เป็นอีกความไม่เห็นตรงกันระหว่างสายภาพยนตร์เก่ากับสตรีมมิ่ง เมื่อ Thierry Fremaux ประธานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ของฝรั่งเศส ในระหว่างสัมภาษณ์กับนักข่าวก่อนเปิดงาน มีการพูดคุยประเด็นหนังสตรีมมิ่ง โดย Fremaux ชื่นชมผลงาน Netflix หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น Mank และ The Irishman จนนักข่าวขอให้เขายกตัวอย่างชื่อผู้กำกับหน้าใหม่ฝีมือดีจากสตรีมมิ่ง ซึ่งเขามองว่า ไม่มีเลยสักคนในช่วงสิบปีมานี้
เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์บอยคอต Netflix มาตั้งแต่ปี 2018 โดยหนังของ Netflix จะไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมประกวดใดๆ เว้นเสียแต่นำภาพยนตร์มาฉายบนจอใหญ่ในฝรั่งเศส หากอยากแข่งขันเพื่อชิงรางวัล Palme d'Or (รางวัลสูงสุดในการประกวดภาพยนตร์ของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์)
Fremaux บอกด้วยว่า ความเป็นมาของเทศกาลหนังเมืองคานส์ ดำเนินมาถึงปีที่ 125 แล้ว ภารกิจของเทศกาลคือการค้นพบผลงานใหม่ๆ ส่วน Netflix ก็พยายามทำผลงานด้วยการดึงตัวผู้กำกับดังๆ มาร่วมงาน เขาจึงไม่มั่นใจว่า Netflix หรือสตรีมมิ่งอื่นๆ จะสามารถก้าวข้ามเทศกาลหนังเมืองคานส์ไปได้
ความสัมพันธ์ระหว่างเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์และ Netflix เริ่มไม่สู้ดีมาตั้งแต่ปี 2017 เมื่อคนในธุรกิจโรงหนังประท้วงเรื่องการรวมหนังจาก Netflix เข้ามาในการประกวดด้วย ทำให้ทางเทศกาลเปลี่ยนกฎและ Netflix ถอนหนังออกจากการประกวด 3 เรื่อง
ปัจจุบัน Amazon ยอมทำตามกฎของเทศกาล ส่งหนังเจ้าประกวดในปีนี้ 2 เรื่อง แต่ Netflix ยังไม่ยอมทำตามกฎ เพราะมองว่าเข้มงวดเกินไป ด้านเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ประจำปี 2021 เริ่มต้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 6-17 ก.ค.นี้
ภาพจาก Festival de Cannes
ที่มา - The Strait Times, Variety
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
- สงคราม AI 2024: OpenAI ชิงปาดหน้า Google วันเดียว | Cloudnone EP.17
Comments
บางอย่างมันก็แค่รางวัล ซึ่งเป็นเกียติแก่คนที่เขาอยากได้ และรู้สึกว่า Netflix ก็ไม่ได้จะแคร์สักเท่าไร ก็ทำหนังขายในที่ของตัวเองต่อไป และส่วนใหญ่ก็เป็นหนังตลาดด้วย ซึ่งหนังตลาดกับคานส์ ก็ไม่ค่อยเข้ากันเท่าไร 5555
The Dream hacker..
