อิสราเอลปลดมาตรการล็อกดาวน์หลังจากล็อกรอบที่สามตั้งแต่ช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา โดยพื้นที่รวมคนจำนวนมาก เช่น ห้างสรรพสินค้า, โรงแรม, ศาสนสถาน, ยิม, ไปจนถึงการแข่งขันกีฬา กลับมาเปิดอีกครั้ง กระบวนการเปิดเมืองยังมีข้อแม้บางส่วน เช่น บังคับใส่หน้ากากอนามัย และการรักษาระยะห่าง ในกรณีสนามกีฬานั้นมีการจำกัดผู้ชมไม่เกิน 75% ของความจุสถานที่
จำนวนผู้ติด COVID-19 ในอิสราเอลลดลงอย่างต่อเนื่องหลังจากประชาชนจำนวนมากเริ่มได้รับวัคซีน ค่าเฉลี่ย 7 วันย้อนหลังตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 3,000 เคสต่อวันและยังลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมาสูงถึงเฉลี่ย 8,000 เคสต่อวัน
ธุรกิจบางกลุ่ม เช่น ยิม หรือโรงแรม จะขอใบรับรองการฉีดวัคซีน ตัวใบรับรองเป็นแอปให้ประชาชนแสดงหน้าจอเพื่อให้ร้านค้าสแกนก่อนให้เข้าใช้บริการ โดยประชาชนจะสามารถสมัครแอปนี้ได้ต่อเมื่อฉีดวัคซีนเข็มที่สองไปแล้วครบสัปดาห์เท่านั้น
แนวทางนี้มีกำหนดระยะเวลา 6 เดือน และในทางปฏิบัติยังมีรายละเอียดอื่น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่ไม่สามารถรับวัคซีนได้ เช่น เด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี จะเข้าใช้บริการสถานที่ต่างๆ ได้โดยต้องแสดงผลตรวจ COVID-19 ที่ผ่านมาวัคซีนในอิสราเอลมีพอสำหรับผู้ต้องการฉีด และอัตราการฉีดต่อวันเริ่มต่ำกว่าความสามารถในการฉีดของโรงพยาบาลจนภาคเอกชนต้องช่วยกันเร่งให้พนักงานออกไปรับวัคซีน
นอกจากการใช้ใบรับรองในวัคซีนในประเทศแล้ว ตอนนี้ทางการอิสราเอลกำลังทดสอบระบบตรวจสอบใบรับรองนี้กับกรีซและไซปรัส เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางไปยังประเทศเหล่านี้ได้โดยไม่ต้องกักตัว
ที่มา - The Guardian, BBC
ภาพกรุงเยลูซาเล็ม โดย 696188
Comments
อิสราเอล ประชากร 9 ล้านคน ตายเพราะโควิด 5.5พันคน บูชาอย่างกับพระเจ้า
ประเทศไทย ประชากร 67ล้านคน ตายเพราะโควิด 83 คน ต้องเหยียบย่ำเอาให้ตาย
ถ้าทีมหมอ in กะข่าวพวกนี้คงจิตตกพอสมควร
ทีมหมอนี่ผมว่าส่วนมากคนก็ชมกันอยู่แล้วนะครับ
แต่ที่ว่าๆ กันอยู่เนี่ยผมว่าไม่ได้ลงที่ทีมหมอนะ แล้วก็คนละประเด็นกันด้วย
ที่กำลังจะบอกต่อไปนี้ ไม่ได้อยากให้หมอหมดกำลังใจนะครับ
แต่ที่จะบอกคือ ถ้าจะวัดความสามารถใน"การรักษา" น่าจะต้องดูที่ fatality rate ไม่ได้ดูจำนวนคนรึเปล่าครับ ซึ่ง Israel อยู่ที่ 0.7% ส่วนไทย อยู่ที่ 0.3% ซึ่งต่ำกว่า 1% ทั้งคู่ครับ ก็ถือว่าดีทั้งคู่แหละครับ
แต่ทีนี้ อยากให้ดูอัตราการฆ่าตัวตายที่เกิดขึ้นด้วยครับ ซึ่งตัวเลขอย่างเป็นทางการยังไม่ออก แต่ในครึ่งปีแรก 63 มีมากกว่า ครึ่งปีแรก 62 ถึง 22% ครับ
ยังไม่รวมปัญหาทางสังคมที่จะเกิดขึ้นจากลูกหลานผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งต้องย้าย รร. กลางคัน ซึ่งอันนี้ indicator อาจจะยากนิดนึง แต่คนรอบตัวผมเกิดสิ่งเหล่านี้กันเยอะครับ ก็ไม่รู้ว่าจะมีปัญหาต่อไปในอนาคตกับจิตใจของเด็ก หรือ คุณภาพของประชากรรึเปล่าครับ
สุดท้าย อย่างที่บอกครับ ผมให้เกียรติทีมหมอเสมอครับ แต่อยากเสนอให้เห็นในมุมอื่นดูครับ
เรื่องการแพทย์ก็เรื่องนึงเรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจก็อีกเรื่องนะครับ แต่ทั้งสองเรื่องอยู่ในการจัดการโรคระบาดเหมือนกัน ต้องดูผลสองอย่างควบคู่กันไป คนไม่ตายเลยแต่ ศก.พังคนอดตายคุณภาพชีวิตตกต่ำมากกว่าคนตายจากโรคก็ถือว่าล้มเหลว ถ้านับแค่เรื่องคนตาย พวกคนตายจากโรคทั่วไปกับอุบัติเหตุตายเยอะกว่าหลายเท่าหรือเอาแค่ตายจากโรคพวกโรคไข้เลือดออกก็ทำคนไทยตายมากกว่าโควิดมหาศาล ผลจากโควิดมันส่งผลต่อ เศรษฐกิจมากกว่าจำนวนคนตายเยอะมากๆ นะครับ ยังไม่นับผลจากหนี้สินสาธารณะที่มาจากการกู้มาจัดการอีกว่าเป็นยังไงฟื้นฟูสภาพได้ดีพอกับที่กู้มารึเปล่า
อะไรในข่าวนี้ไป trigger ใจหรอครับ?
