นระบุมาเลยก็ได้ครับว่าอยากเห็นนายกคนไหนได้ชื่อเป็นเจ้าภาพ
จริงๆ บริษัทมันก็ก่อตั้งมาก่อนเกิดโควิด คือ อย่างน้อยคนก่อตั้งก็ต้องมีวิสัยทัศน์ระดับนึง ไม่ใช่แค่ถือเงินอย่างเดียว จะไม่ให้เครดิตกันเลย บอกว่าไม่เหมาะสม ผมก็ว่าไม่ยุติธรรม
เหมือนเกลียดตัวกินไข่ฯ
"ของขวัญจากผม" แปลว่า "ผมซื้อให้" ครับ ถ้าผมไปซื้อเลโก้มาให้คุณแล้วบอกว่ามันเป็นของขวัญจากเลโก้ หรือเจ้าของบ.เลโก้มันตลกมากนะมันไม่เมคเซ้นส์ แม้ว่าเจ้าของบ.เลโก้จะมีวิสัยทัศน์ทำของเล่นออกมาให้เด็กทั้งโลกได้ฝึกความคิดสร้างสรรค์กัน
เงินบริษัทนี่เงินใครครับ บริษัทมอบให้ฟรีเหรอ? ผมเข้าใจว่าเป็นเงินจากภาษีของประชาชนที่ตัดสินใจโดยรัฐบาลนะ หรือว่าบริษัทดังกล่าวมอบให้ประชาชนฟรีๆ เหรอครับ? อันนี้ถามไม่ใช่แซะนะ คือผมเข้าใจว่าเป็นเงินจากภาษีประชาชนครับ
ของขวัญ แปลว่า ให้
แต่จะให้อะไรก็อีกเรื่องนึง ซึ่งในที่นี้น่าจะหมายถึงให้โอกาสซื้อก่อน เผลอๆก็อาจจะได้ราคาถูกด้วย
ยุคนี้กำเงินอย่างเดียว ซื้อวัคซีนไม่ได้นะครับ (เว้นแต่จะยอมจ่ายแพงตามข่าว ซึ่งถ้าทำแบบนั้นก็โดนด่าแน่นอน)
แล้วความคิดที่เอ๊ะอ๊ะก็บอกว่าภาษีประชาชน เดี๋ยวผมค่อยมาตอบ
ไม่ต้องตอบประเด็นอื่นแล้วครับ BS เกินจะทน แนะนำว่าเคลมทุกอย่างได้เลยครับ แหม่ ของขวัญจากการตีความแบบสะเปะสะปะ แต่ห้ามบอกว่าเป็นภาษีจากประชาชน ส่วนบ.ลงทุนเพื่อทำกำไร กลับเรียกว่าเป็นของขวัญได้
absurd กว่านี้คงหายากแล้วครับ
เห็นด้วยครับ ต้องให้เครดิตผู้บริหารกองทุนฯลดาวัลย์(ที่ใช้เงินของประเทศไปลงทุน) ที่สุดท้ายก็เป็นของทุกคน ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง (ณ วันนี้น ก่อนเปลี่ยนกฎ)
ของจีน ยังไม่ผ่านการทดลองเฟสสาม ยังไม่เผยแพร่ผลการทดลองแบบของ Pzifer,Moderna น่าห่วงว่า จะมาทดลองกับคนไทยนับเป็นเฟสสามเลยหรือเปล่า? (อย่านิยามเฟสสามแบบไทยๆเองอีกนะ)
ส่วนนำเข้ามาเองตอนนี้ติดอย.ไทย กำลังขอกันอยู่ ออกมาขู่ฮึ่มๆห้ามโฆษณาขายล่วงหน้า(แต่กับวัคซีนจีน กับของAz ที่ก็ยังไม่ได้ขออย.รัฐดันโฆษณาเองได้?)
Az ในไทยซื้อล่วงหน้าตอนนี้ 26 ล้านโดส ที่ว่าผลิตได้200 ล้านโดสต่อปีนั่นคือส่งเจ้าของ...
ข้อมูลตรงนี้และอยากได้มากเลย ขอให้ไม่เลื่อนนะ
น่ากลัวนะครับ
https://www.wsj.com/articles/chinas-sinovac-delays-covid-19-vaccine-trial-results-11608757865
อะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชนคนส่วนใหญ่ก็ทำไปครับ แต่เห็นคอนเซปต์แล้วคือ.....
