หลังจากแอปเปิลเปิดตัว AirTag ไปเมื่อวานนี้ ประเด็นหนึ่งที่ถูกพูดถึงในงานคือการป้องกันการนำ AirTag ไปติดตามตัวคนอื่นโดยไม่ได้รับความยินยอม เช่น นำไปวางใส่กระเป๋า หรือไปวางใส่รถ ทำให้เจ้าของแท็กสามารถติดตามตัวเหยื่อผ่านแอป Find My ได้ต่อเนื่องโดยอาศัยเครือข่าย Find My ที่เป็นอุปกรณ์ iOS จำนวนมาก
แอปเปิลแยกแนวทาง 2 แนวทาง คือ
- เตือนผ่านอุปกรณ์ iOS (iPad, iPhone, และ iPod Touch) ของเหยื่อที่อาจจะถูกติดตามตัวเอง โดยเมื่ออุปกรณ์ iOS พบ AirTag ของผู้อื่นเป็นเวลานาน จะขึ้นแจ้งเตือนว่า พบ AirTag อยู่ใกล้ ผู้ใช้สามารถสั่งให้ AirTag ที่อยู่ใกล้ตัวส่งเสียง และอ่านหมายเลขซีเรียลของ AirTag ได้ผ่าน NFC
- เตือนด้วยเสียง ในกรณีที่เหยื่ออาจจะไม่ได้ใช้ iOS ตัว AirTag เองจะร้องเตือนอัตโนมัติ เมื่ออยู่ห่างจากเจ้าของช่วงเวลาหนึ่ง (แอปเปิลไม่ระบุว่านานเท่าใด) จะร้องขึ้นมาเอง ผู้ใช้โทรศัพท์มี NFC แม้จะเป็นแอนดรอยด์ก็อ่านหมายเลขซีเรียลได้เช่นกัน
ตัว AirTag นั้นประกาศหมายเลขประจำตัวชั่วคราวออกมาผ่าน Bluetooth LE ตามโปรโตคอล Find My โดยหมายเลขนี้จะเปลี่ยนไปทุกวัน ทำให้แม้แต่ตัว iOS เองก็ไม่รู้ว่า AirTag ที่พบว่าติดตัวเราอยู่นั้นอยู่กับเรามากี่วันแล้ว ทำได้เพียงการตรวจหมายเลขซีเรียลจาก NFC เท่านั้น
แอปเปิลไม่ได้ชี้แจงกรณีที่ผู้ใช้ดัดแปลง AirTag ให้ไม่ส่งเสียง และไม่ได้ระบุว่าอุปกรณ์จากผู้ผลิตรายอื่นๆ ต้องส่งเสียงเหมือนกันหรือไม่
ที่มา - Apple
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
ถ้าจะเอาไปไว้ในรถเผื่อตามหากรณีรถหายนี่หมดสิทธิ์เลยสินะ
1. ถ้าโจรใช้ iOS จะมีแจ้งเตือนว่ารถคันนั้นมี AirTag อยู่่และสั่งให้ส่งเสียงเพื่อโยนทิ้งหน้าต่างได้
2. หากใช้ Android, โจรขับรถหนีเจ้าของ, AirTag จะส่งเสียงบอกโจรว่า AirTag อยู่ไหนเอง
ถ้าตามรถจริงติดตั้งอุปกรณ์ถูกต้อง ต่อสายชาร์จกับตัวรถ ฯลฯ น่าจะดีกว่าครับ
lewcpe.com, @wasonliw
ตอนแรกกะประหยัดค่า Data เดือนละ 100 สักหน่อยครับ
เมื่อก่อนผมใช้มือถือandroid เครื่องเก่า share location ให้เครื่องหลักตลอดเวลาเอา เสียเนทเดือนละไม่กี่สิบMB นะครับ ไม่ลงappอื่นๆ และเปิดwifiทิ้งไว้ เวลาจอดในบ้าน มันก็update appผ่านwifiเอา จริงๆใช้โปรพวก free net 64k ยังพอเลย แต่จะupdateตำแหน่งช้าหน่อย
อธิบายต่อสายชาร์ตหน่อยครับไม่เข้าใจ
The Last Wizard Of Century.
