วันนี้ทาง Sinopharm ผู้ผลิตวัคซีน COVID-19 ตีพิมพ์รายงานการทดสอบเฟสสามของวัคซีนสองตัว คือ WIV04 (5 µg/dose) และ HBO2 (4 µg/dose) พร้อมกัน จากการทดสอบประสิทธิภาพในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
งานวิจัยมีผู้ร่วมทั้งหมด 40,411 ราย แบ่งเป็นสามกลุ่มเท่าๆ กัน และเริ่มวัดประสิทธิภาพวัคซีนหลังได้รับโดสที่สองไปแล้วสองสัปดาห์ โดยติดตามผลหลังโดสที่ 2 นาน 90 วัน พบว่าผู้ติด COVID-19 แบบมีอาการ อยู่ในกลุ่มผู้ได้วัคซีน WIV04 จำนวน 26 คน อยู่ในกลุ่มผู้ได้วัคซีน HBO2 จำนวน 21 คน และกลุ่มที่ได้ยาหลอกจำนวน 95 คน กลุ่มประชากรของผู้เข้าร่วมทดลองในงานวิจัยนี้ไม่กระจายตัวเท่าประชากรทั่วไปนัก โดยผู้ร่วมทดสอบ 98.4% มีอายุต่ำกว่า 60 ปี และ 84.5% เป็นผู้ชาย
ผลการทดลองทำให้ได้ค่ากลางประสิทธิภาพของวัคซีน WIV04 คิดเป็น 72.8% ของวัคซีน HBO2 คิดเป็น 78.1%
วัคซีนของ Sinopharm นั้นได้รับรองจาก WHO ให้ใช้งานในโครงการ COVAX ได้แล้วหนึ่งตัวที่ผลิตโดย Beijing Bio-Institute of Biological Products ไม่แน่ชัดว่า WHO รับรองตัวใดในสองตัวนี้
กราฟแสดงปริมาณคนติด COVID-19 แบบมีอาการในกลุ่มประชากรต่างๆ ภาพบนเป็นข้อมูลเมื่อนับหลังได้รับวัคซีนเข็มที่สองไปแล้วสองสัปดาห์ ภาพล่างนับตั้งแต่ได้รับเข็มแรก
Comments
อย่างน้อยก็ดีกว่าซิโนแวคแหละนะ
Sinovac ไทยเราทดลองว่าภูมิขึ้น 90 กว่า % เลยนะครัช ;P
ภูมิทิพย์ ???
ภูมิขึ้น กับประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัส คนละส่วนกันนะครับ ต้องแยกกันให้ดี
+1 ครับ คนเข้าใจผิดกันเยอะเลย
A smooth sea never made a skillful sailor.
มันก็เอามาใช้อ้างอิงได้แหละครับ แค่อาจจะต้องเทียบกับวัคซีนชนิดอื่นด้วยว่าภูมิขึ้นเท่าไหร่ และขึ้นเท่านี้ภายในกี่วันหลังเข็ม 1 เข็ม 2 ก็ว่าไป
แล้วประเทศเราฉีด sinovac ไป 2-3คนแล้ว(เข็มแรก) อีกซัก 45 วัน (เข็ม 2 + 15 วัน)น่าจะสุ่ม ๆ คนที่โดยฉีดแล้วซักหลักพัน-หมื่นคนมาตรวจภูมิดูนะครับ
ภูมิขึ้นไม่ได้แปลว่าจะป้องกันได้ แต่บางคนไปตีความว่าป้องกันได้เฉยเลย