ขนาดในข่าวไม่ได้เอ่ยถึงหรือเปรียบเทียบอะไรกับประเทศไทยเลยนะครับ
ท่าทางจะอาการหนักแล้วนะครับ
ใช่ๆ ทีมหมอจิตตกมาก ตอนที่รัฐมนตรีสาธารณสุขออกมาบอกว่าจะหวดหมอให้หนัก และไปคอมเมนต์ด่าหมอ รพ พะเยา ว่าเป็นหมาที่ไม่เข้าใจคน
ถ้าทีมแพทย์ไทยไม่เห็นด้วย เขาคงพากันนัดหยุดงานไม่รับคนไข้เพิ่มเหมือนพม่าแล้วครับ
จุ๊ๆ อย่าบอกนะว่า "ก็แพทย์ไทยมีจรรยาบรรณ"
เพราะมันจะกลายเป็นด่าแพทย์พม่า
แพทย์พม่าเค้า strike เรื่องโควิดเหรอครับ
ไม่น่าจะเอามาเทียบกันครับ
แพทย์พม่า strike เรื่อง ทหารเข้าทำรัฐประหาร
อ้าว งั้น แพทย์ไทย ทำไม ไม่ strike ในเมื่อใครๆ ก็บอก รัฐบาลประยุทธ์ มาจากรัฐประหาร -คสช.
แพทย์พม่า strike เรื่อง ทหารทำร้ายประชาชน
อ้าว งั้น แพทย์ไทย ทำไม ไม่ strike ในเมื่อ กรรมการสิทธิมนุษยชน - ก้าวไกล - ม็อบ ต่างกรีดร้องอย่างโหยหวน เมื่อตำรวจฉีดน้ำผสมแก๊สน้ำตา
แพทย์พม่า strike เรื่อง ทหารเข้ายึดพรรค NLD ของ ออง ซาน
อ้าว งั้น แพทย์ไทย ทำไม ไม่ strike ในเมื่อใครๆ ต่างก็บอก รัฐบาลประยุทธ์ กลั่นแกล้งยุบพรรคอนาคตใหม่ ของ ธนาธร
"ใช่ๆ ทีมหมอจิตตกมาก ตอนที่รัฐมนตรีสาธารณสุขออกมาบอกว่าจะหวดหมอให้หนัก และไปคอมเมนต์ด่าหมอ รพ พะเยา ว่าเป็นหมาที่ไม่เข้าใจคน" คุณถามว่า ทำไมไม่ Strike เรื่องนี้ไม่ใช่เหรอครับ?
