จากประเด็นกระทรวงดิอี ออกโรงขู่ดาราที่โพสต์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลในช่วงนี้ ล่าสุด นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ อดีตบอร์ดกสทช. โพสต์ทวิตเตอร์ถึงกระทรวงดีอี และ กสทช. ว่า สิ่งที่ควรเน้นเป็นวาระแห่งชาติขณะนี้คือผลักดัน #Broadband for All หาเน็ตและอุปกรณ์ให้เด็กๆเรียนออนไลน์ 100% ไม่ใช่คอยเป็น censorship machine
นางสาวสุภิญญาระบุต่อว่า "เด็กจำนวนมากตกขบวน เรียนไม่ได้ ร้อยละ 72 ของผู้ใช้โทรคมนาคมเป็นแบบเติมเงิน ซึ่งไม่พอที่จะเรียนออนไลน์หลายชั่วโมง ประเทศวิกฤตมากแล้ว ควรช่วยกันอุดรูรั่ว อย่าปล่อยให้ชะตากรรมของเด็กๆถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เด็กส่วนมากเรียนออนไลน์ไม่ได้ เป็นงานของ กสทช และกระทรวงดีอี ต้องจับมือช่วยกันกับภาคเอกชนและกระทรวงศึกษาธิการแก้ปัญหา"
"สิ่งที่ กสทช. และกระทรวงดีอีควรเร่งทำคือ มาตรการเยียวยา ไม่ให้ค่ายมือถือตัดสัญญาณถ้าไม่มีเงินเติมในช่วงนี้ คุยกับเอกชนให้บริการซิมเรียนฟรีร่วมกับกระทรวงศึกษา หรือ ทำบริการบริการไวไฟในพื้นที่ชุมชนที่คนอาศัยแออัดหนาแน่น ช่วยหาอุปกรณ์การเรียน และอื่นๆ สิ่งเหล่านี้เป็นนโยบายสาธารณะ เป็นภารกิจภาครัฐโดยตรงต้องคิดทำเร่งด่วน โดยเฉพาะกระทรวงดีอี และ กสทช ที่มีภารกิจโดยตรง"
ขอ calling กระทรวงดีอี และ กสทช.ว่า วาระแห่งชาติยามนี้ควรเป็นเรื่องผลักดัน #Broadband for All. หาเน็ตและอุปกรณ์ให้เด็กๆเรียนออนไลน์ 100% ไม่ใช่คอยเป็น censorship machine เพราะเด็กจำนวนมากตกขบวนเรียนไม่ได้ ร้อยละ72ของผู้ใช้โทรคมนาคมเป็นแบบเติมเงิน มันไม่พอจะเรียนหลายชั่วโมง pic.twitter.com/I7ST37M7Ry
— Supinya Klangnarong (@supinya) July 21, 2021
ที่มา - สุภิญญา กลางณรงค์
Comments
เล่นทวิตเตอร์มาตั้งนาน ทำไมไม่ใส่ _ ละครับ TT
ผลงานที่ประจักษ์ของกระทรวงนี้ นึกถึงเรื่องอื่นไม่ได้เลย
ขนาดมีคนถามพึงเรื่องตรวจข่าวกับคนของรัฐบาลบ้างยังกลอกตาเลย ..กระทรวงนี้กลวงจริงๆ
ก็เลือกคนเข้ามาแต่ละคน เน้นแต่กะทิเข้มข้น
ไม่หางกะทิก็ห...กะทิแน่ๆ
เด็ก GEN Z คงไม่เชื่อครั้งหนึ่งกระทรวง DE (ICT เดิม) "เคย" เป็นกระทรวงที่พลักดันวงการ IT จริงๆ มาก่อน (ถึงจะสำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้างก็เหอะ)
กลายเป็นกระทรวงเซ็นเซอร์อย่างเป็นทางการ
ไปดูที่สัมภาษณ์กับจอมขวัญตอนคือช๊อตที่บอกว่าฝั่งรัฐบาลไม่มี fake news นี่พูดแบบไม่รู้สึกละอายใจเลย สุดจัดๆ
กระทรวงควรจะมีแผนงานสนับสนุนการเรียนออนไลน์ เช่นจัดซื้อ จัดหาโครงข่ายinternetฟรีให้นักเรียน หรือแจก tablet อะไร หรือทำแอพเรียนออนไลน์แทนให้แต่ละโรงเรียนไปหาแอพvideo callมาใช้ตามมีตามเกิด ยังดูมีคุณค่า กว่ารมต.มาให้สัมภาษณ์ขู่เด็ก ขู่ดารา
บ้านเรานี่ก็แปลก กระทรวงที่ควรจะทันสมัยกลับย้อนไปยุคโบราณ ส่วนกระทรวงที่ดูโบราณอย่างกระทรวงวัฒนธรรม กลับมีบางหน่วยงานที่ดูทันสมัยกว่าด้วยซ้ำ (แต่หน่วยงานที่ทำงานแบบเดิม ๆ ก็ยังมีอยู่)
ฟังคนฝั่งนึงกับอีกฝั่งนี่ เห็นทัศนคติกับวิสัยทัศน์ที่แตกต่างกันชัดเจน
ฝั่งนึงต้องการการพัฒนาและเสนอแนวทางให้ เป็นฝั่งคิดหาวิธีแก้ปัญหาทั้งๆที่ไม่ได้มีอำนาจ อีกฝั่งก็แค่ต้องการปิดบังความบกพร่องของตนเองและอยู่ในอำนาจต่อไป
วินาทีนี้คงไม่ต้องเถียงกันอีกแล้วนะว่าใครเป็นพวกรักชาติ ใครเป็นพวกชังชาติ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ผู้มีอำนาจทำงานไม่เป็นก็แบบนี้
เสนออะไรไปก็ไม่เอา ทำงานถูๆ ไถๆ ไปจนกว่าจะตาย
จากที่ดูๆมา ผลงานหลักของกระทรวงนี้คือไล่ฟ้องชาวบ้านไปทั่ว ไม่มีปัญญาไปพัฒนาดิจิตอลไอทีอะไรหรอก