ล่าสุดแถวบ้าน กำลังมีเปิดซุ้มตรวจ covid ตามชุมชน เป็นโครงการชุดตรวจพระราชทาน มาเรียบร้อย ผมนี่กุมขมับเลย
28$ กับความเร่งด่วนนี้ ถือว่าถูกมากนะ
ถ้าผมมีอำนาจสั่งการ 50$ ผมก็สู้ราคานะ
เป็นผมถ้ามีอำนาจ ผมเอาเงินไปซื้อเรือดำน้ำ ไปเลี้ยงมิตรสหายที่ฮาวาย หรือเอาไปสรรเสริญใครสักคนสองคนดีกว่าเยอะ
ทานยา Anti-Biotic ไว้ครับ เผื่อติดเชื้อในกระแสเลือด 55
วัคซีนยี่ห้อไหนดีครับ
ปัญหาอาจจะไม่ได้อยู่ที่ราคาต่อโดสแต่เป็นการ preserve เมื่อถึงไทย
มากกว่าครับ ดูจาก 30 USD วิภาวดีคิด 4,000 บาท ร้องแบบอื้อหืออออออออ
เอาหละนี่คือเหตุผลนะครับที่ผมเดา แต่คิดว่า
คงจริงหนะหละไม่อิงนิยาย รบ.ถังแตกเป็นหลัก
การควบคุมในอุณหภูมิต่ำ ผมมองว่าการใช้สารเยือกแข็ง
สารเยือกแข็งน่าจะโดนจัดเป็นยุทธภัณฑ์เกือบทั้งหมด
(เดา เพราะใช้อุณหภูมิติดลบ)
อุปกรณ์ และงบดำเนินการในการจัดเก็บใครจะรับผิดชอบ
เหมือนจะมีคำพูดๆนึง ของที่ไหนงบที่นั่นอยู่ครับ
รพ. จะเอางบจากไหน"ตามระเบียบ" เราก็รู้ๆกันอยู่เหมือน
พรบ. ควบคุมโรคหนะหละ การจะให้ผู้ป่วย หรือผู้เสี่ยงวิ่งเข้าหา รพ. จังหวัด รพ.
ภูมิภาค มันคงวุ่นวายน่าดู........เอวัง
ถ้าท่านใดมีข้อมูลเสริมก็ยินดีครับ
ไนโตรเจนเหลวนี่ เห็นมีตามแลป และเคยมีร้านไอศครีมบางร้านเอามาใช้ด้วย คิดว่าไม่น่าใช่ยุทธพันธ์ควบคุมอะไร
การขนส่งอาจจะลำบากตรงที่ต้องคุมอุณหภูมิตลอดก็จริง แต่การสร้างคอนเทนเนอร์เฉพาะทาง หรือ ตู้แช่เฉพาะทางก็ไม่น่าจะลำบากเกินไป
ความยุ่งยากเดียวน่าจะเป็น demand สูงมากแต่ supply การผลิตของบริษัที่ผลิตได้มีจำกัด นอกจากล็อตที่สั่งซื้อล่วงหน้า ที่เหลืออาจจะต้องเจรจา/ประมูลแข่งกับประเทศอื่นๆ
ไนโตรเจนเหลวมีขายทั่วไปครับ แค่แพงเฉย ๆ
มีแบบทำอาหารด้วย เห็นบ่อย ๆ ในรายการทำอาหาร
ผมเห็นด้วยครับ จ่ายแพงแต่ได้เร็วคุ้มกว่า เพราะความเสียหายทางเศรษฐกิจ(ถ้าได้วัคซีนช้าไป)แต่ละเดือนนั้นสูงมาก
กลัวจะได้เห็นเพื่อนบ้านฉีดนำไปกันหมดแล้วเนี้ยสิ ยังไม่พูดถึงการจัดการหลังจากได้มาแล้วอีก คงมีเรื่องมีราวให้เสพอีกเยอะ
จะมีภาคเอกชนนำเข้าวัคซีนของ Pfizer ไหม?