ไม่โยงไปมั่วสิครับ เอาปมมามัดตรึงกันหมด มันก็แก้ไม่ได้ซักทีสิครับ
หืมมมม ที่เค้าชมกันคือ ความรวดเร็วเด็ดขาดในการบริหารจัดการค่ะ
ก็ไม่อยากจะด่าประเทศตัวเองนักหรอกค่ะ แต่ก็อย่างที่เห็น ช้า อืดอาด ไม่มีความชัดเจนเรื่องฉีดวัคซีนซักที
เขาชืนชมเรื่องการบริหารจัดการที่รวดเร็วครับ ไม่เกี่ยวกับเรื่องการรักษาเลย
ที่เมืองไทยทืี่ด่ากันคือจัดหาวัคซีนช้ามากก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆก็ตามม
+1 จริง ถ้าบริหารจัดการได้จะรีบฉีดแบบหน้ามืดทำไม ผมไม่เห็นด้วยแบบประเภท ฉีดเร็วเข้าว่าเพราะไม่อยากน้อยหน้าใคร บางคนก็นั่งเสพข่าวแต่ประเทศนั้นฉีด ประเทศนี้ฉีด แล้วมานั่งนอย นั่งด่าทำไมไม่รู้ (24 นี้ได้วัคซีนแล้ว)
+1 เช่นกันครับ
ประมาณว่า พอมีงานวิจัยว่า ผู้ชายก็ติดเชื้อ HPV (มะเร็งปากมดลูก)ได้ ก็ไปไล่จับผู้ชายทุกคนในประเทศมาฉีดวัคซีนต้าน HPV
พอมีคนไม่อยากฉีดก็ออกกฎบังคับขั้นร้ายแรง
สาเหตุที่ทำเช่นนี้ เพราะประเทศตัวเอง ไม่มีความชำนาญในการรักษามะเร็ง
ปล.อิสราเอล ถนัดในการทำลายชีวิตโดยผลิตอาวุธอานุภาพสูง
แต่ไม่ถนัดในการรักษาขีวิตคน
ตรง ปล. นี่คิดเอาเองหรือมีหลักฐานน่ะครับ
+1
-1 แล้วกันครับ เพราะที่บอกว่าคุมสถานการณ์ได้ตอนนี้คือคุมแบบทุกคนธุรกิจไม่สามารถทำตัวแบบปกติได้ครับ จะมีเวฟ3 เวฟ4เกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ไม่รู้และส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมแน่ๆ ดังนั้นควรรีบฉีดให้มีภูมิคุ้มกันครับ อย่างน้อยๆถ้าเปิดประเทศไม่ได้ กิจกรรมในประเทศก็สามารถดำเนินต่อไปได้โดยที่ไม่ต้องหวาดกลัวกันเท่าตอนนี้ครับ
ควมคุมได้ก็เลิก lock down สิครับ
I need healing.
ถ้าดูแค่ตัวเลขผู้ป่วยกับผู้เสียชีวิตจะบอกว่าบริหารจัดการได้ก็ใช่ครับ แต่ถ้าเรื่องเศรษฐกิจนี่ไม่ได้แน่นอน
โรคนี้ท่องเที่ยวโดนหนักที่สุดและประเทศเราก็มีรายได้จากการท่องเที่ยวเยอะไม่นับรวมว่ามีธุรกิจอีกหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนี้เช่นผลิต/จำหน่า่ยของฝาก
หากเราสามารถฉีดวัคซีนได้เร็วก็จะสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวได้ ยกตัวอย่างว่าถ้าสัก 50-60% ของคนในประเทศได้รับวัคซีนแล้วเราสามารถเปิดให้ใครก็ได้เข้าประเทศโดยแบบไม่ต้องกักตัวโดยไม่ต้องสนใจว่าฉีดหรือยังไม่ฉีดวัคซีนเพราะยังไงคนในประเทศก็ปลอดภัย คิดภาพนะครับถ้าเป็นประเทศแรกๆที่ฉีดวัคซีนได้เร็วจะมีคนแห่มาเที่ยวมากแค่ไหน T_T
เกี่ยวอะไรกับทีมหมออ่ะครับ แล้วที่เค้าด่าๆกันนี่เค้าด่ารมต.สธ.ซะเยอะนะครับ ซึ่งเค้าไม่ใช่หมอ แถมตัวเค้าเองยังด่าหมออยู่ด้วย
หรือการด่ารมต.สธ. เท่ากับการด่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั้งหมด ตรรกะเดียวกับด่านายกที่เป็นทหารของพระราชา เท่ากับหมื่นเบื้องสูง?
