แอปเปิลได้ปรับลดราคาแผนรับประกันเพิ่มเติม AppleCare+ สำหรับ MacBook Air และ MacBook Pro 13 นิ้ว ที่ใช้ชิป M1 โดยเงื่อนไขต่าง ๆ เหมือนเดิม
ราคา AppleCare+ ใหม่ของ MacBook Air อยู่ที่ 5,900 บาท (เดิม 8,500 บาท) และ MacBook Pro 13 นิ้ว ชิป M1 ราคา 8,500 บาท (เดิม 9,500 บาท) มีข้อสังเกตว่าราคา MacBook Pro 13 นิ้ว ซีพียู Intel ยังคงราคาเดิมที่ 9,500 บาท
ลูกค้าที่เพิ่งซื้อ AppleCare+ สำหรับ MacBook สองรุ่นนี้ไป สามารถติดต่อฝ่ายสนับสนุนเพื่อขอยกเลิกแผนเดิม และซื้อแผนรับประกันใหม่ที่ราคาถูกลงได้ แต่ไม่มีรายละเอียดว่าครอบคลุมกรณีนี้ถึงการซื้อวันไหน
แผนคุ้มครอง AppleCare+ จะขยายระยะเวลาคุ้มครองเพิ่มเป็น 3 ปี และเพิ่มความคุ้มครองในกรณีเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุสูงสุด 2 ครั้ง แต่ละครั้งมีค่าธรรมเนียมการให้บริการ 3,300 บาท กรณีเป็นความเสียหายกับหน้าจอหรือตัวเครื่องภายนอก หรือ 10,000 บาท สำหรับความเสียหายอื่น
ที่มา: MacRumors
Comments
สมัยก่อนนี่แพงเพราะintelรึเปล่าเนี่ย
ถถถ
อยากให้มีแบบต่อไปเรื่อยๆได้จัง
แมค intel นี่มันเครื่องลวกไข่ของแท้เลย(แต่ win กลับเย็น) ไม่แปลกถ้าการ์ดจอในตัวจะไหม้
ผมใช้ early 2015 อยู่ ไม่ร้อนเท่าไหร่นะครับ แค่รู้สึกว่าพัดลมมันทำงานช้าไปหน่อย ได้โหลด Mac fan control มาช่วย
แต่พวกรุ่น ที่เป็นพอร์ต Type C เป็นต้นมานี่ ร้อนนรกจริงๆ ไปแตะเครื่องโชว์นี่ร้อนยังกับเตารีด ทั้งๆที่อยู่ในห้องแอร์
ผมก็ใช้ mac fan control ช่วย
ผมแอบคิดว่า os มันทำอะไรให้ข้าป่าวหว่า เพราะเอามาลง windows ทุกอย่างก็ดูเร็วขึ้น
ผมยังต้องใข้แมค เพราะยังหากินกับการเขียนแอป ไม่งั้นก็คงเลิกซื้อไปนานละ แต่ก่อนแมคดีนะเดี๋ยวนี้ยังไงไม่รู้
ทำเครื่องเก่าช้า ส่วน M1 งานที่ผมทำอยู่ก็ยังใช้ไม่ได้ในทางตรง ต่อให้ใช้ได้ก็แรมแค่ 16GB รู้สึกไม่ปลอดภัยอยู่ดี อยากได้ 64++
MacBook Pro 2018 ผมร้อนนรกเลยเวลาเปิดหลายๆโปรแกรมผมรอดูอยู่เนี้ยว่าปีนี้ตัวใหม่มันจะโอเคไมพร้อมเปลี่ยนตั้งแต่ M1 แล้วเพียงแต่ ครึ่งๆกลางๆ Pro ยังไงๆก็ไม่รู้เลยทนๆใช้ไปก่อน
ก็อาจมีส่วน แต่ผมว่า Apple เหมือนจงใจทำให้ซ่อมยากเองด้วยนะ
แสดงว่าสมมติผมซื้อ apple care plus ให้ mac pro m1 ของผม
ถ้าผมเผลอทำเครื่องตก จอแตกไรงี้
ก็จะต้องเสียตังค่าบริการเปลี่ยน 3300
รวมเป็นเงินที่ต้องจ่ายทั้งหมดประมาณ 12k งี้ใช่ไหมครับ
มันคุ้มจริงไหม?