เกรงว่าถ้าพึ่งภาครัฐคงให้พวกอภิสิทธิ์ชนชั้นก่อน
ก็อาจจะมีครับ แต่เห็นว่าต้องผ่าน อย. ก่อน ไม่งั้นขายไม่ได้
ถังแตกขนาดนี้ จะฉีดให้คนไทยยังกระอัก
ถามสั้นๆ พม่ากว่า 2 ล้านคนในไทย ใครออกเงินค่าวัคซีนให้?
เข้าไทยถูกต้องแรงงานต่างชาติจะมีกองทุนประกันสังคมแรงงานต่างด้าวอยู่แล้ว เค้าก็เอาเงินจากตรงนั้นมาจ่าย ส่วนเข้าผิดกฎหมายก็ว่ากันอีกที
(ใครทำให้เข้าผิดกฎหมายก็ไปไล่เก็บเอา ถือเป็นต้นทุนของรัฐที่ปล่อยปะละเลยให้เกิดแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย-ไม่ลงทะเบียน)
เดี๋ยวของไทย ปชช แพทย์ รอไปก่อน ฉีดให้บุคคลสำคัญกว่านั้นก่อน ่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่แต่ที่อื่นฉีดให้ปชช กับแพทย์ก่อน
มีที่มามั้ยครับ?
โถ... ไร้เดียงสาจริงๆ มาถามหาที่มา
ที่เห็นๆอยู่ ยังคิดว่าเค้าจะทำอะไรให้ประชาชนก่อนชนชั้น elite อยู่อีกเหรอ โถ...
เห็นอยู่ชัดขนาดนี้ แล้วยังไม่รู้ จะเรียกว่าโงก็คงน้อยไป
ผมแนะนำ ดึงบัญชีผู้จ่ายภาษีแบบ ภงด.ปีล่าสุดจากสรรพากร
เพราะคน 3-4 ล้านคนนี้ คือคนที่ควรได้รับการดูแลเป็นอันดับต้นๆ
อันนี้ประชดหรือเอาจริงนะครับ
อีกก็อีกคน... ยังงมโข่งอยู่กับคนจ่ายภาษีมีสิทธิมากกว่าคนไม่จ่าย โถ... ลงกะลาไปพร้อมกับไอคนหาที่มาเลย
เมื่อไหร่สลิ่มพวกนี้มันจะคิดเป็นกันนะ แต่อย่างว่า ถ้าฉลาด ก็ไม่เป็นสลิ่ม
จริงๆก็อยากจะปล่อยให้ตายเองอะนะ แต่ความเป็นสลิ่มนี่มันเดือดร้อนชาวบ้านด้วยไง
มีคนพวกนี้สนับสนุนรัฐบาลห่วยๆอยู่ ลำบากกันทั้งประเทศ
จริงๆตัวมันเองก็ลำบาก แต่ด้วยความโง และอีโก้ ก็เลยยังสลิ่มต่อไป
ฝ่ายไหนกันครับที่เอะอะก็อ้าง "ภาษีku"
ทั้งที่ความจริงจ่ายvat อย่างเดียว แบบ ภงด.หน้าตาเป็นไงยังไม่รู้ด้วยซ้ำ
และแกนนำล้วนยังไม่มีงานทำ
ก็เห็นคุณคนแรกในกระทู้นี้ ที่บอกว่าต้องดึงฐานภาษีมาดูว่าใครจ่ายมากกว่า เพื่อที่จะ"เลือก"ให้บริการก่อน
เป้าหมายโครงสร้างระบบภาษีของรัฐสมัยใหม่ คือการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมครับ
การเข้าถึงการให้บริการจากภาครัฐต้องเท่าเทียมกัน โดยอาจจะลำดับความสำคัญเพื่อประโยชน์ส่วนรวม(เช่นคนที่ต้องอยู่ด่านหน้ารักษาโรคก่อน) แต่คงไม่ใช่ ให้ความสำคัญตามจำนวนเงินภาษี
ป.ล. ไม่งั้นสมมติว่าผมจ่ายภาษีมากกว่าคุณ แสดงว่า คุณห้ามโต้แย้งผมนะเพราะผมมีสิทธิ์พูดมากกว่า? :P
คือคุณอ้างคนละเรื่องกับเค้านะ คุณอย่ามาพูดเอาดีเข้าตัว รู้ว่าใครจะพิมพ์ค้านอะไรคุณก็ไม่อ่านหรอก แต่ก็เอาหน่อยเถอะ
ใครก็อ้างภาษี "กู" ได้เพราะทุกคนจ่ายภาษี จะ vat จะภงด. ไม่เกี่ยว ทุกคนจ่ายภาษีกันหมด
และทุกคนก็เป็นคนเท่ากัน จะจ่ายภาษีมากน้อยก็เป็นคนเท่ากัน จะภาษีอะไรสุดท้ายมันก็ไปลงก้อนเดียวกันหมด ทุกคนเป็นประชาชนในประเทศเหมือนๆกันหมด การช่วยเหลือควรจะได้ทุกคนเท่ากันทุกหย่อมหญ้า คนที่มีอภิสิทธิ์ควรจะได้ก่อนก็ต้องดูตามความเหมาะสม เช่นเคสนี้คือเจ้าหน้าที่และบุคลากรที่ปฏิบัติงานอยู่กับโรค
ชุดความคิดแบบคุณมันน่าขยะแขยงมาก ผมบอกตรงๆ มาอ้าง "แกนนำล้วนยังไม่มีงานทำ" ถ้าวันนึงเด็กมันมีงานทำคุณก็หาข้ออ้างอื่นมาพูดอยู่ดี แล้วทั้งหมดทั้งมวลนี่มันเกี่ยวกับแกนนำตรงไหนครับ?
ผมรู้ว่าอะไรแบบนี้มันไม่ผิดกฎของเว็บและเจ้าของเว็บค่อนข้างให้เสรีในการคอมเมนต์ข่าวมากพอสมควร แต่คนที่สมัครมาคอมเมนต์แนวนี้มันเริ่มเยอะนะครับ และการคอมเมนต์ที่เนื้อหาเจตนาพูดโจมตีชัดเจนโดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อข่าวเลยนี่ควรจะควบคุมหรือไม่ ฝากทบทวนด้วยนะครับ
ผมอ่านทุกบรรทัดครับ
มีคนพูดถึงภาษีประชาชนก่อนผม 2 ความเห็นข้างบน (ไม่ใช่ในความเห็นย่อยนี้ครับ)
อ้างว่าคนที่จ่ายภาษีมากกว่ามีสิทธิมากกว่า แต่ไม่อยากให้ใครเอาเรื่องภาษีมาอ้าง 555 555 555 555 555
อ่านไม่เกิน3บรรทัดไม่ควรมาแสดงความเห็นครับ
ไม่มีประโยคไหนของผมที่ว่าคนจ่ายภาษีมากกว่ามีสิทธิ์มากกว่า
ผมบอกว่าาคน3-4ล้านคนที่จ่าย ภงด.ควรได้รับสิทธิ์วัคซีนอันดับต้นๆ ครับ
ไม่ได้ต่างเลยครับ เพราะคุณคิดว่าคนจ่ายภงด.เป็นแหล่งหลักของภาษี เมื่อเทียบกัน และก็ไม่พ้นเรื่องการเอาภาษีมาอ้างแบบ "ภาษีกู" นั่นแหละครับ
สรุปว่าอาการคุณหนักกว่าที่คิดอีกนะ
งั้นผมขอเหตุผลดีๆ ว่า ทำไมคนไทยที่เหลืออีก 62.5 ล้านคนถึงไม่เสียภาษี ภวด.