เป็นตัวอย่างที่ดีว่า การระดมกระจายฉีดวัคซีนจนมั่นใจระดับหนึ่ง สามารถทำให้กลับมาเปิดกว้างทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจได้มากขึ้น
บอกแล้วขั้นต่อไป ทุกประเทศรอ วัคซีนพาสปอร์ต ใครช้าก็ตกรถ ล้าหลัง เปิดประเทศ(แบบจำกัด)ช้ากว่า เศรษฐกิจก็ฟื้นช้ากว่า ไม่มีโรคแต่ก็ลำบากจนอดตาย ฆ่าตัวตายแทน ไม่ได้ดีกว่ากันสักเท่าไร ยังไม่นับว่ายังต้องพารานอยด์ กลัวติดโรค เพราะไม่มีใครได้ฉีดวัคซีนกันสักทีไปเรื่อยๆ ป้องกันได้ แต่วิตกกังวลมันก็ลำบากในการใช้ชีวิตครับ
ป.ล.ชอบอ้างหมอกันจัง หมอก็มีหลายคน หมอหน้างานหลายคนบ่นนโยบายส่วนกลางกันเพียบ
เหมือนพอเราด่าทหารเรื่องรัฐประหาร เผด็จการแล้วเค้าบอกว่าลืมไปแล้วหรอว่าใครช่วยน้ำท่วมน่ะครับ ตรรกะเดียวกัน
มีประชากร 9ล้าน ขนาดปิดกันขนาดนียังติดกัน7แสน ถ้าสายพันธ์ใหม่หลุดเข้าไปจะหนักขนาดใหน
เดี๋ยวรอลุ้นเลยว่าสายพันธ์แอฟริกาจะราดบาดเข้ามาใหม วักซีนเจ้าหนึ่งเอาไม่อยู่จนโดนส่งคืน ต้องช่วยกันขอพรว่าจะอย่าให้ระบาดจนมาแทนที่สายพันธ์เดิม
มันก็ต้องพัฒนาวัคซีนกันไปเรื่อยๆ ไม่ใช่อ้างว่ากลัวรักษาอีกชนิดไม่ได้ เลยไม่ฉีดมันซะเลย แล้วปิดประเทศอยู่บ้านกันต่อไป แถมมันก็ยังไม่ได้ระบาดในที่นั่นสักหน่อย
ที่ว่าส่งคืน ก็เพราะในแอฟริกาใต้ นั่นแหละที่มีสายพันธุ์ใหม่และส่งคืนแอสตร้าฯ ที่ไทยจะใช้เป็นหลักเสียด้วย
แอฟริกาใต้ ระงับฉีดวัคซีน ‘แอสตร้าเซนเนก้า’ หลังพบประสิทธิภาพลดกับไวรัสกลายพันธุ์
https://www.matichon.co.th/foreign/news_2567570
ของบ้านเราเองก็เจอแล้วนะสายพันธุ์แอฟริกา เป็นคนไทยกลับจากแทนซาเนีย แต่ว่ายังอยู่ในSQ หวังว่าจะไม่แพร่กระจายออกมา
มีบรรทัดใหนว่าห้ามไม่ให้ฉีด ส่วนบ้านเราจากข่าววันที่24นี้ก็เข้ามา เป็นอีกเจ้าหนึ่งถ้าจำไม่ผิด ส่วน แอสตร้าเซนเนก้า หมอเค้าก็แถลงไปหลายรอบว่าเป็นเพราะหลายๆเหตผลโดยเหตผลหลักคือกฎหมายการสั่งซื้อ ส่วนอนาคตถ้าวักซีนออกมาเพียงพอก็เลือกได้ตามที่หมอพูดเพราะ แอสตร้าเซนเนก้า เป็นตัวเลือกเดียวที่เป็นไปได้สำหรับเราในตอนนั้น https://www.youtube.com/watch?v=KOvKtE8n8lk&ab_channel=ThaiPBS
ส่วนถึงฉีดแล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะมีภูมอยู่กี่เดือนกี่วัน คนไม่ฉีดก็ย่อมมี ผลวิจัยผลกระทบระยะยาวก็ยังไม่มี อแฟริกายังไม่เคยระบาดในไทยแล้วยังไม่เห็นข่าวว่ามีวักซีนใหนที่ป้องกันได้ สุดท้ายก็ต้องอยู่กับมันไปอีกนาน ดูหลายๆประเทศเป็นตัวอย่าง ถึงฉีดแล้วก็ยังมีโอกาศติดอยู่ดี ก่อนหน้านี้มีแต่คนเก่งกว่าหมออ้างต่างประเทศให้ทำหลายๆอย่างสุดท้ายประเทศที่อ้างเสียชีวิตไปกี่ชีวิต
ตอนนี้หมอก็ออกมาพูดแล้วถึงฉีดก็ต้องยังป้องกันเหมือนเดิม
จะรอผลวิจัยระยะยาว? รู้ไหมครับเค้าทำกันกี่ปี? แล้วไอ้ที่จะได้มาฉีดวันพฤหัสนี้ เฟสสามก็ยังไม่เสร็จเลยนะครับ ทำไมอันนี้ได้ อันนั้นไม่ได้ อันไหนคือมาตรฐานครับ หรือไม่มีอยู่แล้ว?