มาจากการสื่อสารที่ต้องการ misleading ประสิทธิภาพวัคซีนนั่นแหละครับ การวัดประสิทธิภาพระดับภูมิฯเป็นแค่องค์ประกอบย่อย ส่วนหลักเขาวัดอัตราการติดของกลุ่มตัวอย่างต่างหาก เพราะคนมีภูมิคุ้มกันก็ยังติดโรคได้อยู่ดี อยากเห็นหน้าคนที่บอกว่าฉีดช้าๆเพราะไม่ยอดให้คนไทยเป็นหนูทดลองยาจังเลยครับ เพราะทุกยี่ห้อเรียกว่าอยู่ในระยะทดลองหมด แถม sinovac เป็นการทดลองที่ไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือที่ไหนรับรองด้วย แล้ว สธ.ไทยใข้กระบวนการทดลองแบบไหนสามารถรับรองวัคซีนที่ไม่ผ่านการรับรองโดย who และงานวิจัยนานาชาติให้ฉีดกับประชาชนได้กัน
พึ่งฟังข่าววิทยุ บอกเข็ม 2 Sinovac ภูมิขึ้นเยอะกว่า Astra เลยนะครับบบบ เทียบ Astra ในข่าวด้วย โจมตีกันสุดๆ
ถ้ามาจากอันนี้ก็ Sinovac 2 เข็ม เทียบกับ AstraZeneca 1 เข็มน่ะครับ แถมกลุ่มตัวอย่างน้อยมากๆด้วย 73 กับ 197 คน
คนที่รู้จักฝั่งเชียร์ร้าบาลตอนนี้อวยสุดขีด แต่ไม่ยอมไปฉีดนะบอกรอ AZ
ถ้าอายุ 60 หรือเป็นมีโรคประจำตัวร้ายแรง จะรอ AZ ก็ดี
แต่ถ้าไม่ได้อยู่ในกลุ่มนี้ รอ AZ ก็อาจจะรอนานนะ เพราะเขากำหนดกลุ่มเป้าหมายของ AZ คือผู้สูงอายุ กับผู้ที่มีโรคประจำตัวร้ายแรง ถ้ากลุ่มนี้มีจำนวนมากกว่าวัคซีน AZ ที่จัดหามา คนกลุ่มอื่นๆเขาก็ไม่ฉีด AZ ให้หรอกครับ
เว้นแต่ AZ เข้ามาในปริมาณมากกว่ากลุ่มเป้าหมายนะ
ความหมายจริงๆก็คือ คนกลุ่มนี้เค้าอวย Sinovac สุดลิ่มทิ่มประตู แต่ตัวเองก็ไม่กล้าฉีด Sinovac แค่นั้นแหละครับ ไม่ต้องไปวิเคราะเพิ่มเติมเรื่องอายุ เรื่องกลุ่มเป้าหมายอะไรหรอก
ตอนนี้มันช่วงที่เค้าเร่งระบาย Sinovac เดี๋ยวพอรัฐเปลี่ยนเข็มไประบาย AZ มั่งเค้าก็กลับมาอวย AZ กันครับ
ใครจะอวยอะไร ไม่ต้องไปสนใจก็ได้มั้ง สนใจตัวเอง เอาตัวเองให้รอดก็พอ
ความชอบคน จะไปบังคับอะไรได้ ชอบก็ฉีด ไม่ชอบก็ไม่ต้องฉีด
จะอวยลุง จะอวยโทนี่ ไม่รู้จะหัวร้อนอะไรกันนักหนา เนอะ
จริงๆ จะคิดแค่นั้นไม่ได้หรอกครับ เพราะการอวยวัคซีน Sinovac ที่เราเห็นมันทำให้ข้อมูลผิดเพี๊ยนออกมาเต็มไปหมด ความเข้าใจของประชาชนก็ไปคนละทิศคนละทาง ถ้าเราคิดว่ารู้ทุกอย่างแล้วไม่ต้องไปสนใจมันก็คงได้ถ้าเราไม่ต้องใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นอ่ะนะ
เรื่องนี้คนละเรื่องกับอวยลุง (ถึงแม้จะพวกเดียวกันก็ตาม) หรืออวยโทนี่ (นี่ก็เหมือนหาเสียงตัวเองนิดๆอ่ะช่วงนี้) มันคือปัญหาในวิธีการประชาสัมพันธ์ของรัฐครับ
จริงๆถ้าดูจากยอดการสั่ง AZ ควรจะเป็นวัคซีนหลักแหละครับ
แต่ตอนนี้ AZ “น่าจะ” ส่งงานไม่ทัน เลยหันมาฉีด Sinovac แทน
แต่ตลกตรงที่ไม่บอกตรงๆ เนี่ยแหละ
ใจเย็นครับ 55555
ตัวที่ผ่านอย.ไทยแล้วจะเปิดตัวพรุ่งนี้ เป็นของโรงงานปักกิ่งหรืออู่ฮั่นกันแน่ ประสิทธิภาพมันต่างกันนิดหน่อย
