Apple Music ประกาศเพิ่มระบบเสียงแบบตามตำแหน่ง Spatial Audio พร้อมทั้งรองรับ Dolby Atmos เพื่อให้ศิลปินในสร้างสรรค์ประสบการณ์ด้านเสียงที่สมจริงหลายมิติมากขึ้น โดยผลงานของศิลปินที่จะรองรับ Spatial Audio ซึ่งแอปเปิลระบุถึงอาทิ J Balvin, Gustavo Dudamel, Ariana Grande, Maroon 5, Kacey Musgraves และ The Weeknd
นอกจากนี้ Apple Music จะปรับปรุงทำให้เพลงที่มีในแคตาลอกมากกว่า 75 ล้านเพลง สามารถฟังได้แบบ Lossless ด้วยเทคโนโลยี ALAC หรือ Apple Lossless Audio Codec ของแอปเปิลเอง โดยคุณภาพเสียงจะเริ่มต้นที่ระดับซีดี 16 บิต 44.1 kHz ไปถึงระดับสูงสุด 24 บิต 192 kHz
ผู้ใช้อุปกรณ์ฟังเพลงของแอปเปิลอย่าง AirPods หรือหูฟัง Beats ที่มีชิป H1 หรือ W1 ตัว Apple Music จะเล่นเพลงแบบ Dolby Atmos โดยอัตโนมัติเป็นค่าเริ่มต้น รวมถึงลำโพงในตัวของ iPhone, iPad และ Mac ที่รองรับด้วย
ระบบเสียงรูปแบบใหม่นี้ แอปเปิลบอกว่าจะเริ่มใช้งานได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ที่มา: แอปเปิล
Comments
เดี่ยวนี้เพลงอัดเสียงต้นฉบับเดี่ยวนี้มันมากกว่า Stereo หรือเปล่าครับ
ขึ้นอยู่กะค่ายและศิลปินครับ ปัจจุบันมีหลายศิลปินที่ mix เป็น Dolby Atmos อยู่แล้วครับ
ถ้าเป็นเพลงทั่วๆ ไป ยังไงก็นิยม Stereo อยู่ครับ มันไม่ได้เหมาะจะไปทำเป็น 5.1 หรือ 7.1 รอบทิศทางอะไรแบบนั้น ยกเว้นแต่ทำเป็นโปรเจคพิเศษซึ่งก็ไม่ค่อยมีในรูปแบบของเพลงต้นฉบับอ่ะนะ
อย่างของ Sony จะพยายามดัน 360 Reality Audio ครับ
https://electronics.sony.com/360-reality-audio
อย่างนี้ต้องลองแล้ว หรืออาจจะเป็นเหตุผลที่ตอนหลัง RS เข้า Apple Music แล้ว เพราะรู้ว่าจะมีระบบเสียงแบบนี้เข้ามา
สรุปคือ Apple Music จะแข่งกับ Tidal จริงๆแล้วสินะ แถมได้เปรียบกว่าเพราะมีเพลงอยู่ในมือเยอะมากด้วย
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ค่ายเพลงบ้านเราบันทึกเสียงเป็น dolby ด้วยเหรอครับ
.
ผมไม่ได้พูดถึง Dolby แต่พูดถึงแนว Lossless คือเพลงระดับ CD ทั่วไปแหละครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ชอบตรงไม่มีเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
แต่เอ๊ะใจตรงที่ “ นอกจากนี้ Hi-Res Lossless จะต้องใช้กับอุปกรณ์ภายนอก อย่างตัวแปลงสัญญาณดิจิทัลเป็นอนาล็อก (DAC) แบบ USB”
มันทำยังไงหว่า
เพิ่มเติม “ ในช่วงเปิดตัวจะมีเพลงในเสียงแบบ Lossless ให้ฟัง 20 ล้านเพลง และจะมีครบทั้ง 75 ล้านเพลงภายในปีนี้”
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
พูดง่ายๆก็คือต่อผ่านหางหนู (หรืออุปกรณ์ประเภทเดียวกัน) ที่รองรับ Hi-Res นั่นแหละครับ
อยากบ๊ายบายระบบเสียงสเตอริโอนานแล้ว มีแอปเปิ้ลช่วยดันแบบนี้ดี เริ่มมีหวัง
airpods ทุกรถ่น ไม่รองรับ lossless
ต้องหาหูยี่ห้ออื่นมาใชัแทน
กรรม
airpod มันแปลง digital ผ่านทางอากาศก็ loss แล้วละครับ และ bandwidth ไม่น่าจะพอสำหรับเล่น lossless ด้วย ต้องใช้แบบสาย
ผมว่าเขาน่าจะหมายถึง Codec ที่รองรับไฟล์ความละเอียดสูงแบบ Lossless เช่นพวก aptX หรือ LDAC นะครับ
น่าจะ Update ให้ IOS รองรับ BT LDAC ด้วยนะ แหม่
Apogee Ensemble ออก Driver สำหรับ M1 ออกมาให้ทันเขาด้วยนะ วางตากฝุ่นมานานละ นึกว่าจะออกไดรเวอร์พร้อม Apple เปิดตัว M1 จนเพลงเขาจะมาแล้วเนี่ย
หวังว่า ALAC จะไม่เป็นเหมือน MQA ที่ดันทำเสียงเพี้ยนจากต้นฉบับหน่อยๆ นะครับ
ปล. ปัญหาของ MQA มีอยู่ 2 ประเด็น คือ คนทั่วไปไม่สามารถบันทึกเสียงในรูปแบบ MQA ได้ เลยทำให้การทดสอบว่าเสียงที่ได้ยังเหมือนต้นฉบับมั้ยมันทำได้ยาก และมีคนพยายามทดสอบแล้ว ผลที่ได้คือมันไม่ตรงเพราะมี noise เข้าไปอยู่ในไฟล์เสียงที่ได้ครับ
เอาตามทฤษฎี ตัว ALAC ใช้หลักการเข้ารหัส Lossless เหมือนกับ FLAC จึงไม่มีการสูญเสียข้อมูลระหว่างการเข้ารหัส ถ้าไม่มีปัจจัยอื่นมาเกี่ยวข้อง แตกต่างจาก MQA ที่อาศัยฝั่งข้อมูลในการสร้างสัญญาณเสียงความถี่สูงกว่าไว้ใน Noise Floor ของสัญญาณเสียงที่ต่ำกว่า 24 kHz ครับ
My life and hobbies blog!
Technology and Gadget blog!