เพราะมันไม่มีไงครับ แต่ละประเทศถึงมีแนวทางบริหารต่างกัน เลยมีผลการเสียชีวิตต่างกัน บ้านเราเลือกเชื่อหมอก็เลยเป็นแบบนี้ บ้านเค้าไม่มีทางเลือกมากเพราะระบาดมากไม่แปลกใจที่ต้องรีบฉีด ถึงแม้จะฉีดแล้วในข่าวนี้ก็ยังปิดประเทศอยู่ดี และบางบริการก็ยังกักกันอยู่
ถ้าเกิดว่าคนฉีด สุดท้ายแล้วเกิดผลกระทบร้ายแรงใครจะรับผิดชอบ ถึงฉีดก่อนก็ต้องปิดประเทศและระวังตัวเหมือนเดิมและก็เป็นอย่างที่หมอพูดในลิ้งยูทูปที่แปะให้ว่าเป็นตลาดของผู้ขายเลือกที่จะซื้อไม่ได้
ผมว่าอันนี้ที่เป็นประเด็นขึ้นมาคือ แล้วทำไมถึงมั่นใจในตัวที่สั่งมาว่าความเสี่ยงของ Astra กับ Sinovac จะต่ำกว่าน่ะครับ
คือผมโอเคนะกับการที่บอกว่าไม่ต้องรีบฉีดขนาดนั้นเพราะอัตราแพร่กระจายต่ำ ถ้าเค้าตกลงว่าจะเลือกเสี่ยงยอมให้อยู่สภาพนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อแลกกับอะไรบางอย่าง แต่คือยิ่งเจอ Sinovac (ที่อาจจะดีกว่าจริงก็ได้) แต่ไม่มีผลเฟสสามอย่างเป็นทางการก็เลยงงๆ ว่าทำไมอะไรแบบนั้นมากกว่า
ท่าทางคุณจะไม่เข้าใจ point นะครับ
เอางี้ไหมครับ? ตอนนี้คุณอายุเท่าไหร่ครับ กินยาโรคประจำตัวอะไรอยู่บ้าง หรือพ่อแม่พี่น้องคุณก็ได้ครับ
ลองไปหยิบมาซักของใครคนใดคนหนึ่งแล้วไล่เช็คดูครับว่าตัวไหนไม่มี Serious ADR บ้างนะครับ
เจ้าที่ส่งคืน ก็ตามข่าวที่ผมลงไงครับ มีตัวอื่นอีกหรือ?
ตอนนี้ mRNA ดูจะตอบสนองต่อการกลายพันธุ์ได้ดีมากกว่าแบบเชื้อตายแบบเก่า แต่ยังไงมันก็ต้องพัฒนาตัวใหม่มาเรื่อยๆ ไม่ต่างจากวัคซีนไข้หวัดใหญ่
ส่วนเรื่องฉีดแล้วยังป้องกัน ถ้ามันเกิด herd immunity จากวัคซีนแล้ว ความรุนแรงในการระบาดมันก็ลดลงอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีระบาดเหมือนไข้หวัดใหญ่นั่นแหละ แต่มันก็ทำให้เศรษฐกิจสังคมเดินต่อไปได้ ยังไงก็ดีกว่าไม่ฉีดเลยแน่นอน
อ้อกฎหมายการสั่งซื้อเขาแก้กฎหมายแล้วนะครับ เราจองซื้อแอสตร้าหลังแก้กฎหมายนี่แหละ
อ้างอิง http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/239/T_0017.PDF
แต่เราไม่ยอมกระจายความเสี่ยงเองมากกว่า อย่างcovax ก็มาปล่อยข่าวปลอมว่า เสียเงินจองฟรีๆ ซึ่งมันไม่จริง และในอีกแง่ตอนสั่งซื้อแอสตร้าฯและสนับสนุนเงินหกร้อยล้าน ก็มีเงื่อนไขว่าอาจไม่ได้รับวัคซีน ถ้าไม่สำเร็จเช่นกัน
อย่าง J&Jมาเสนอขายราคาทุนให้กับรบ.แต่ได้ของใน 3-6เดือน อนุทินก็ยังไม่เอาเลยครับ ไม่ใช่ไม่มีตัวเลือก แต่ไม่ยอมเลือกเจ้าอื่นเองมากกว่า?
ป.ล. sinovac นี่ผลการทดลองเฟสสามอย่างเป็นทางการยังไม่ออกเลยนะครับ ต้องบอกว่าเราร่วมเป็นผู้ทดลองด้วยซ้ำ ในขณะที่ไฟเซอร์ moderna,J&J(ที่อนุทินเพิ่งปฎิเสธไปหมาดๆ) เขาผ่านเฟสสามแม้จะเป็นแบบfast track แต่ก็ยังมีผลการทดลอง แถมpaperล่าสุด วิจัยจากการฉีดไปเกือบสิบล้านโดส พบside effectที่เกี่ยวข้องกับวัคซีนจริงๆน้อยสุดๆ)
ป.ล.2 ประเทศที่บริหารจัดการได้ดีกว่าไทย เช่นนิวซีแลนด์ ไต้หวันฯ เขาก็เร่งจัดหาวัคซีนนะ ไม่ได้ให้คนของรัฐมาปลอบใจตัวเองว่า ไม่จำเป็นต้องฉีด จะได้ไม่ต้องเจ็บตัว :P
ป.ล.3 ผมย้ำไปแล้วว่าหมอก็มีหลายคนครับ ความคิดเห็นแต่ละคนก็อาจจะไม่ได้ตรงกัน บางคนก็อาจจะไม่ได้มีโอกาสที่รัฐให้ออกมาพูดดังๆ เราเลยต้องพยายามคุยบนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ ที่เรามักอ้างอิงจากงานวิจัยต่างๆครับ ไม่ใช่เถียงว่าไม่เชื่อหมอ หรือเก่งกว่าหมอเหรอ?