เพราะรัฐมีเกณฑ์รายได้ขั้นต่ำว่าใครบ้างที่จะต้องเสียภาษี/ไม่ต้องเสียภาษี และรัฐพัฒนาไม่พอที่จะเก็บภาษีจากผู้ค้า หรือผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจแบบที่สามารถหลบเลี่ยงภาษีได้ (ผมลืมว่ามันใช้คำว่าอะไร)
อันนี้เป็นปัญหาของรัฐที่จะเอาคนเหล่านี้มาเข้าระบบภาษีให้ได้ และผมไม่ได้พูดถึงแค่รบ.ของประยุทธ์ ผมพูดถึงรัฐที่ไม่ว่าใครจะมาเป็นรบ.ก็ควรทำให้ได้
ตาคุณละ ผมขอเหตุผลที่ดีๆ ที่คุณบอกว่าไม่ควรอ้างภาษีกู แต่ทำไมตัวคุณกลับอ้างเรื่องภาษีซะเอง
เป็นอะไรมากมั้ยกับ ภงด.ภาษีมูลค่าเพิ่มมันไม่ใช่ภาษีเหรอครับ มันแค่รูปแบบหนึ่งของการจัดเก็บภาษี
สงสัยว่าแล้วจ่าย ภงด.แล้วรู้สึกถึงความเป็นประชาชนหรืออภิสิทธิ์ชนเหนือใครเหรอ
ทนไม่ไหวกับชุดความคิดการวัดมูลค่าของมนุษย์กับการเสียภาษี
ผมว่าเมนต์นี้ เข้าข่ายดูถูกคนอื่นนะครับ
ผมแนะนำ ดึงบัญชีผู้จ่ายภาษีแบบ ภงด.ปีล่าสุดจากสรรพากร
เพราะคน 3-4 ล้านคนนี้ คือคนที่ควรได้รับการดูแลเป็นอันดับต้นๆ
เข้ามาเม้นเพราะ ยอมใจความคิดจริง ๆ ตื้นเขิน ตื้นเขินจริงๆ
แนะนำให้ไปศึกษาโครงสร้างภาษีนะครับ
คุณอาจจะคิดว่าคนอื่นจ่ายแค่ VAT 7% น้อยกว่าที่คนกลุ่มที่จ่ายภาษีเงินได้ แต่กว่าจะมาเป็น VAT 7% สินค้าบางอย่างมันผ่านทั้งภาษีนำเข้า ภาษีสรรพสามิต ภาษีอื่น ๆ ก่อนจะมาเป็นราคาสินค้าแล้วเพิ่ม VAT อีก 7% เข้าไป เช่น สินค้าพวก skincare เครื่องสำอาง เป็นต้น
ซึ่งแน่นอนว่าผู้ประกอบการที่จ่ายภาษีเหล่านั้นไปก่อนก็ต้องนำเงินที่จ่ายส่วนนั้นมาคิดเป็นราคาสินค้าเพิ่มอยู่แล้ว ดังนั้นคนที่ซื้อสินค้าไปก็เปรียบเสมือนเป็นผู้จ่ายภาษีส่วนนั้น ๆ ไปโดยปริยาย ซึ่งนับเป็นจำนวนเงินแล้ว มันก็ไม่ได้น้อยนะครับ ลองไปศึกษาอัตราภาษีต่าง ๆ ดูครับ
ประเทศนี้ไม่ได้มีแค่ VAT กับภาษีเงินได้ครับ
That is the way things are.
แต่คนที่เสียภงด.ก็ต้องซื้อของเหล่านั้น และเสียภาษีเหล่านั้นเหมือนกัน เหมือนกับคนที่ไม่เสียภงด. ดีไม่ดีเยอะกว่าด้วย ถ้าพูดกันจริงๆ ก็ยังถือว่าผู้เสียภงด.จ่ายภาษีเยอะกว่ารึเปล่าครับ?
มันพูดยากครับ เพราะแต่ละคนซื้อของไม่เหมือนกัน
บางคนเสียภาษีเงินได้น้อย แต่ซื้อของฟุ่มเฟือยมาก เงินรวมภาษีก็ไปเน้นที่ภาษีอื่น ๆ
บางคนเสียภาษีเงินได้มาก แต่ซื้อของฟุ่มเฟือยน้อย เงินรวมภาษีก็ไปเน้นที่ภาษีเงินได้
ดังนั้นมันจึงเป็นการยากมากที่จะระบุว่าใครเสียภาษีมากกว่าแบบชัดเจน เว้นเสียแต่ว่าฐานรายได้ต่างกันมากจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม โดยหลักการแล้วการเข้าถึงบริการและสาธารณูปโภคของรัฐไม่ควรวัดจากภาษี ในฐานะประชาชนที่เท่าเทียมกันควรมีสิทธิ์เข้าถึงสิ่งเหล่านี้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเสียภาษีมากหรือน้อยก็ตาม
ผมเชื่ออย่างนั้นครับ
That is the way things are.
