เศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯไม่น้อย ทำให้จีนต้องลุกขึ้นมาพึ่งพิงตัวเองโดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี ล่าสุด Wall Street Journal รายงานว่ารัฐบาลจีนประชุมประจำปี ร่างแผนการใหญ่ 5 ปี ตั้งเป้าเป็นผู้นำเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาชาติและความมั่นคงโดยรวม เตรียมสร้างแล็บและลงทุนงานวิจัย AI, ผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์, ควอนตัมคอมพิวติ้ง
โดยในร่างพิมพ์เขียวแผนการ ระบุว่าจะเพิ่มเม็ดเงินลงทุนพัฒนาการวิจัยกว่า 7% ทุกปี ติดต่อกัน 5 ปี ไปจนถึงปี 2025 นายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียง กล่าวว่า จีนจะแก้ไขกฎระเบียบและนโยบายเพื่อสนับสนุนการไหลเวียนของเงินร่วมลงทุนในสตาร์ทอัพเกิดใหม่ ปล่อยกู้เงินง่ายขึ้น และเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาต่อไป
นอกจากปัญหาชิปขาดตลาดซึ่งกระทบอุตสาหกรรมไอทีทั่วโลกแล้ว สหรัฐฯภายใต้รัฐบาล โจ ไบเดน ที่แม้จะไม่มีท่าทีแข็งกร้าวต่อจีนเท่าโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ก็ยังคงแนวทางส่งเสริมการผลิตในประเทศ ทั้งรถ EV และการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์
ภาพจาก enriquelopezgarre from Pixabay
Comments
ตั้งเป้าเป็นผู้นำเทคโนโลยี
ก่อนหน้านั้นช่วย 1 ไม่ส่งข้อมูลกลับจีน 2 เลิก copy by inspration ซะก่อน
ปัจจุบันลอกมาเยอะจนเหมือนเริ่มต่อยอดเองได้แล้วนะครับ 555555555
ก็อปปี้ แล้ว ก็ต่อยอด หลายๆอย่างตอนี้ก็ดีอยุ่นะ ห้าจีก็มี
รอลอกอเมริกาเหมือนเดิมแหละทรงนี้
ไม่ทำ os เหรอ
(ไม่ชัวร์นะครับ) เหมือนจีนจะมี OSแห่งชาติ ใช้งานในหน่วยราชการ อยู่แล้วหรือป่าวครับ
เหมือนเคยเห็นในข่าวเก่าๆ สมัย Win XP จะเลิกอัพเดท
Know how เทคโนโลยีชั้นสูงแบบนี้ มันไม่ง่ายเลย
เงินน่ะมีอยู่แล้ว แต่ต่อให้ทุ่มทุนวิจัยแค่ไหน กว่าจะตามทันมันยากๆ
คงลอกเขาอย่างเคยแหละ
รวมถึงรีเวิร์ส เอนจิเนียร์ ด้วย เช่น ซื้อเครื่องดำน้ำรัสเซีย
มาแกะ ทำใหม่ ขายให้พวกที่อยากได้ส่วนต่างเงินทอน