ปักกิ่งครับ จริงๆวันนี้ยังไม่ผ่าน แต่กะจะประกาศว่าผ่าน+ประกาศนำเข้า+ประกาศว่าราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จะเป็นคนจัดการ ทั้งสามข่าวในงานเดียวกันเลย เล่นใหญ่มาก
ขอบคุณสำหรับข้อมูล
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของงานวิจัย คือ หลังจากได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ไม่มีกลุ่มตัวอย่างสักตัวอย่างเดียวที่เสียชีวิตและมีอาการหนักจนต้องเข้า รพ. จากโรคโควิด-19 (ไม่ได้แตกต่างจากวัคซีนตัวอื่น)
มีตัวเลขกันติดเชื้อ (ทั้งมีและไม่มีอาการด้วย) ตัวแรกได้ 64% ตัวสองได้ 73.5
ไปฉีดมาแล้วจ้า ยี่ห้อไหนก็มาเหอะ
ใครอยากรอก็รอ ใครอยากฉีดก็ไม่ต้องรอ
ช่วงนี้ดี คนไม่เยอะด้วย รอไม่นาน ฉีดเสร็จกลับบ้านสะดวก ถนนโล่งสบาย
กลัวผลข้างเคียงก็รอยี่ห้อที่คิดว่าชอบแล้วกันจ้า
ส่วนตัวแพ้ยา Amoxicillin ทั้งๆที่ตอนเด็กก็ไม่เคยแพ้ ถ้าอยู่ดีๆเราจะแพ้วัคซีนบางตัว มันก็ข่วยไม่ได้
ยาสามัญประจำบ้านทั่วไป คนไม่แพ้ก็คิดว่าปลอยภัย คนแพ้น้อยก็ต้องหายาตัวอื่นมากินแทน ส่วนคนแพ้รุนแรงก็ซวยไป
สบายใจก็ไปฉีด ไม่สบายใจก็รอไปก่อน ง่ายๆ
ถ้าจองได้คิวแล้ว (และคิวจัดการดีพอ) ก็ไม่น่าต้องรอนานนะครับ ที่รอนานน่าจะรอจนกว่าจะหาคิวลงได้
lewcpe.com, @wasonliw
ตามนั้นครับ ใครใคร่ฉีดก็ฉีด วัคซีนทุกตัวมีผลบรรเทาความรุนแรงของโรคทั้งนั้น แต่ประสิทธิภาพและผลข้างเคียงย่อมไม่เท่ากัน ทุกยี่ห้อมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงหมดและถ้ามันเอามาขายได้แสดงว่า%เกิดผลข้างเคียงไม่ดีต้องไม่เกินเลข%หลักเดียวทุกยี่ห้ออยู่แล้ว
แต่ส่วนใหญ๋่ที่ไปฉีดไม่ได้คือไม่มีคิวครับ จองไม่ได้ลงทะเบียนไม่ได้ ระบบจองไม่มีประสิทธิภาพเลย แม่ผมเป็นมะเร็งไม่มีชื่อ แต่ตัวผมไม่มีประวัติโรคร้ายแรงไม่เคยลงทะเบียน แต่มาเช็คสิทธิ์มีชื่อลงทะเบียนไว้ให้พร้อมจองคิวให้เสร็จสรรพ งงเลย
ที่แย่อีกเรื่องคือการเอาข่าวชวนเชื่อผิดๆไปเผยแพร่ มีภูมิไม่ใช่กันไม่ให้ติดได้เสมอไป และอย่าคิดว่าฉีดแล้วจะไปกอดลูกได้ไปใกล้ชิดใครก็ได้หรือตายแล้วจะจัดงานศพได้หรือไม่ได้ จากข้อมูลที่มีตอนนี้ sinovac นี่ฉีดเพื่อกันตายตัวเองอย่างเดียวกรณีติดเหมือนประกันชีวิตบุคคลที่1 ดังนั้นฉีดมาก็ต้องระวังตัวเองและคนรอบข้างเหมือนเดิมครับ จะได้ไม่เพิ่มความเสี่ยงให้ตัวเองหรือคนรอบข้าง โฆษณาแบบนี้เหมือนซ้ำเติมให้โอกาสป้องกันการแพร่โรคมันแย่ลงไปอีกเพราะชวนให้คนไม่ระวังตัวหลังฉีด