ถ้ามันตกจริง ๆ แล้วอยากซ่อม ร้านข้างนอก จะประมาณ 16000 นะครับ ถ้าซ่อมศูนย์แล้วราคา 12000 ผมว่าก็น่าจะคุ้มครับ แต่อย่าลืมว่า 8500 นี่คือรวมอย่างอื่นด้วย ซึ่งบางอย่างอาจจะไม่เสียค่าใช้จ่ายเลยด้วยซ้ำครับ เช่น แบต เมนบอร์ด และความเทพของ Apple Care + นี่ลองเสริชหาดูได้ครับ การรับประกันนี่คือที่สุดจริง ๆ มันไม่ใช่แค่ซ่อม มันคือการรับประกันว่าคุณจะพึงพอใจในสินค้าของเค้าด้วยครับ
เคยมีคนรีวิวไว้คนนึง เค้ามี Macbook Pro 2012 15" แล้วมี Apple Care+ แล้วมันเสีย เค้าส่งไปที่ศูนย์ ศูนย์ไม่มีอะไหล่ เค้าเลย ขออนุญาตลูกค้า เปลี่ยนเป็นตัว MBP Retina 15" ให้แทน ตอนส่งมา ยังส่ง External DVD ของ ของแมคมาให้ด้วย ด้วยเหตุผลที่ว่า ของเดิมมันมีช่อง DVD แต่ของใหม่มันไม่มี
อย่างนี้เรียกคุ้มมั้ยครับ 555
ผมไม่เห็นได้แบบนี้มั่ง
ที่ต้องเข้าศูนย์ก็มี
คีย์บอร์ดพังบางทีเข้าไปเปลี่ยนได้ถึงอาการจะไม่ชัดเจนก็เปลี่ยนนะครับผมเปลี่ยนมาและ
+1 ของ Apple มันแพงจริงแต่เรื่องประกันนี่ไว้ใจได้สุดๆ ประทับใจตั้งแต่กดสั่งของ (ทางเว็บ) มาเลย
ของ apple มันเสียง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ
ช่วงหลัง ๆ นี่ ที่เห็นก็
เสียยากครับ แต่เสียแล้วจ่ายแพง
ดวงด้วยครับผม MacBook Air 2014 ทุกวันนี้ยังไม่เคยซ่อมเลยเปลี่ยนแค่ แบตเตอรี่ ไปรอบเดียวเอง
เสียไม่ง่าย แต่ถ้าเสียก็จ่ายหนักอยู่
ก่อนหน้านั้นประมาณสัก 2-4 ปีที่แล้วใช่ครับ มันจะเสียแบบที่ Laptop เครื่องอื่นไม่เป็นกัน
- Keyboard
- จอ Stage light
MBP เคยเป็นทั้งคู่ตอนใกล้หมดประกันปีแรก เลยต้องซื้อ Apple Care ที่ราคาแพงมาก
เพื่อไม่ให้ต้องซื้อเครื่องใหม่ที่แพงกว่าหากเกิดอาการอีก
เพราะเสียนอกประกันคือ ซื้อใหม่
ในโลกนี้คงมี Laptop ไม่กี่รุ่นที่ทำแบบนี้ได้ ส่วนปัจจุบันปัญหาน่าจะลดลง
ถ้าเอาชัวร์ก็ Mac Mini ไม่น่ามีอะไรให้เสีย
แบตบวม ผมโดนศูนย์เรียกไป 24,000 เพราะร้านบอกว่าต้องเปลี่ยนยกแผงทั้งหน้าเครื่อง รวมถึง touch pad ที่อาจจะเสี่ยงว่าโก่งเพราะอาการบวมจากแบตด้วย ผมฟังเสร็จเดินออกไปหาร้านนอก หมดไป 2000 เศษๆ เพราะต้องการแค่เปลี่ยนแบตอย่างเดียวจริงๆ จึงจะใช้ของแพงแต่เจอราคาขนาดนี้ก็สู้ไม่ไหวอยู่นะ แต่ถ้ามี AppleCare ก็ฟรีไปเลย
คือซ่อมกะ Apple ไม่มีอะไรถูกครับเพราะบางอย่างไม่ได้เปลี่ยนเฉพาะชิ้นๆนั้นพี่เล่นเปลี่ยนยกชุดเลย
ศูนย์หรือร้านไหนครับ?