หนัง Netflix ห่วยหลายเรื่องอยู่
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
นับเรื่องดีน่าจะง่ายกว่านะครับ
บางเรื่องเหมือนมีกระแส ผมยังไม่เข้าใจว่า ทำไมเป็นกระแสได้ด้วยซ้ำ -.-
เพจตัวอย่างผลงานถ่ายภาพ / วีดีโอ
หนังโรงห่วยก็เยอะครับ แต่เราจะนับจากจำนวนที่ห่วยจริงๆ เหรอ
หนัง Netflix เรื่องไหนที่คิดว่าพอจะประกวดได้ครับ ช่วยยกตัวอย่าง
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
The Irisman
Roma
Marriage Story
The Two Popes
น่าจะไหวนะครับ
ได้อยู่ครับ
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
ย้อนไปสักห้าปีก่อน ประโยคนั้นคงเป็นทั้งคำถามและเป็นคำประชดได้ไปในตัว แต่ถ้ามองมาในปัจจุบันผมมองว่าอ่านแล้วมันเอียงไปทางการเป็นคำถามที่ "ใช้ไม่ได้" นะครับ
ลองดูอันนี้ครับ (ปีนี้แนะนำเรื่อง Mank ครับ)
ขอย้ายมาเสริมคอมเมนต์ด้านบนด้วยว่า คำว่า "น่าจะไหว" ดูถ่อมตัวเกินไปครับ อย่าง Roma นี่ได้รางวัลเยอะจนในวิกิพีเดียต้องทำหน้าแยกรางวัลให้แบบส่วนตัวเลย และเรื่องที่เหลือก็ดีมาก ๆ ทุกเรื่องครับ ผมไม่อยากไปกูเกิลเพื่อรับรองคำพูดตัวเอง แต่เชื่อว่ามีรางวัลติดมือทุกเรื่องแน่นอน หรืออย่างน้อยก็ต้องเข้าชิงที่เทศกาลไหนสักแห่ง
ก็ไม่ได้บอกว่าหนังตลาด = หนังดีนิครับ มีหนังรางวัลคานส์ที่ขายได้ดีๆ สักกี่เรื่องละครับ? แล้วหนังที่ขายดีๆ ได้ในโรงนี่ได้คานส์กี่เรื่องมั้งอะครับ พอดูไม่มีข้อมูล
The Dream hacker..
ต้องถามว่ามีเรื่องไหนไม่ห่วยบ้าง
เอาจริงหนัง Netflix มันเน้นความบันเทิงมากกว่าจะเน้นรางวัล
แต่ความบันเทิงมันยังให้ไม่ได้เลยมั้ง
The Irisman
Roma
Marriage Story
The Two Popes
ลองหาดูครับผมว่าสี่เรื่องนี้ไม่ห่วย ถ้าเอาง่ายๆก็ลองดู Marriage story ก็ได้ครับ
ปล.น่าสนใจกับความเห็นดีครับถ้าจะบอกว่าหนังใน Netflix หาความบันเทิงไม่ได้อยากให้ลองยกตัวอย่างหนัง ที่มอบความบันเทิงให้หน่อยจะได้ไหมครับผมจะได้ไปลองดูบ้าง
ส่งหนังเข้าประกวด ...
หนัง Netflix ให้อิสระผู้กำกับเกินไป
จนหนัง ซีรี่ย์หลายเรื่องโปรดักส์ชั้นดี
การตลาดเยอะ โปรโมทซะอลังการ
แต่ผลออกมานั่งดูภาพแมวคลิปแมวยังบันเทิงกว่า
มันเหมือนให้คนวาดรูปโดยไม่กำหนดว่าวาดอะไร
คนวาดก็วาดไปเรื่อย ว่ดไม่สนใจใคร ก็คิดว่ามันสวย
แล้วจะทำไม หนังที่ดีหลายเรื่องมันมีองค์ประกอบของมันอยู่
ปกติค่ายหนังจะคอยกำกับดูแลเรื่องนี้ แต่ Netflix ปล่อย
ผทว่าผมเห็นด้วย มันดูอิสระแบบไม่มีคุมคุณภาพภาพ รายละเอียดเล็กๆน้อยนี่หลุดตลอด ดูไปลุ้นไป
