เว็บข่าวเกม IGN มีสกู๊ปพิเศษเจาะลึกสถานการณ์ของ Blizzard ช่วงหลัง ที่มีพนักงานเก่าลาออกอย่างต่อเนื่อง โดยเคสล่าสุดที่ดังที่สุดคือ Jeff Kaplan ผู้กำกับเกม Overwatch ว่าจริงๆ แล้วสาเหตุที่พนักงานลาออกคืออะไรกันแน่
IGN สัมภาษณ์พนักงานและอดีตพนักงาน Blizzard หลายคน โดยคำตอบที่ได้มีหลากหลาย ตั้งแต่โครงการเกมที่รับผิดชอบถูกยกเลิก, เหน็ดเหนื่อยจากการทำเกมเดิมมาเกิน 10 ปี, อยากกลับสู่บรรยากาศทีมพัฒนาเล็กๆ ที่อบอุ่น แทนทีมใหญ่ที่ลำดับขั้นเยอะ
นอกจากประเด็นเรื่องพนักงานลาออกแล้ว ตัวบริษัท Blizzard เองก็มีปัญหาว่าไม่สามารถออกเกมใหม่ๆ ได้ต่อเนื่อง เกมสุดท้ายที่ออกคือ Overwatch ในปี 2016 (ซึ่งตัวมันเองก็แบกรับความความกดดันที่ไม่มีเกมใหม่ใหญ่ๆ นับจาก World of WarCraft) ความสำเร็จของ Overwatch ทำให้บรรยากาศของ Blizzard เต็มไปด้วยความโล่งใจ แต่นับจากนั้นมา 5 ปี ก็ยังไม่มีความสำเร็จแบบเดียวกันเกิดขึ้นอีก
ระบบการจัดคิวเกมออกใหม่ของ Blizzard ในช่วงหลังก็ดูมีปัญหาไม่น้อย เพราะในงาน BlizzCon ปี 2018 มีเพียง Diablo Immortal ที่เป็นเกมมือถือ แถมทีมพัฒนาหลักเป็น NetEase ไม่ใช่ Blizzard จนโดนแฟนๆ ถล่มเละ ทำให้ปีต่อมา Blizzard ต้องแก้มือด้วยการประกาศ Diablo IV และ Overwatch 2 แต่ทั้งสองเกมก็ยังห่างไกลกับการวางขายจริง ส่วน Warcraft III: Reforged ก็เต็มไปด้วยปัญหา จนต้องยอมคืนเงิน
จุดเปลี่ยนสำคัญอีกอย่างของ Blizzard คือ Michael Morhaime ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ ลงจากตำแหน่งและลาออกจากบริษัทในปี 2018 ส่วน Frank Pearce ผู้ร่วมก่อตั้งอีกคนลาออกในปี 2019 (ซีอีโอคนปัจจุบันคือ J. Allen Brack ซึ่งตอนนั้นเป็นผู้กำกับ World of WarCraft) ทำให้วัฒนธรรมองค์กรเปลี่ยนไปจากเดิม
ก่อนหน้านี้ Blizzard เน้นเรื่องความสร้างสรรค์ เน้นคุณภาพ ไม่สนใจเรื่องเงินหรือค่าใช้จ่าย แต่หลังปี 2018 เป็นต้นมา บริษัทเริ่มยกเลิกเกมที่ไม่ทำเงิน (เช่น Heroes of the Storm หรือโครงการทดลอง StarCraft FPS ที่เกิดขึ้นเพื่อหาเกมฮิตเกมต่อไปหลัง Overwatch), ลดค่าใช้จ่าย และปลดพนักงาน
ภาพรวมของ Blizzard ยังเติบโตและมีกำไร เกมฮิตตลอดกาล World of Warcraft ยังทำเงินได้ดี แต่ก็เริ่มเจอปัญหาว่าผู้เล่นลดลงเรื่อยๆ และกลายเป็นยูนิตที่เล็กที่สุดของ Activision Blizzard แล้ว (อันดับหนึ่งคือ Activision อันดับสองคือสตูดิโอเกมมือถือ King) ปัจจัยทั้งหมดนี้รวมๆ กันทำให้เราเห็นการลาออกของทีมงานรุ่นเก่าๆ และถือเป็นการถ่ายเลือดใหม่ของ Blizzard ไปในตัว
ประเด็นที่น่าสนใจคือ อดีตพนักงานของ Blizzard แทบไม่มีใครลาออกไปอยู่ค่ายเกมใหญ่ค่ายอื่นๆ แต่ใช้วิธีมาตั้งบริษัทเองเกือบหมด บริษัทที่เรารู้จักชื่อกันแล้วมีอย่างน้อย 5 แห่งคือ
เหตุผลที่อดีตพนักงานเลือกก่อตั้งสตูดิโอใหม่ อาจเป็นเพราะโหยหาบรรยากาศทีมเล็กๆ แต่มีอิสระอย่างที่กล่าวไป บวกกับสถานการณ์ของวงการเกมตอนนี้ ที่นักลงทุน VC เริ่มสนใจมากขึ้น ทำให้การหาเงินทุนมาตั้งบริษัทเกมใหม่ๆ โดยทีมงานที่พิสูจน์ตัวเองแล้วจาก Blizzard ทำได้ง่ายขึ้นกว่าในอดีตด้วย
ที่มา - IGN
Comments
F
F
I need healing.
F
F
F
F
F หมายถึงอะไรครับ
มาจากเกม call of duty (จำไม่ได้ภาคไหน) จะมีฉากที่เราไปร่วมพิธีศพ แล้วมันจะให้เรากดปุ่ม "F" เพื่อเคารพศพครับ
ลอง Search คำว่า Press F to pay Respect ดู
เอา 5 บ. ที่ว่า มารวมเป็น Severe Snowstorm With Strong Wind Entertainment สิ :)
ปล. Blizzard ในดิกของ Cambridge จะให้ความหมายว่า Severe Snowstorm With Strong Winds ครับ
เกมส์เก่าๆเบื่อจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้บริษัทแล้ว
ไม่ยอมผุดเกมส์ใหม่สักที
แก้ได้ด้วยเอา Activision ออกไป
เป็นเกือบทุกที่แหล่ะ พอบริษัทใหญ่ขึ้นภาระทางการเงินก็เยอะขึ้น ผู้ลงทุนเยอะขึ้น เลยต้องเอาการเงินนำหน้าการพัฒนา เพื่อให้ผู้ลงทุนพอใจ สมองก็เริ่มไหล บริษัทไหนรู้ตัวเร็ว ก็จะใช้วิธีสร้าง BU ย่อย โดยให้พนักงานระดับหัวกะทิไปเปิดบริษัทในเครือ แล้วเป็นผู้ลงทุนให้ แต่วิธีนี้ก็มีความเสี่ยง เพราะพนักงานที่ไป ส่วนใหญ่ก็ไม่มีประสบการณ์ทางการบริหาร บริษัทไหนเก๋าๆ หน่อยก็จะส่งพี่เลี้ยงที่เป็นสาย support ไปประกบด้วย ถึงจะพยุงตัวเองได้
แต่บริษัทส่ว่นใหญ่ก็ยังฝืนรวบอำนาจ แทนที่จะให้อิสระในการบริหาร ส่วนใหญ่ปลายทางก็ต้องทยอยลดขนาดธุรกิจ ปลดพนักงานอยู่ดี ผมว่าเตรียมบอกลา Buzzard ได้เลย น่าจะเหลือแต่ชื่อเอาไว้หากิน