Sinovac แถลงข่าวการทดสอบวัคซีนในบราซิล โดยระบุว่าประสิทธิภาพของวัคซีนสูงถึง 78% อย่างไรก็ดีในการแถลงข่าวกลับไม่ยอมบอกตัวเลขแน่ชัดว่าคำนวณมาได้อย่างไร แต่ระบุเพียงว่าจะตีพิมพ์ผลการทดลองและยื่นผลให้หน่วยงานกำกับดูแลภายหลัง
การทดสอบในกลุ่มผู้ทำงานสาธารณสุข 13,060 คน พบว่ามีผู้ติดเชื้อรวม 218 คน โดยเป็นผู้ติดเชื้อจากกลุ่มได้รับวัคซีนปลอม 160 คนกว่าๆ ที่เหลือเป็นผู้ติดเชื้อจากกลุ่มที่ได้รับวัคซีนจริง และกลุ่มผู้ได้รับวัคซีนไม่มีอาการป่วยปานกลางหรือรุนแรงเลย (เทียบกับการแถลงข่าวของ Pfizer ที่รายงานตัวเลขถึงหลักหน่วยทุกตัว)
Denise Garrett นักระบาดวิทยาสหรัฐฯ เตือนว่าการแถลงข่าวระบุถึงประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกับความเจ็บป่วยจากเชื้อ (ติดเชื้อมีอาการ) ไม่ได้รายงานประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อเนื่องจากออกแบบการทดลองไว้แบบนี้ตั้งแต่ต้น อย่างไรก็ดีผลโดยรวมดูแล้ววัคซีนมีประสิทธิภาพและปลอดภัยเพียงพอสำหรับควบคุมการระบาด
ที่มา - Science Magazine, Nikkei Asian Review
ภาพโดย qimono
Comments
อย่างไีก็ดี > อย่างไรก็ดี
ป้องกับ => ป้องกัน
รัฐบาลไทยไปสั่งวัคซีน Sinovac ไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นเรื่องที่สมควรทำด้วยซ้ำเพื่อกระจายความเสี่ยง (แต่อาจต้องตรวจสอบเรื่องที่ซีพีไปถือหุ้น)
เรื่องที่แปลกคือ วัคซีนที่ได้รับการรับรองจาก USA EU UK Canada อย่าง Moderna กับ Pfizer (ตัวนี้ได้ WHO รับรองด้วย) และมีการฉีดให้ประชากรในต่างประเทศแล้วหลายล้านคน ทำไมยังไม่มีความคืบหน้าเรื่องการสั่งซื้อ อ่านข่าวไหนข่าวไหนก็บอกแต่ว่า "กำลังคุย" แต่โรงพยาบาลวิภาวดีดันสั่งวัคซีน Moderna ได้หกหมื่นโดส พร้อมฉีดทันทีที่ อย อนุมัติ (คาดว่าเดือนกุมภา)
https://youtu.be/rIHYRtZwOU8
ลองฟังหมาแก่
Moderna กับ Pfizer มันโคตรแพง จัดเก็บรักษายากมาก อายุสั้น ซึ่งโรงพยาบาลนอกเมืองส่วนมากไม่พร้อมที่จะรองรับแน่นอน และยังมีผลข้างเคียงรุนแรงสำหรับบางคนอยู่
สำหรับตอนนี้มีการฉีดวัคซีนแค่ 10 กว่าล้านคนเองครับจากทั่วทั้งโลก
ถ้าจะเอาให้พร้อมที่จะฉีดจริงๆ มันต้องช่วงกลางปีถึงปลายปีนี้ครับชัวร์กว่า
เนื่องจากตอนนี้วัคซีนได้รับการพัฒนาไม่ถึงปีเลยด้วยซ้ำ