กฎหมายการสั่งซื้อเขาแก้กฎหมายแล้ว? งง ประกาศจากกระทรวงว่าจัดหาวักซีน คือการแก้กฎหมายหรือ? แก้มาตราใหนครับ เท่าที่อ่านคือใช้อำนาจในมาตราข้อหนึ่งเพื่อให้มีการร่วมมือการวิจัยและซื้อ และเท่าที่หาข้อมูลมีการร่วมมือมานานเพื่อให้ผ่านมาตรฐานเป็นฐานการผลิต เท่าที่เดาคือถ้าผลออกมาไม่ดีก็สามารถเลี่ยงทางกฎหมายได้ไม่เหมือนสั่งซื้อธรรมดาที่ไม่มีการวิจัยร่วม ถ้าซื้อไม่มีของมาก็โดนคุกเหมือนเดิม
ส่วนเรื่องวักซีน อนุทินยังไงก็ต้องหาให้ได้อยู่แล้ว และก็ทำตามหมอถ้าไม่ทำตามแต่แรกก็คงเสียชีวิตแบบ UK ที่หลายๆคนที่ตอนแรกเก่งกว่าหมอออกมาพูดกันมากมาย
ประเทศนิวซีแลนด์ ไต้หวันฯ เขาฉีดครบ? เปิดประเทศแล้วหรือ ก็รอดูว่าแนวทางของเขาเป็นยังไงเราจะได้เดินตามถ้าดี แต่ถ้าไม่ดีเราก็ไม่ต้องเอาเป็นแบบอย่าง แล้วประเทศไต้หวันนี่ปิดประเทศเป็นประเทศแรกๆและเข้มงวดกว่าบ้านเรามากและไม่คิดว่าฉีดหมดแล้วจะเปิดประเทศแบบที่บอก
ประเทศที่บริหารได้ดีกว่าไทยจัดหา ถ้าเขามีกมแบบเราใครจะกล้าสั่งซื้อก่อน ใครกล้าเซ็นเสี่ยงติดคุก ถึงตอนนี้สั่งก่อนแล้วไม่ได้ของก็เป็นข่างในยุโรปอยู่ตอนนี้ คนสั่งก็ต้องรับผิดชอบถ้าไม่ได้ของขึ้นมา กฎหมายการจัดซื้อยังไม่มีข่าวใหนว่าแก้ ที่คุณแปะมามันแค่ประกาศจัดหาร่วมวิจัย
ส่วนหมอก็มีหลายคนแต่คนที่มีอำนาจวางแผนในการรับมือโควิดของประเทศ จนมีผลออกมาแบบนี้ และคนที่มีอำนาจก็ออกมาพูดเองอย่างในคริปที่ให้ดู
ถ้าเดาความคิดของทีมจัดการโควิด มันเป็นเรื่องของเวลารีบไปก็ปิดประเทศต่ออยู่ดี ผลค่างเคียงก็ยังไม่รู้ ถ้าเกิดฉีดไปหนึ่งปีผ่านไปผลวิจัยบอกว่าผลกระทบสูงไม่คุ้ม รอเวลาที่เหมาสมดีกว่า ติดเยอะก็ค่อยรีบฉีด วักซีนก็มีผลในระยะหนึ่ง ต่อไปเทคโนโลยีพัฒนาตรวจหาง่ายรักษาอาการได้ง่าย ลดผลกระทบปอดได้สูง ต่อไปก็เหมือนไข้หวัดใหญ่จะฉีดก็ได้ไม่ฉีดก็ได้ รักษาง่ายด้วยเทคโนโลยีและยาที่พัฒนาตามกาลเวลา
สรุปคือเป็น Antivaxxer หรือเปล่าครับ
I need healing.
