ไมโครซอฟท์ในอดีตเป็นศัตรูกับโลกโอเพนซอร์สมายาวนาน แต่ท่าทีของไมโครซอฟท์ช่วงหลังก็เปลี่ยนไปมาก ในปี 2019 เราเห็นข้อตกลงช็อกโลกอย่าง ไมโครซอฟท์ช่วย Red Hat ขาย OpenShift บน Azure รวมถึงการออก SQL Server บนลินุกซ์ เป็นต้น
สัปดาห์ที่ผ่านมา Red Hat ออกมาเล่าตัวอย่างความสำเร็จของความร่วมมือนี้ โดยลูกค้าคือบริษัทลอจิสติกส์ Andreani Logistics Group จากอเมริกาใต้ ที่เจอปัญหาดีมานด์พุ่งสูงขึ้นมาจาก COVID-19 จึงหาวิธีสเกลระบบไอทีของตัวเอง และลงเอยด้วยการเลือกใช้ Red Hat OpenShift รันบน Microsoft Azure
Andreani เป็นลูกค้าของทั้ง OpenShift และ Azure อยู่ก่อนแล้ว แต่แยกโครงการกัน เมื่อทั้งสองบริษัทจับมือกันออกโซลุชัน ทำให้ Andreani ตัดสินใจย้ายระบบจาก OpenShift แบบ on-premise มารันบน Azure Red Hat OpenShift ได้ไม่ยากนัก ผลของการย้ายคือรองรับโหลดที่เพิ่มขึ้นได้ดีขึ้น และการเพิ่มคลัสเตอร์ใหม่ใช้เวลาน้อยลงมาก จาก 3-4 สัปดาห์แบบ on-premise มาเหลือเพียง 1 ชั่วโมงบนคลาวด์
ความร่วมมือของ Red Hat กับ Azure ยังสะท้อนให้เห็นยุทธศาสตร์ของ Red Hat ที่ปัจจุบันเป็นบริษัทลูกของ IBM แต่ก็สามารถเลือกจับมือกับพาร์ทเนอร์ที่เป็นคู่แข่งของ IBM ได้ด้วย ในขณะที่ IBM ยุคใหม่จะใช้เทคโนโลยีของ Red Hat เป็นแกนกลาง แล้วเพิ่มซอฟต์แวร์หรือบริการของตัวเองเข้ามา
ที่มา - Red Hat
Comments
IBM ธุรกิจใหญ่ยักษ์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเหมือน Nokia แต่สามารถปรับตัวไปตามเทรนด์และนำเทรนด์ได้ น่าจะยากที่จะลงเอยแบบ Nokia
อ่านหัวข่าวตอนแรกนึกว่า เรารักกัน กับ เราชนะ เขาใช้ Red Hat กับ Azure 555
ผมก็เข้าใจแบบนั้น โดนดักเข้ามา
เช่นกัน
โดนเหมือนกันเลยครับ 555
เหมือนกันครับ
+1
A smooth sea never made a skillful sailor.
บวกไปเรื่อยๆ จนกว่าจะตัน
+1 คือคัดมาดีมาก
มารายงานตัวครับผม
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
มาอ่านเพราะเข้าใจแบบนี้เหมือนกัน555
นั่งอ่านอยู่หลายรอบมากๆว่ามันมีเนื้อข่าวตรงไหนเกี่ยวกับโครงการ สุดท้ายก็เก็ท ยินดีด้วยคุณได้รับหญ้า 5 เอเคอร์ 555
เจอดักควาย
เข้ามารับหญ้าด้วย
:-)
นอกจากเก่งเรื่อง Technical แล้ว วิสัยทัศน์ของผู้บริหาร Red Hat นี่กินขาดจริงๆ
..: เรื่อยไป
เรารักกัน เราชนะ ไม่มีอะไรเกี่ยวกับข่าวนี้