ปรกติ Apple คิดค่าเปลี่ยนแค่จุดที่มีปัญหานะ ส่วนที่ได้รับผลกระทบจะเปลี่ยนให้ Free
ตัวอย่างเช่น
MBPr 13" Early 2015 "Battery Service Recommended" หรือบวมเลย
ถ้าไปถาม AASP จะคิด ฿12,000 โดยแยกเป็นค่า Battery ฿7,500 กับ Keyboard อีก ฿3,000 ค่าบริการ ฿1,500
ถ้าไปถาม Apple Store จะประเมิณราคามาแค่ ฿7,500 และ Inform เพิ่มเติมว่า Keyboard, และ Body Frame ส่วนข้าง และส่วนบนที่อยู่ใกล้กับ Keyboard จะถูกเปลี่ยนไปด้วย
และสุดท้าย พอส่งไป Service กลับมา ก็อาจจะพบว่า ไม่เสียค่าใช้จ่าย เพราะ Battery อยู่ใน Defect List
MacBook Pro 13 นิ้วรุ่นปี 2018 ของผมแบตบวมจนฝาล่างโก่ง วางแล้วมีมุมกระดก ทัชแพดก็โก่งจนกดยาก
เอาไป icon siam สรุปเปลี่ยนแบต+ฝาท็อป+คีย์บอร์ด+ทัชแพดเพราะมันติดกันหมด เหลือแค่จอ แผงวงจรและฝาล่าง เบ็ดเสร็จเป็นค่าแบตเตอรี่ 7009 บาท คีย์บอร์+ทัชแพด+ฝาท็อป 0 บาท ค่าแรง 2900 บาท ยังไม่รวมภาษี แต่ซื้อ apple care ไว้เลยไม่ต้องจ่ายทั้งหมด
อันนี้เดาว่าเป็น iCare ไหมครับ
ถ้าเข้า Apple Store คือดีมากครับ ไอแพดกับ Watch ผมหมดประกันแล้ว ไม่มี Care+ ด้วย
ใช้ๆไปแบตบวมทั้ง 2 ตัว จ่ายค่าแบตอย่างเดียว ได้เครื่องใหม่ทั้งคู่กลับบ้านเลยครับ
ไม่เข้าใจทำไมไม่ทำมาตรฐานเดียวกัน
อย่างเราไอโฟนฝาหลังแตก นี่คือให้เปลี่ยนเครื่องอย่างเดียว
ไปส่ง icon siam เขาก็แค่เปลี่ยนแบตให้แต่ บอกล่วงหน้าว่าแตกเพิ่มจะไม่รับผิดชอบเฉยๆ
ส่วน ipad เท่าที่ถามจาก ศูนย์ iCare ipad แบตเสื่อม เปลี่ยนเครื่องใหม่ ราคาเปลี่ยนแบตเหมือนกัน (แต่ค่าแบตก็แพงระดับนึง) แต่ถ้าจอแตก+แบตเสื่อม คิดราคาเปลี่ยนเครื่องใหม่
iS… แห่งหนึ่งครับเป็น AASP ด้วย ไม่รู้ว่าเพราะผมใช้ตัวท๊อปด้วยรึเปล่า ซื้อมาราคาเหยียบแสนได้ แบตบวมแต่พี่แกจะเล่นเปลี่ยนให้ทั้ง top case เลย มันก็.. อิหยังวะ ?
ผมเคลม iCare ก็เปลี่ยนให้หมดเลยนะครับแบตเสื่อมนิดๆ ทั้งแบต คีย์บอร์ด =0= มันติดกัน ไปเปลี่ยนแค่จอเค้าเข็คใหม่หมดเลย เปลี่ยนไปเกือบหมด
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
MacBook Air ดูคุ้มยิ่งกว่าเดิมอีก ประสิทธิภาพพอๆ กัน ต่าแค่ touch bar
ตัว MacBook Pro 2017 ก็พึ่งไปเปลี่ยน Keyboard ได้เปลี่ยนฟรีทั้ง Top Case เพราะ Replacement Program เลย
ไม่เสียเงินด้วย Apple Care หมดไปละ
ต้องซื้อหลังซื้อเครื่อง 60 วัน ตอนนี้ก็เกินเวลามาแล้ว จะกลับไปซื้อก็ไม่ได้แล้วสินะ
ซื้อที่ icare / พวกร้านตัวแทน ได้ 365 หลังซื้อเครื่อง
ได้ยินบ่อยๆ แมคแพง แต่สเปคแมค พีซีไม่มี คีย์บอร์ดอลูมิเนียม CNC ตัวถังก็ CNC ทุกรุ่น กราวน์นิ่งกว่าตัวถังอลูพับ พีซีตัดเพลงแล้วมันไม่สงัด ใช้แมคไม่ต้องซื้อแอนตี้ไวรัสรายปี ไม่ต้องจ่ายเพิ่มค่า OS ไม่ต้องเสียเวลาอัพเกรด ไม่ต้องเข้าเวปหาสเปคชิปเซตสเปคการ์ดจอเป็นวันๆ ซื้อแล้วใช้ยาวๆ 5 ปี ซื้อใหม่อีกรอบ
+1 ครับ
ตอนซื้อก็ว่ามันแพงจัง แต่ 7 ปีแล้วยังใช้ทำงานอยู่เลย ทำตกมุมเครื่องยุบแถมแกนฝาพับหลังร้าวตั้งแต่ปีแรกๆ ทุกวันนี้ยังใช้ได้ปกติเฉย
ควรซื้อไว้ หรือทำใจซื้อไว้เถอะครับ แบตบวมที เปลี่ยนหลายชิ้นไม่ใช่แค่แบต
ถ้าเป็นเครื่องมือทำมาหากินด้วยแล้ว ก็คิดซะว่ามันคือต้นทุนอย่างนึง
หลังๆอุปกรณ์ของ apple ร้านข้างนอกจะซ่อมกันไม่ได้อยู่แล้ว
มันออกแบบมา เฉพาะเลย แกะแล้วพัง