เรื่องเงื่อนไขการจองซื้อ ที่ชอบอ้างกันว่า ไม่สามารถจองซื้อได้ เขาก็ใช้อำนาจครม.ออกประกาศตัวนี้ในภาวะฉุกเฉินในพรบ. เพื่ออนุญาตให้จองซื้อล่วงหน้า แม้ว่าอาจจะไม่ได้ผลไงหรือเสียเงินเปล่าครับ เขาใช้เพื่อซื้อแอสตร้าฯ โดยตรงนี่แหละ ซึ่งจริงๆต้องบอกว่าเขียนเงื่อนไขเจาะจงแต่แอสตร้าฯ โดยตรงก็ว่าได้ แต่ก็ไม่ได้ปิดโอกาสหากจะซื้อจากเจ้าอื่น(ก็ประกาศเพิ่มเติมเอาสิ อย่าอ้างว่าทำไม่ได้ล่ะ)
อ้างอิง เบื้องหลังการแก้กฎหมายฝีมือวิษณุเจ้าเก่า
"กว่าจะสร้างกลไกการจองวัคซีนอย่างมีความเสี่ยงอย่างนี้ได้ ผมปรึกษาสิบทิศ ทุกท่านบอกว่า กลไกการจัดซื้อจัดจ้างในพระราชบัญญัติปกติทำไม่ได้ ผมจึงขอความช่วยเหลือจากรองนายกฯ วิษณุ เครืองาม ขอทีมกฎหมายของท่านมาช่วยหาทางออก ปรึกษาหารือกันแล้วท่านบอกว่า ใช้ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ใส่อำนาจตามพระราชบัญญัติความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ ตามมาตรา 18 มีอยู่วรรคเดียวคือ ‘ให้อำนาจคณะรัฐมนตรีประกาศในภาวะฉุกเฉิน โดยความเห็นชอบของสถาบันวัคซีนแห่งชาติในเรื่องการจัดหาวัคซีน’ แล้วไปออกประกาศในเนื้อประกาศเอง”
https://www.prachachat.net/d-life/news-608140
จริงๆในเงื่อนไขที่ระบุในประกาศ ก็ดูไม่ใช่การวิจัยพัฒนาร่วมกันด้วย เพราะไม่ได้มีส่วนร่วมในการทำงานวิจัยสักหน่อย เหมือนรับจ้างผลิตโดยรับถ่ายทอดเทคโนโลยีมากกว่า(ถ้าเป็นบราซิล ตุรกี อันนั้นเขาวิจัยร่วมในเฟสสามจริงๆครับ)แต่คงไม่มีใครไปเรียกร้องให้ตีความตามตัวอักษร
อ้อในเงื่อนไขประกาศเขียนชัดเจนครับ "ซึ่งมีโอกาสที่จะได้รับวัคซีนหรือไม่ได้รับวัคซีนดังกล่าว"
เรื่องหาให้ได้ ก็เห็นพูดแต่ปากมา ตอนแรกบอกจะได้แอสตร้าฯ มาก่อนเดือนก.พ. สุดท้ายก็เงียบ
คนเก่งกว่าหมอ? ผมไม่รู้หรอกว่าใครเก่งกว่าใคร แต่ผมพูดเสมอว่าหมอก็มีopinionแตกต่างกัน เราต้องคุยกันด้วยหลักฐานหรือการวิจัยที่แข็งแรงพอจะยืนยันความเห็น ผมว่าคุณใช้ความเชื่อมากเกินไปนะ เพื่อนหมอผมจะใช้ยาฆ่าเชื้อยังต้องเปิดงานวิจัยว่าทดลองยังไง ต้องใช้ปริมาณเท่าไรกี่วินาที ไม่ใช่ซื้อตามๆกันโดยไม่สงสัยเพียงเพราะคนดังแนะนำเฉยๆ หรือคุณจะบอกว่าให้เชื่อหมอที่รบ.ทหารรับรองเท่านั้นหรือครับ? บอกว่าหมอคนอื่นไม่มีอำนาจเอง เลยไม่สนใจรับฟัง?
ประเทศอื่นเขาเริ่มฉีดไปแล้วครับ ยังฉีดไม่ครบ แต่หลายๆประเทศเขามีแผนจัดซื้อวัคซีนมากกว่าจำนวนประชากร ในขณะที่บ้านเรา อนุมัติมาแล้วแค่ 10-20%ของประชากร ที่เหลือแม้แต่ครม.ยังไม่อนุมัติเงินเลย ที่จัดซื้อแล้วแน่ๆ มีแค่ 26ล้านโดสนะ อีก30กว่าล้านโดสเขายังไม่เซ็นตอบรับมาเลย
อย่าอ้างกฎหมายเลยครับ ที่ประกาศมาก็แก้ไขเพื่อให้ซื้อแอสตร้าฯได้ แสดงว่ามันแก้ได้หมด นอกจากไม่อยากจะแก้เพื่อล็อคสเปค?