ใครใคร่ฉีดก็ฉีดไปเถอะครับ ผมว่าส่วนใหญ่ของคนที่มีปัญหากับวัคซีนเค้าก็ไม่ได้ไล่ห้ามคนอื่นให้ฉีดหรอก ทุกคนก็อยากได้วัคซีนดีๆทั้งนั้นแหละ เรื่องหลักๆที่เค้าพูดกันคือ
1. ประสิทธิภาพของวัคซีนที่รัฐบาลไม่เปิดเผยตรงไปตรงมา สอดไส้ข้อมูลหวังให้ประชาชนเข้าใจผิด
2. ระบบลงทะเบียน,จองคิว ห่วยแตกมาก โฆษณาให้ฉีดจังเลย แต่หลายๆคนพร้อมจะฉีดแต่ก็ยังไม่ได้คิวฉีดสักที
ไอ้เรื่องแพ้วัคซีน ผลข้างเคียงนู่นนี่ การที่ประชาชนเข้าใจผิดจนเกิดการกลัวมันก็ผลพวงมาจากการประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลเองนั่นแหละ
"ไอ้เรื่องแพ้วัคซีน ผลข้างเคียงนู่นนี่ การที่ประชาชนเข้าใจผิดจนเกิดการกลัวมันก็ผลพวงมาจากการประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลเองนั่นแหละ"
ผมว่าเรื่องแพ้วัคซีน หรือผลข้างเคียง ก็เป็นไปตามข้อมูลที่เกิดขึ้นทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งก็เกิดจากการสันนิษฐานกันว่านู่นนี่นั่น
ถ้าจะพูดถึงประเด็นที่ประชาชนเข้าใจผิดเรื่องวัคซีนและผลข้างเคียง ผมว่า fake news หรือข่าวลือจากกลุ่มไลน์ กลุ่มเฟส บางจุดที่บอกต่อกันมาจนบิดเบือน มันน่าจะเป็นเหตุให้คนกลัวเกินจริงมากกว่าหรือเปล่า?
รัฐเองก็พูดออกสื่อวันนึงอย่างนึง วันพรุ่งนี้อีกอย่างนึงมาตั้งแต่เริ่มวิกฤติจนปัจจุบันนะครับ การสื่อสารเรื่องวัคซีนที่จงใจปกปิดข้อมูลบางอย่างแล้วเอาข้อมูลที่ไม่มีประโยชน์แต่มีตัวเลขที่ดูดี (ไม่รู้จริงหรือเปล่า) มันคือต้นตอของปัญหาอ่ะครับ
เรื่อง fake news นี่ตอนนี้แบ่งหยาบๆ น่าจะประมาณนี้ ขออนุญาตไม่แนบอ้างอิงอะไรแล้วกัน เปิดไลน์กลุ่มผู้ใหญ่ๆหน่อยก็น่าจะเห็นเยอะแยะไปหมด
1. จากกลุ่มโจมตีรัฐที่ขุดข้อมูลมั่วๆมาโจมตีโดยไม่ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม พวกนี้เรื่องปกติ มีในทุกเหตุการณ์ และไม่ได้จำนวนเยอะมาก
2. จากข้อมูลของรัฐเองที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แค่เอาข้อมูลจากสัปดาห์ที่แล้วมาส่งต่อก็กลายเป็นข้อมูลผิดๆแล้ว
ขอไม่พูดถึงข้อมูลหลายๆส่วนที่ประชาชนไปศึกษามาเองแล้วคนของรัฐโจมตีว่าเป็น fake news อันนั้นใช้วิจารณญาณอ่านกันเอาเองครับ
