Apple อัพเดต AirTag อุปกรณ์บลูทูธขนาดเล็กสำหรับติดตามตำแหน่งอุปกรณ์ ลดระยะเวลาในการแยกตัวอุปกรณ์และเจ้าของออกจากกันโดยไม่ส่งเสียงเตือน จาก 3 วันเป็นสุ่มเวลาได้ระหว่าง 8 ถึง 24 ชั่วโมง ป้องกันการนำ AirTag ไปใช้ในทางที่ผิด อย่างการติดตามคนอื่นโดยที่เขาไม่รู้ตัว
นอกจากนี้ Apple จะพัฒนาแอป Android เพื่อตรวจจับอุปกรณ์ที่อาจมาติดตามเราที่โดยที่เราไม่รู้ตัว ไม่ใช่แอปที่ออกแบบมาเพื่อควบคุม AirTag เต็มตัว แต่เป็นการสแกนหาอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ถ้าเจ้าของ AirTag ตั้งค่าดัดแปลงไม่ให้อุปกรณ์ส่งเสียง Apple จะมีมาตรการรองรับเรื่องนี้อย่างไร ก่อนหน้านี้ก็มีการเตือนจาก Lukasz Krol นักวิจัยความปลอดภัย ว่าตัวอุปกรณ์เปิดช่องการกระทำผิดอย่างการนำ AirTag ไปวางตามจุดที่ไม่มีอุปกรณ์ iOS บนเครือข่าย Find My อื่น ทำให้คนร้ายรับรู้ได้ว่าเจ้าของบ้าน (ที่ใช้ iPhone) ออกจากบ้านและกลับบ้านเวลาใดบ้าง
ที่มา - Engadget
Comments
AirTags > AirTag
"นอกจากนี้ Apple จะพัฒนาแอป Android เพื่อตรวจจับอุปกรณ์ที่อาจมาติดตามเราที่โดยที่เราไม่รู้ตัว"
เป็นนัยย์ๆ ว่า ถ้าไม่อยากโดนคนแอบเอา AirTags มาตามตัว ก็จงลงแอพนี้ซะ(เพื่อ Apple จะได้ไว้ใช้เป็นเครือข่าย Find My ด้วยสินะ)
คิดยากไปมั้ย - เปิดแอพ Find my แล้วเลือก Airtag อันไหนก็ให้อันนั้นร้องเลย ไม่ต้องสั่งให้ส่งเสียง ถ้าอยู่หน้ารวมอุปกรณ์ก็อย่าไปแสดงตำแหน่ง
อันนี้คือ มันเป็นกรณีใช้เพื่อติดตามคนอื่น หรือเช็คว่าเป้าหมายอยู่บ้านไหมน่ะครับ
สมมติว่าเราต้องการติดตาม stalk ดาราสักคน เราสามารถแอบเอา airtag ของเราโยนใส่กระเป๋าเขาได้ แล้วเราก็เปิดเช็ค airtag ตัวนั้น ก็จะรู้หมดว่าไปไหนบ้าง แล้วก็จะเดาได้ว่าบ้านอยู่ไหน
หรืออีกกรณี คุณเป็นมิจฉาชีพ ที่เข้าไปบ้านเหยื่อได้ เช่นอาจจะปลอมเป็นช่างแอร์เข้าไป
คุณก็วาง airtag ไว้สักที่ในบ้าน ไม่ให้เจ้าของบ้านรู้
จากนั้นคุณก็หาตำแหน่ง airtag ใน find my ถ้าหาเจอ แสดงว่าเจ้าของบ้านอยู่บ้าน หรือถ้าเจ้าของบ้านออกจากบ้านไปแล้ว ระบบมันก็จะบอกว่า update ล่าสุดเมื่อไหร่ ก็จะเดาเวลาที่เจ้าของบ้านอยู่บ้านได้
แต่เคสนี้ ถ้าบ้านนั้นๆ มี apple tv, homepod หรือมีอุปกรณ์ ios ในบ้าน จะใช้ไม่ได้ครับ เพราะมันจะเจอตลอด
คือเคสนี้เจ้าของไม่อยากให้ดัง แต่ apple อยากให้มันดังเองให้คนที่โดนติดตาม (ซึ่งไม่ใช่เจ้าของ airtag) รู้ตัวครับ
เลยต้องทำให้มันดังเอง ถ้า behavior มันไปตรงกับลักษณะเหล่านี้
แต่ปัญหาต่อมาคือมันแงะลำโพงออกง่ายมากเนี่ยแหละ
เหมือนสร้างอุปกรณ์มาแล้วคิดไม่ครบเรื่อง Privacy แล้วมาตามแก้ปัญหากันทีหลัง
รอบริษัทจีนทำเวอร์ชั่นแอบสะกดรอยตามโดยไม่รู้ตัว
เปล่าประโยชน์เพราะมันแงะลำโพงออกได้ง่ายๆ เลย = =
เดี๋ยวคงอัพเดทให้เช็คอุปกรณ์ว่าครบวงจรไหมขาดอะไรไปหยุดทำงาน วินๆ
ขดลวดยังอยู่แม่เหล็กหายนี่ยังเช็คได้ใช่ไหมครับ
แต่เดิมใช้ 3 วันเลยเหรอ เพิ่งรู้
Test in Production
แต่จริงๆ ปัญหานี้มันก็ applied ได้กับอุปกรณ์จำพวก tile ทั้งหมดนะครับ
คือไม่ใช่ apple ลืมคิด แต่มันน่าจะไม่มีใครเคยคิดมาก่อน
ติดตรงที่ว่า apple มันกระทบเยอะสุด เพราะอุปกรณ์ ios ทั้งหมดมันเยอะเนี่ยแหละ
ของ samsung ก็ต้องเป็นโทรศัพท์ samsung
ของ tile ก็ต้องลง app tile
เห็นด้วยเลยครับ ทำไมเจ้าอื่นไม่มีข่าวบ้างนะ
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
+1 มันเป็นปัญหาเพราะคนใช้เยอะนี่แหละครับ 55
ไม่จริ๊งงง แอปเปิ้ลส่วนแบ่งการตลาดไม่เยอะหรอกกก (ทำน้ำเสียงHater)
เจ้าอื่นไม่มีเครือข่าย Find My หรือเทียบเท่า (หรือมี?)
ใกล้เคียงบ้างคือ SmartThings Find ขนาดเครือข่ายก็เล็กกว่ามากเพราะเป็น opt-in แอปเปิลเปิดบริการ Find My กับอุปกรณ์อื่นๆ ที่ราคาสูงกว่าและใช้แบตยากกว่า AirTag มาก่อนแล้วทำให้เครื่องที่เปิดรับ Find My มีจำนวนมากกว่ามาก
lewcpe.com, @wasonliw
อูยดีเลย สั่งไปตอนเปิดตัววันแรก ใกล้จะได้มาลองละ
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
จริง ๆ ถ้าเจ้าของ เปิดดูแล้วไม่ไปเก็บ ภายในระยะเวลา ก็ให้ส่งเสียงเลยก็ได้
เพราะเปิดดูแล้วไม่ไปเก็บแสดงว่าเจตนา stalker