คุณนี่ไม่รู้จักtravel bubbleหรือครับ เขาเปิดเดินทางเฉพาะประเทศที่ผ่านเงื่อนไขก็ได้ ไม่เกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้านหรอก(ไม่ต้องไปเหน็บเขา เพื่อนบ้านเราบางประเทศเริ่มฉีดก่อนเราไปแล้ว)เราอยากทำตั้งนานแล้ว พอดีเจอระบาดรอบสองก่อนนี่แหละ
วัคซีนมีผลระยะหนึ่ง แต่ช่วยเปิดโอกาสให้ประเทศเดินหน้าต่อได้ไงครับ นี่ขนาดยังไม่มีวัคซีนก็เปิดรับนักท่องเที่ยวมาภูเก็ต โดยให้สิทธิพิเศษเที่ยวในรีสอร์ทได้ ในขณะที่คนไทยทั่วไป ห้ามออกจากห้อง 14วันนี่ไง
ผมไม่ได้ขวางแอสตร้าฯนะ เห็นด้วย แต่อยากให้กระจายความเสี่ยง ประเด็นนี้แหละสำคัญ ที่หลายคนดื้อไม่ยอมเข้าใจสักที
แต่งงที่คุณเหมือนไม่อยากให้ฉีดวัคซีนเร็วๆนี่แหละ แปลกใจจริงๆ คุณอาจจะโชคดี ไม่อยู่ในภาวะเสี่ยง ไม่มีญาติผู้ใหญ่ที่เสี่ยง หรือคิดว่ามีรายได้มั่นคง นอนอยู่บ้านเฉยๆสั่งข้าวทางแกรบฯเอาได้ไม่ต้องออกไปเสี่ยง ก็โชคดีของคุณ แต่คนจำนวนมากต้องทำงาน ต้องเผชิญภาวะเสี่ยง การฉีดวัคซีนไวๆช่วยเพิ่มสวัสดิภาพในการใช้ชีวิตอีกมากครับ
อย่าบอกว่าให้ใส่หน้ากากล้างมือ มันก็ทำอยู่แล้วเป็นพื้นฐาน แต่ไม่เห็นข่าวหรือครับ แม้แต่หมอยังติด มันไม่ใช่ว่าป้องกันได้100% ถ้าเรามีวิธีลดความเสี่ยงมากขึ้นก็ยิ่งดีกว่า มองโลกกว้างๆครับ
เถียงกันใหญ่ อนาคตประเทศเราก็คงเหมือนฟิลิปปินส์แหล่ะมั้งเนี่ย
อันนี้ยืนยันรึยังครับว่าที่ติดเชื้อลดลงเพราะฉีดวัคซีน ไม่ใช่เพราะ herd immunity
เป้าหมายวัคซีนเขาก็ต้องการให้เกิด herd immunity นั่นแหละครับ มันลดเพราะคนฉีดวัคซีนกระจายไปอยู่ในกลุ่มประชากรเพิ่มจนเกิด herd immunity ทำให้อัตราติดเชื้อลดลง
สรุปคือ ติดน้อยลงเพราะ herd immunity แต่ตัวที่ผลักดันให้เกิด herd immunity ก็คือวัคซีน
จุดประสงค์นึงของการฉีดวัคซีนก็เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่อยู่แล้วนิครับ
ความหมายของผมก็คือ รู้ได้ไงว่า herd immunity ที่เกิดขึ้นเนี่ยเป็นผลจากวัคซีน ไม่ใช่ว่าจำนวนประชากรมันติดมากจนเกิด herd immunity เองอยู่แล้วอะครับ
อิสราเอลประชากร 9 ล้านคน มียอดติดโควิด 750,000 คน ฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็มไปแล้ว 4,250,000 คน
ก็ คงต้องเก็บประวัติไปสักพักแหละครับ...มีดราม่าเรื่องซื้อขายประวัติกันแถวๆนี้ด้วย
สถานศาสนา => ศาสนสถาน
กระบวนการการเปิดเมือง => กระบวนการเปิดเมือง
ปฎิบัติ => ปฏิบัติ
อัตราการการฉีด => อัตราการฉีด
ประเทศไทยคุมโควิดอยู่ไม่ต้องรีบฉีดวัคซีน แต่รัฐบาลรีบกุลีกุจอไปหาวัคซีนเพื่อที่จะได้ฉีดวันวาเลนไทน์ ที่สุดท้ายก็ไม่ทัน ยี่ห้อหนึ่งคือซิโนแวคที่ราคาเกือบจะเท่าของไฟเซอร์ อีกยี่ห้อคือแอสตร้าล็อตจากอิตาลี ที่เงียบหายไปเลยไม่รู้ไทยจ่ายเงินไปหรือยัง ไม่เห็นทวงของเลย ยังไม่รวมว่า สส เพื่อไทย ออกมากล่าวหาว่า นายกฯ และคณะ ไปแอบฉีดวัคซีนกันแล้ว ก็ไม่เห็นกลุ่ม สส องครักษ์พิทักษ์ลุงตู่ จะยกมือประท้วง ทั้งๆที่ประเด็นอื่นประท้วงแล้วประท้วงอีก นี่คือไทยไม่รีบเลยจริงๆ!!!
อิสราเอลทำงานไวตั้งแต่ใน World War Z แล้วครับ ทำให้สร้างกำแพงกันซอมบี้ได้ก่อนใครเพื่อน
แสดงว่าเราขาด "คนที่ 10" เหรอครับ
ประเทศรวยๆ ใช้เงินลัดคิวซื้อวัคซีน
หนอนอวบๆ น่ากิน