ซึ่งจะเป็น fake news จากไหนก็ตาม สิ่งที่รัฐบาลต้องทำไม่ว่าจะเป็นใครขึ้นมาบริหารคือต้องเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนรับทราบทั้งหมดอย่างตรงไปตรงมาและรวดเร็ว ทำให้ประชาชนรับข่าวสารที่ถูกต้องที่สุดจากรัฐทางเดียวไม่งั้นมันก็เละเทะไปหมด ซึ่งปัญหาคือรัฐไม่เคยเปิดเผยข้อมูลตรงไปตรงมา (ไม่ใช่แค่เรื่องวัคซีน) ส่งผลให้ประชาชนไม่ไว้ใจรัฐจนต้องหาข้อมูลส่งต่อกันเองมันเลยเป็นแบบที่เห็น พวกขุดข่าวมั่วๆมาโจมตีเลยมีน้ำหนัก เพราะข้อมูลของรัฐเองก็ไม่มีน้ำหนักมากพอในสายตาประชาชนบางส่วน
เอาแค่ว่าก่อนฉีดวัคซีน ห้ามอะไรหรือไม่ห้ามอะไรบ้างก็พึ่งเริ่มจะประกาศกันไม่นานมานี้เอง ซึ่งกว่าจะประกาศประชาชนก็ไปหาข้อมูลอะไรมาส่งต่อกันให้มั่วไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
ข่าวที่รัฐไม่ได้พูดมีคนเชื่อมากขึ้น ก็เพราะข่าวจากรัฐเองมันเชื่อไม่ได้ขึ้นเรื่อยๆ นั่นแหละครับ
นะ ผมก็พิมพ์มันส์มือเอาซะยืดยาว 55555
นั่นสิครับ ดูอย่างข่าว กรุงเทพเปิดให้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนวันที่ 27 ตอนเที่ยงสิ มี 1 กรม 1 กระทรวง (ที่ผมเห็น) บอกว่าเป็น fake news ทั้งที่ออกมาจากศบค. เอง แถมลงข่าวทีวีแล้วด้วย
แล้วจะให้เชื่อใครได้ล่ะแบบนี้
Jusci - Google Plus - Twitter
ขนาดข่าวที่รัฐบาลเป็นคนบอกเองเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมายังถูกเปลี่ยนเป็น "fAke NeWs" ด้วยตัวเองเลย แล้วใครจะเชื่อหล่ะครับ
ผมฉีด sinovac ไปแล้ว ฉีดซิโนฟามปักกิ่งเข๋ม2แทนน่าจะเวิค
จากหลายๆ เรื่องวุ่นวายในตอนนี้ ถ้าเปิดให้ซื้อไปฉีดเองที่บ้านเองได้ก็ดี คนละโดสพร้อมคู่มือการฉีด และเลือกฉีดของยี่ห้ออะไรตามใจคนฉีดด้วย จะได้ไม่ต้องไปรอเสียเวลาตอนรอฉีด และเสี่ยงติดเชื้อน้อยลงด้วย
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ไม่ใช่ว่าต้องใช้ความชำนาญเพื่อให้สูญเสียยาน้อยที่สุดเพื่อให้ได้ครบโดสเหรอครับ เกิดฉีดเองแบบมั่วๆแล้วได้ไม่ครบโดสนี่แย่เลยนะ
ขวดนึงมัน/ม่ใช่โดสเดียวนะสิ อีกอย่างขั้นตอนการฉีดมันแปปเดียวนะ วัดความดัน คัดกรอง ฉีด นั่งดูอาการ รับบัตรนัด กลับบ้าน
ยาขวดหนึ่งมันฉีดได้มากกว่า 1 โดส แถมการฉีดยา ถ้าเดินยาไม่ดีก็ปวด ปักลึกก็เส้นประสาทอีก
I need healing.
ฉีดวัคซีนมันไม่ใช่ใครฉีดก็ได้นะครับ เอาแค่ดรอว์ยาออกมาจากขวดก็ต้องใช้ความชำนาญแล้วครับเพราะยามันข้น ดึงยาก
ผมอยู๋ทีม จะอะไรก็ได้ มาฉีดให้กุก๊อนน 555
จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ฉีด บ้าบอที่สุด