เห็นด้วยครับ แรกๆมองผ่านเพราะรู้สึกว่าอย่างน้อยก็เป็นพื้นที่ให้คนหน้าใหม่ๆเอางานมาลงบ้าง ได้ดูอะไรแปลกๆใหม่ๆก็ดี แต่ยังไงมันก็เนี้ยบไม่เท่าหนังฉายในโรง
แต่พอหลังๆมานี่ แม้แต่งานที่ได้ผู้กำกับใหญ่ๆมาทำมันก็ยังมีแผลเดิมๆ หนังไม่เนี้ยบ คุมเรื่องไม่อยู่ มองมาที่หนังไทยเลยก็ได้ ค่าย GDH ปกติทำซีรี่เนี้ยบๆดีๆตลอด พอมาทำ Ghost Lab ให้ Netflix กลายเป็นซีรี่เกรด B ไปเลย
หนังโรงเกรด b ก็มีเยอะเหมือนกัน เพียงแต่เขาไม่อยากนับรวมนะแหละ Netflix มันก็มีและไม่ดีปนกันไป อย่าง Space sweeper นี่ production ดูอินเตอร์มากกกจนแทบไม่น่าเชื่อว่างานผกก.เอเชีย นี่ยังไม่นับซีรี่ส์น้ำดีอย่าง The crown นะ Bird box ก็ดี cinematography เอย มุมกล้องเอย เทคนิคการถ่ายทำ คือเข้าขั้นดีมากเลยครับ แต่ก็อย่างว่าแหละ คนจะกีดก็กีด เขาพยายามรักษา section ระหว่างหนังโรงกับหนัง streaming ไว้ ถ้าเอามารวมกันเมื่อไร ตลาดหนังโรงคงเละ
Bird box สำหรับผมนี่ ไม่คิดจะแนะนำใครเลยครับ ไม่ได้แย่นะแต่ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไร ทั้งขับรถ พายเรือ กลุ่มคนที่ไม่มีผลอะไรอีก แต่งาน production ก็ดีอยู่นะ
ปล. งงกะเนื้อเรื่องหลักด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น
หนังแย่มีเยอะ
แต่ Netflix มันเป็นเหมือน ตลาดที่ทำให้ ผู้กำกับรายเล็กมีที่เอาหนังมาลงฉายนะ
จากประสบการณ์การ์ตูน ova หนักมากมาตั้งแต่ยุค 80s-90s-2000-2010 ไล่ย้อนกลับไปถึง การ์ตูนยุคขาวดำพบว่า
หนังดี เอากล่อง ผู้กำกับกราบไหว้ บูชา คือ หนังที่ดูแล้วโครตน่าเบื่อ ดูแล้วยังไม่อิน ฉายโรงแล้วเจ๊งรุนแรง จนค่อย ๆ มาเก็บรายได้เอากับม้วน VDO หรือแผ่น LD, DVD เพราะคนมาหาดูภายหลัง
ยกตัวอย่าง ค่ายหนึ่งที่เป็นตัวอย่างที่ชัดมาก อย่าง Anastasia ของ FOX Animation (หาดูได้ทาง Disney+) นิทานฝั่งยุโรป มีเป็นหมื่นแสน ไม่ทำ สร้างเรื่องใหม่เลย target เป็นเด็กก็ไม่ใช่ ผู้ใหญ่ก็ไม่ใช่ วัยรุ่นก็ไม่ดู สินค้าก็ไม่มีขาย ทำเหมือนเจาะจงเอากล่อง ฉายโรงก็เจ๊งไปตามระเบียบ แต่หนังกับเพลง Classic ข้ามการเวลามาก
หรือ ระดับขึ้นหิ้งแฟนเดนตาย แต่เจ๊งรุนแรงระดับปิดบริษัท อย่าง Titan AE ที่ Treasure Planet ของ Disney ที่ออกตามหลังมาสองปี ทำหนังกลิ่นอายคล้ายๆ กัน งานได้กล่อง แต่รายได้เจ๊งตามไปด้วย
เพราะงั้น ถ้าได้ รางวัลภาพยนตร์เมืองคานส์แล้วเป็นหนังที่ไม่ทำเงินอยู่แล้ว big name อย่าง Titanic หรือ Avata บอกเลย ติสแตก
เรื่อง "เคว้ง" โปรโมตอลังการมาก
เนื้อเรื่องออกทะเลซะงั้น ไม่ค่อยประทับใจ
เหมือนเดินเข้าร้านเช่าหนัง เจอหนังดีก็ดีไป แต่ส่วนใหญ่เจอแบบอะไรก็ไม่รู้