ที่ อย. สั่งห้ามผมก็เข้าใจนะ แต่หลังจากนี้เมื่อวัคซีนมันนิ่งขึ้นเขาก็ให้เอกชนนำเข้ามาได้ เพื่อลดภาระส่วนกลาง
pfizer/moderna แพงก็มีคนพร้อมจ่ายครับ ระบบการจัดเก็บ มีเงินก็ทำได้ สิงคโปร์เขายังทำได้เลย ดีเสียอีก จะได้ลดภาระรบ.ในการจัดหางบมาฉีด ให้คนมีเงินเขายอมจ่ายราคาแพงไปเพื่อวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงสุด อย่ากีดกันเพียงเพราะกลัวจะไม่ได้หน้าว่านำเข้ามาฉีดก่อนเลย
ต้องรอผ่านอย.ก่อนน่ะเข้าใจ แต่หวังว่าคงไม่ใช่ว่า กีดกันถ่วงเวลาจนsinovac ที่ยังไม่ตีพิมพ์ผลการทดลองเฟสสามสักที ลัดคิวมาฉีดได้ก่อนนะ
อย่าลืม คนออกมาพูดขู่ว่าห้ามโฆษณาว่าจะจัดหา pfizer/moderna เพราะยังไม่ผ่านอย.ไทย แม้จะได้การรับรองในประเทศใหญ่ทั่วโลก แต่รัฐ และเอกชนบางเจ้ากลับโฆษณาว่าจะจัดหาวัคซีน ที่ยังไม่มีที่ไหนในโลกรับรอง มาได้
ผมกลับคิดว่าถึงมันจะแพงหรือเก็บรักษายากยังไง ถ้าคิดจะลงทุนพัฒนาระบบเพื่อเป็นประโยชน์แก่ประชาชนประเทศตัวเองมันก็ควรทำนะครับ ไม่ใช่ว่าอ้างเหตุผลเรื่องความล้าหลังตลอดแต่ไม่คิดจะพัฒนาขึ้น
คือเข้าใจแหละ งบประเทศเอาไปละลายใช้กับประโยชน์ตัวเองและพวกพ้องหมดแล้ว แต่อย่างน้อยก็ควรจะพยายามทำเพื่อประชาชนให้มากกว่านี้
pfizer กับ moderna ที่มีปัญหาจริงๆ คือการขนส่ง และการจัดเก็บเลย เพราะต้องเก็บในอุณหภูมิติดลบ
ส่วนตัวคิดว่า astrazeneca จะเวิร์คกว่าเพราะผลิตใน local + เก็บในตู้เย็นได้
ส่วน sinovac ขอตามดูต่อไปก่อน ยังไม่เชื่อมั่นมันมาก แต่ก็มีจุดเด่นที่ ใช้ traditional way + เก็บในตู้เย็นได้
Pfizer ในเมืองไทยใช้ Zuellig Pharma เป็น distributor นะครับ ใหญ่สุดในเมืองไทย(และเอเชีย)แล้วเรื่องการขนส่งยา วัคซีน -70 องศาบอกเลยสบายมากเรื่องการขนส่ง ขนาดวัคซีนไก่ตัว Mycoplasma S. ที่ต้องเก็บ -70 องศา เหมือนกันเบทาโกรสั่งทีหลักล้านโดสยัง zuellig ขนกันเป็นเรื่องปกติ อยู่ที่ปลายทางแล้วว่าจะมีตู้ -70 เก็บได้หรือไม่
เสริมนิดนึง ปลายทางไม่จำเป็นต้องมีตู้เย็น -70 องศาเซลเซียสก็ได้ จากในเว็บไฟเซอร์ เขาจะให้กล่อง thermal shipper มาให้ด้วย ซึ่งกล่องนี้ ให้เติมน้ำแข็งแห้ง ทุกห้าวัน วัคซีนจะอยู่ได้นาน 30 วัน พอหลัง 30 วันแล้ว สามารถย้ายไปเก็บต่อที่ตู้เย็นธรรมดา (2-8 องศาเซลเซียส) ได้อีก 5 วัน รวมทั้งหมดเป็น 35 วัน แต่ถ้าเกินกำหนดแล้วต้องทิ้งเลย เอาไปแช่แข็งวิธีอื่นไม่ได้อีกแล้ว