อ้างสิทธิ์การดูแลตาม ภงด. นี่ตื้นเขินโคตรๆเลยจะบอกให้
https://www.parliament.go.th/ewtadmin/ewt/parbudget/ewt_dl_link.php?nid=797
เอาไปดูซะภาษีอะไรเป็นอัตราส่วนเท่าไหร่
โพสแบบนี้เข้าข่ายเป็นคนปล่อย fake news
Comment นี่ต้องเป็น Fact ด้วยหรอครับ
ผมว่า การวิเคราะห์ วิจารณ์ บนอคติของตัวเอง น่าเป็นสิ่งที่พึ่งทำได้ตามปกตินะครับ
ไม่งั้นเราก็เอา Comment ในทุกบอร์ดสาธารณะ เอาไปอ้างอิงได้หมดหรือป่าวครับ?
ฟ้องได้หมดล่ะครับ จะมีมูลไม่มีมูลฟ้องได้หมด ศาลรับรึเปล่าอีกเรื่อง แต่การใช้กฎหมายเพื่อจุดประสงค์ในการปิดปากเป็นเรื่องน่ารังเกียจอ่ะนะ
+1
เห็นแบบนี้แล้วสะอิดสะเอียน ผมไม่อยากไป reply ให้เสียโควตาคอมเมนต์
หลายครั้งผมเลือกที่จะเงียบ ไม่ใช่เพราะกลัวกฎหมายบ้าบ้าบอบอพวกนั้น
เพียงแต่มันส่งผลถึงคนในครอบครัว เหลียวมองหลังแล้ว มันก็เดินหน้าไม่สุด
ถึงรู้สึกชื่นชมพวกรุ่นใหม่ที่เค้ากล้าออกมา กล้าที่จะเสียสละบางอย่างเพื่อบางสิ่ง
ส่วนพวกที่พยายามจะปิดปาก ด้วยกฎหมายบ้าบอพวกนี้ น่ารังเกียจจริงจริง
นายกฯเผยได้วัคซีน 2 ล้านโดสใน1-2เดือนให้บุคลากรการแพทย์ก่อน
ระงับ "คนละครึ่ง"+"เที่ยวด้วยกัน" ไปก่อน ก็มีตังซื้อแพงๆ แล้วหรือเปล่า
ระยะยาวยังไงก็น่าจะคุ้มกว่าอัดฉีดในระยะสั้นเห็นๆ
ควรมีกติกาใครรับคนละครึ่ง,ไปเที่ยวด้วยกัน ควรได้รับวัคซีนทีหลัง ควรเป็นการใช้สิทธิแบบเลือกทางใดทางนึง ไม่ใช่ได้ทุกทาง
คือไม่ชอบรัฐบาลนะ แต่ 2 โครงการนี้ได้ผลดีกว่าการแจกตัง 5000 จริงๆ แม่ค้ายิ้มได้
ตัวอย่างเลย ลูกค้าบอกปกติซื้อ ส้มโลนึง พอมีคนละครึ่งแล้วเขาซื้อส้ม 2 โลเลยแล้วกัน ใช้คนละครึ่งจ่ายเท่าเดิม พอขายได้ดีขึ้น ในกลุ่มคนรากหญ้า เศรษฐกิจก็เกินการฟื้นขึ้น ไม่เหมือน แจก 5000 คนก็เอาตังไปเข้าห้างหมด เข้ารายใหญ่หมด
เหมือนบอกว่าโดนแทงไส้ไหลอยู่ ให้ไปเตรียมการผ่าตัดก่อนยังไม่ต้องห้ามเลือดน่ะครับ
โครงการส่วนใหญ่ของรัฐบาลนี้มันห่วยจริงนั่นแหละ แต่โครงการนี้ฉลาดยังกะไม่ใช่ของรัฐบาลนี้แล้วครับ
ของไทยผมว่าคงต้อง บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย VIP ทั้งหลายเช่นราชวงศ์ ตามมาด้วยนักการเมืองระดับสูง + ครอบครัว ข้าราชการระดับสูง คงต้องให้โควต้ากลุ่มนี้ก่อนแน่ๆ กว่าจะถึงประชาชนทั่วๆไป ถ้ารีบอาจจะต้องยอมจ่ายแบบโคตรแพงสุดๆ
อันนี้ผมคิดตามความเชื่อของผม