น่าจะหมายถึงใช้อุปกรณ์ที่สามารถพ่วงแบตรถไปเลย น่าจะดีกว่า ไม่ต้องมากังวลว่าแบตของอุปกรณ์จะหมดมั้ย หรือกังวลกับการเอาแบตใส่ไว้ในรถร้อนๆ
ถ้าไม่กลัว Void Warranty แกะออกมาตัด Speaker ทิ้งครับ
ถึงจะเตือน แต่ก็หาไม่เจอ
รถผม มีทั้ง มือถือเก่าๆ 1 เครื่อง กะ samsung smart tag ครับ
อนาคตคงมี airtag ด้วย
ข้อดีของ tag ที่ดีกว่ามือถือคือ มันเล็กมาก ซ่อนง่ายกว่ามากครับ
แล้วถ้านั่งอยู่ในร้านกาแฟสักชั่วโมงสองชั่วโมงหละ
ถ้าเจ้าของ Airtag นั่งอยู่ด้วย ไม่เป็นไร
False positive เอาได้ง่ายๆ ได้เลยนะนั่น
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
รู้สึกตะหงิดๆว่าภายในวีคแรกหลังส่งมอบ จะมีการ update iOS ด่วนเพื่อตัดการทำงานชั่วคราวและกลับไปทบทวนฟีเจอร์ใหม่
ใส่กระเป๋าเดินทาง ตามโฆษณา มันห่างจากเจ้าของอยู่บางช่วงเวลา ตอนระหว่างรอโหลดกระเป๋า
เคสนี้อยากรู้เหมือนกันว่าจะเป็นยังไง
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
ไม่ได้อยู่ติดกะใครตลอดเวลานะครับ น่าจะแยกได้ คนที่เกี่ยวข้องก็คงเคลื่อนที่ไปมา ห่างๆ ใกล้ๆ ไม่เหมือนแวะติดตัวไป
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
แอปเปิลไม่ยอมบอกว่ามันห่างได้นานแค่ไหน ให้เดาคือเตรียมปรับไปมาระหว่างการใช้งานจริงครับ
lewcpe.com, @wasonliw
สนามบิน เห็นห้ามใช้ smart bag(พวกที่มีGPSในตัว) บอกจะโหลดต้องปิดระบบ ไม่รู้จะมีดราม่าอะไรอีกไหมถ้าคนโหลดsmart tagแล้วดัง
Smart Luggage ไม่ห้ามนะ เป็น Yes แบบมีข้อจำกัด ซึ่งส่วนใหญ่คือมันยัด Battery ที่เกิดกำหนดมาด้วย เลย Load ไม่ได้
https://www.tsa.gov/travel/security-screening/whatcanibring/items/smart-luggage
ใช่ครับประเด็นหลักคือห้ามเปิดใช้งานระหว่างโหลด เจอที่สนามบินญี่ปุ่น(ไม่ใช่ของผมนะ) ย้ำเลยว่าต้องปิดระบบปิดGPS หรือถอดแบตออกมา
ส่วนขนาดแบตก็อีกประเด็นครับ จริงๆมันไม่ค่อยมีเจ้าไหนยัดมาจนเกินpower bank หรอก สิ่งสำคัญคือมันมีอุปกรณ์electronicsที่ทำงานตลอดเวลาระหว่างโหลดใต้ท้องมากกว่า ซึ่งsmart tag,air tagมันก็หมิ่นเหม่ตรงนี้ เพราะมีพลังงานในตัวแถมทำงานตลอดเวลา
ตอนนี้อาจจะยังไม่ห้าม แต่อนาคตก็ไม่แน่ถ้าเกิดประเด็นขึ้นมา
Some airlines have banned smart baggage from their flights,
https://www.iata.org/en/programs/ops-infra/baggage/smart-bags/
he good news: If you can remove the battery from the smart bag, then you can still travel with the bag as the bag without the installed battery can be checked in. You just have to remove the battery and take it as cabin luggage. There is a limit to the power of the battery – 100 Watt-hours (Wh) for lithium ion and 2 grams of lithium metal for lithium metal. These limits are no different to previous limits established for carrying batteries.
น่าจะมีข่าวคนเอาไปใช้ทางไม่ดีในไม่ช้า
The Last Wizard Of Century.
ซ่ำ--
The Last Wizard Of Century.
ข้อ2. นี้ไม่ต้องมีก็ได้นะ เพราะยังไงถ้ามันห่างจากเจ้าของนานไป มันก็จะร้องขึ้นมาเอง
อ้าวจะเอาไปติดกับแมวที่บ้านสักหน่อยเจอข้อ2 จบเลยเพราะเวลาเราไม่อยู่บ้านก็ร้องทั้งวันเลย
จะเอามาห้อยคอน้องหมา work อยู่ไหมนะ
ดูจากข้อแม้แล้วเวลาไม่อยู่บ้านอาจจะต้อง marks ไว้ว่าเป็น lost item ถ้ามันจะดังเตือน
คิดอยู่ว่าจะห้อยคอแมว แต่ก็กลัวจะร้องลั่นบ้านทั้งวันเวลาไม่อยู่
ซื้อ iPad วางไว้ในบ้านน่าจะพอได้นะครับ
lewcpe.com, @wasonliw
This guy has 200 IQ ???
?????
iPhone มือสอง ใส่ซิมเติมเงินถูกๆ ก็เกินพอแล้วครับ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
แล้วเอาไปห้อยคอแมวครับ ?
แมวด่าได้คงด่าอะ
เอาไปวางในบ้านให้ AirTag มันเห็นว่าอยู่ใกล้เจ้าของก็พอครับ :/
lewcpe.com, @wasonliw
ถ้าถึงขนาดนี้
ให้แมวคอยโทร Facetime กลับมารายงานตัวไปเลยครับ
ใช้ป้องกันเด็กเล็กได้ แค่นี้ก็พอใจแล้วครับ
ผมก็อุตส่าห์กะว่าจะเอาเป็นจี้ห้อยคอลูก เวลาไปเรียน หรือไปเที่ยวซักหน่อย
คิดเหมือนกันเลย แต่ถ้า alarm คงไม่เวิร์ก