Wall Street Journal ลงบทความว่าด้วยสถานการณ์ในอุตสาหกรรมการผลิตชิปตอนนี้ ที่กำลังประสบปัญหาซัพพลายไม่เพียงพอต่อดีมานด์ในทุกอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะอิเล็กทรอนิคส์หรือรถยนต์ก็ตาม ส่งผลให้ราคาชิปจะสูงขึ้นและต้องรอสินค้าใหม่นานมากขึ้น
ต้นตอคือดีมานด์ที่เพิ่มมากขึ้น จากทั้งการ work from home ทำให้แล็บท็อปกลับมาเติบโต ฝั่งผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์และคลาวด์ก็ต้องเพิ่มฮาร์ดแวร์เพื่อรองรับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปเหล่านี้ด้วย ไม่รวมการมาถึงของสมาร์ทโฟน 5G
ขณะที่ฝั่งซัพพลาย ผู้ผลิตส่วนใหญ่ก็คงไม่ลงทุนเพียงเพราะเหตุผลเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตในระยะสั้น ซึ่ง Risto Puhakka ประธาน VLSIresearch บริษัทวิเคราะห์อุตสาหกรรมชิปบอกว่า ทั้งอุตสาหกรรมผลิตชิปมีพื้นที่ให้ขยับขยายน้อยมาก ๆ โดย TSMC คาดการณ์ว่าด้วยสถานการณ์ชิปไม่เพียงพอต่อความต้องการเช่นนี้ ก็คาดว่าลูกค้าของบริษัทน่าจะสั่งชิปไปตุนเอาไว้เพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้น TSMC เลยจะลงทุนเพิ่มอีก 47% จากปีที่แล้ว
อุตสาหกรรมรถยนต์เป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก อย่าง Ford ก็พักการผลิตในโรงงานเคนทักกีไปแล้วหรือ GM ก็สั่งซัพพลายเออร์ตุนชิปให้เพียงพอต่อการผลิตทั้งปี ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมก็คาดว่าปัญหานี้น่าจะยังคาราคาซังต่อไปอีกสักพัก ซึ่งก็อาจจะถึงสิ้นปี 2022 เลยทีเดียว
ที่มา - WSJ
Comments
ทั้งพีซี แล็ปท็อป สมาร์ทโฟน คอนโซล คงผลิตไม่ทันจริงๆ
เห็นสื่อบางเจ้าบอก ถ้าคุณไม่ได้ชื่อทิมคุก จะซื้อ 5nm นี่ไม่ได้นะ
ทำไมข่าวการผลิตชิฟไม่ทันมักอ้างแค่ TSMC ไม่ค่อยพูดถึง Samsung เลย
หรือ Samsung ก็ตันแล้วเหมือนกัน??