แต่ของ Moderna เองก็สะดวกกว่าเยอะนะ ขนส่งที่ -20 องศา เก็บตู้เย็นธรรมดาได้เดือนนึง น่าจะเป็นเหตุผลที่สถานพยาบาลเอกชนในไทยเลือกยี่ห้อนี้
รพ เอกชน เค้าจะเก็บค่ายาค่าบริการเท่าไรก็ได้ครับ แต่ของรัฐนี่มันจะต้องมีการศึกษาเรื่องความคุ้มค่า เข้ามาด้วย
ผมมองว่ายิ่งคนไทยได้ฉีดเร็วเท่าไหร่ ยิ่งคุ้มค่า
สมมุติราคาต่อโดสแพงกว่ากัน 500 บาท
เราต้องการ 65 ล้านโดส สรุปรวมแพงขึ้น 32,500 ล้านบาท
แพงกว่าเท่านี้ถ้าได้เร็วกว่าสัก 5 เดือน ก็คุ้มครับ เพราะแต่ละเดือนที่ผจญกับการระบาด ต้องเข้มงวด ต้องล็อคดาวน์ ประเทศสูญเสียหลายหมื่นล้าน
ราคาแตกต่างค่อนข้างเยอะกว่านี้ครับ
Pfizer ประมาณ 20 usd/doses
Moderna 32-37 usd/doses
AstraZeneca 3-4 usd/doses
อันนี้ราคาต่อโดส แถมต้องใช้คนละ 2 โดสไม่นับรวมค่าขนส่งและเก็บรักษาที่ pfizer กับ moderna จะค่อนข้างลำบากกว่าพอสมควร
pfizer เพิ่งมีข่าวฉีดแล้วต่อมาเสียชีวิต ยังสงสัยว่าใครจะอยากแจ๊กพอตแบบนั้นบ้าง
อันนั้นยังเปิดเผยข้อมูลตรงไปตรงมานะครับ อันนี้เฟสสามตามข่าวก็รายงานตัวเลขได้ไม่ละเอียดเท่าเลยนะครับ
ฉีดไป 10 กว่าล้าน เพิ่งเจอ 1 อีกเจ้ายังไท่เริ่ม ผลการทดลองก็ปิดไปซะเกือบหมด อันไหนน่ากลัวกว่ากันหว่า
mRNA Vaccine มันของใหม่มากๆความเสี่ยงสูงเหมือนกันเพราะเราไม่รู้ว่าในระยะยาวจะมีผลข้างเคียงขนาดไหน เห็นอาจารย์หมอบางคนเลือก AstraZeneca แทนถ้าเลือกได้
แอบกังวลผลระยะยาวของ mRNA เหมือนกันครับ
จะทำให้คนกลายพันธุ์ เป้น X-men ไหมครับ ฮ่าๆ
ระยะยาวต้องศึกษาครับ แม้แต่วัคซีนที่พัฒนาโดยเชื้อตายแบบเก่าหลายๆตัวในอดีตก็มีside effect จนต้องเลิกใช้ไปก็มี ไม่ใช่ว่าเป็นแบบเชื้อตายแล้วจะไม่มีความเสี่ยง
สุดท้ายต้องดูกันที่paperเฟสสาม และเฟสสี่ครับ
ที่น่ากลัวคือ sinovac ตอนนี้ยังไม่เผยแพร่เฟสสามเลย ในขณะที่สองเจ้าแรกเปิดเผยเต็มที่ไปแล้ว ส่วนAz ก็ดูจะยังไม่ใช่ฉบับเต็ม ก็ต้องลุ้นว่ายาส่งมาถึงเดือนหน้า แล้วผลการทดลองจะออกมาทันไหม
ป.ล. เพื่อนผมที่เป็นอาจารย์หมอ ก็ขอรอดูpaperเฟสสามก่อนครับ ไม่กล้าฉีดก่อนโดยไม่ดูผลวิจัยแน่นอน