ผิดครับ จากรอบที่ผ่านมาต้องเอาบุคลากรทางการแพทย์ไว้หลังๆครับ ถ้าจากลิสต์นี้อย่างเก่งก็อยู่หน้าประชาชนทั่วไปนั่นแหละครับ
ความจริงอันเจ็บปวด บุคลากรการแพทย์ก็ไม่ต่างจากแรงงานฝีมือ
จริง รอบก่อน เพื่อนผมน้องผม ต้องมาขอรับบริจาคหน้ากากจากญาติๆ เพราะรพ.มีโควต้าให้บุคคลากรสัปดาห์ละ 1 แผ่น ย้ำว่า 1 แผ่น แถมช่วงนึงที่ประกาศสินค้าควบคุม ทำให้รพ.สั่งหน้ากากเองตรงไม่ได้ ต้องรอโควต้าจากกรมฯจัดสรรต่อมาอีกที
จนช่วงหลังที่ดราม่าแรงๆ ถึงได้มีพอ
รอบนี้เจ้าตัวตุนไว้เองเยอะละ ไม่หวังจากส่วนกลาง
มีเงินแซงคิวได้
ส่วนตัวนะขอให้วัคซีนโควิดล้มเหลวโดยสมบูรณ์
ทำไมอ่ะครับ
ให้มันสำเร็จเหอะ ครับ พวกค้าขายจะตายกันอยู่แล้ว
คนที่รู้จัก ขนาดว่ามีเงินเก็บเยอะๆ ก็ยังเอามาใช้จนหมด แถมยังโดนโกงอีก
เข้าใจนะว่าหลายคนต่างลำบาก แต่คนบนโลกนี้มันก็เยอะมากเกินไปแหล่ะ อยากให้คนลดลงไปและให้ธรรมชาติได้ฟื้นตัวบ้าง
ถ้าวัคซีนผลิตไม่สำเร็จแล้วคิดว่าธรรมชาติจะฟื้นตัวเหรอครับ
ไม่คิดว่ามันจะกลายพันธ์จนทำลายธรรมชาติบ้างเหรอ?
อ๋อออ เลือกไม่มองอ่ะ ขอให้เป็นแบบนี้แหล่ะ
คุณทำได้ด้วยการไม่รับวัคซีนครับ แต่ไม่แนะนำให้แพร่เชื้่อให้ใครนะ
ต้องแพร่นะ ช่วยๆกัน :)
ไม่ช่วยแต่ก็แพร่กันเยอะแล้วนะครับ
ลัทธิ Church of Euthanasia มีป้ายดีๆที่อ่านแล้วคุณสามารถช่วยโลกได้นะครับ
ไม่อ่ะ แบบนี้ดีแล้ว
ธรรมชาติได้ฟื้นตัว ยังไงบ้างครับ พอมีรายละเอียดไหมครับ
เหลือแต่หลังฉีด จะมีรายงานผลข้างเคียงหรือไม่มากกว่า และมีมามากน้อยแค่ไหน รวมถึงความเสี่ยงที่เชื้อจะกลายพันธุ์หลังฉีดวัคซีน
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ผมก็คิดแบบนั้น ได้ฉีดก่อนก็ดี ได้ฉีดหลังก็ดี จะได้รอดูผลจากคนอื่นๆ ตัวผมแพ้ง่ายแพ้ยาเป็นหน้ากระดาษเลยคิดว่ารอดูคนอื่นๆ ก่อนก็ดีเหมือนกัน
ผมคาดว่ามันจะเหมือนไข้หวัดใหญ่ครับ
ธรรมชาติของ coronavirus มันกลายพันธุ์เก่งอยู่แล้ว อย่างที่เห็นจากปีที่ผ่านมา แค่ไม่กี่เดือนก็เกิด COVID-19 สายพันธุ์ใหม่มากมาย
วัคซีนก็คงจะต้องอัพเดต เหมือน security patch ครับ ทำกันเป็นรายปีไป ไล่ตามเชื้อให้ทัน
เฟสสี่รายงานหลังฉีดสามเดือนครับ
ของไทยกว่าจะได้ฉีดล็อต 26 ล้านโดส ก็คงสิ้นปีพอดี มีผลการทดลองจากทั่วโลกที่เขาฉีดไปแล้ว มาให้ดู
แต่ล็อตสองล้านโดสจากจีน นี่ยังไม่ทดลองเฟสสามที่ไหนเลยนะ ใครได้ฉีดล็อตนี้ก็เป็นหนูทดลองให้จีนพอดี