Mark Gurman นักข่าวจาก Bloomberg ที่มีรายงานข่าวเกี่ยวกับสินค้าใหม่แอปเปิลอย่างต่อเนื่อง ได้ให้ข้อมูลผ่านจดหมายข่าว Power On มีประเด็นสำคัญดังนี้
เรื่องแรกคืองานเปิดตัว iPhone 13 ซึ่งตามรอบปกติจะอยู่ในช่วงเดือนกันยายน เขาระบุว่าแอปเปิลอาจเลือกจัดงานแบบออนไลน์เหมือนกับงานเปิดตัว iPhone 12 ในปีที่แล้ว หากพนักงานส่วนใหญ่ ยังเลือกไม่กลับเข้ามาทำงานในสำนักงาน ซึ่งมีรายงานข่าวก่อนหน้านี้
เมื่อปีที่แล้ว iPhone 12 ก็ได้เลื่อนงานเปิดตัวออกไปเป็นเดือนตุลาคม เนื่องจากการระบาดของโควิด-19
ข้อมูลที่สองเป็นเรื่องโร้ดแมพสินค้าของแอปเปิล Gurman บอกว่าแอปเปิลมีแผนที่จะใช้ Face ID กับทุกสินค้าถ้าหากทำได้ โดยเชื่อว่าแอปเปิลจะทำสำเร็จในไม่กี่ปีข้างหน้า แต่ปัจจุบันยังต้องมี Touch ID ในกลุ่มสินค้า iPhone SE และ iPad รุ่นที่ไม่ใช่ Pro เนื่องจากข้อจำกัดของต้นทุน ส่วน Mac เป็นปัญหาว่าหน้าจอมีขนาดบางเกินไป ไม่สามารถใส่เซ็นเซอร์วัดความลึกในตอนนี้
Comments
มาแทนในช่วงที่เราเปิดหน้ากากกันไม่ค่อยจะได้ซะด้วย...
ตลาดใหญ่ไม่ใส่ mask กันแล้ว ใยจะต้องแคร์ตลาดโลกที่ 3 ด้วย?
?
บ้านเขาไม่ต้องใส่หน้ากากกันแล้วอ่ะเนอะ
เสียดาย น่าจะเอา Touch ID มาใส่ Power Button แบบ iPad Air 4
ถึง Apple Watch จะปลด Lock ได้ก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าจะสวมนาฬิกาปุ๊ป ปลดได้ปั๊ป
มันต้องรออะไรไม่รู้ของมัน ต้องใส่นาฬิกาไปซักพัก ถึงจะปลดได้
เวลาไอแพดมันวางแผ่อยู่บนโต๊ะแล้วจะใช้ มันต้องจับทั้งเครื่องเอียงขึ้นมาดูหน้าเรา ไม่สะดวกเลย
ใช้งานแบบไหนครับถึงไม่จับขึ้นมาดู
วางราบกับโต๊ะหน้าจอคอม
มุมมันปลดล็อคอไม่ได้
ปวดคอครับ!
ชำเลืองก็พอแล้วมั้งครับ ไม่ต้องก้ม :)
ผมซื้อ stand ถูกๆ มาวางแทนครับ สะดวกดีนะ แค่หันไปดูมันก็ปลดล็อคละ
น่าจะทำปุ่ม Power ให้สแกนนิ้วมือได้ แบบของ Xiaomi
บางที หน้าก็สะดวกกว่า เช่น ตอนใส่ถุงมือ หรือ ตอนนิ้วเปียก
บางที นิ้วก็สะดวกกว่า เช่น ตอนใส่ Mask หรือ กล้องไม่ตรงกับหน้า
สรุป ใส่มาทั้งสองอย่างน่าจะเหมาะสุด
+1
sensor ultrasonic เดี๋ยวนี้มันแสกนตอนนิ้วเปียกได้แล้วครับ แต่ apple ไม่ยอมใช้เอง ก็เป็น trade off ที่ต้องเลือกว่า จะใช้ตอนใส่หน้ากากมากกว่า หรือใช้ตอนใส่ถุงมือมากกว่า
Touch ถ้าเข้าฤดูหนาวอย่าเมืองนอก ลำบากกว่า face มากๆนะครับ ต้องสวมถุงมือตลอด จะถอดมา touch ก็ลำบาก แบบ face นี่น่าจะดีสุดแล้ว ต่อให้ใส่ mask ก็ยังมีนาฬิกาคอยช่วยปลดล็อค (ซื้อเพิ่ม ?)
แต่เวลาใช้งานก็ต้องถอดถุงมือมาปัดอยู่ดี ถอดๆ ใส่ๆ ลำบากมากเลย หนาวด้วย แต่ไม่ถอดก็ปัดหน้าจอไม่ได้
ใช้ถุงมือที่ทัชได้ก็ช่วยได้เยอะมากแล้วครับ
ผมว่าถ้าเป็นโซนในเมืองไม่ขนาดนั้นนะครับ?
ถ้าแบบไม่ติดเล่นมือถือขนาดต้องเล่นตลอดเวลา 555
ผมว่า touch ID ที่ปุ่น power แบบ iPad air ก็โอเคนะครับ ถ้าจะเปลี่ยนให้ product ทั้งหมดใช้แบบนี้
ตามปกติของการตลาดของ Apple แหละ ขายของใหม่ว่าดีกว่าแบบนั้นแบบนู้น และตัดของเก่าออกแบบเนียนๆ ทั้งที่มันใส่มาทั้งคู่ได้ (เวลาเราเห็นคนถามว่าทำไมไม่ใส่ A มาในสินค้า Apple ก็เลยมีบางคนมักจะตอบว่าเพราะ B ดีกว่าแทน)
ตอนขาย Face ID ก็ขิงว่าดีกว่า Touch ID ไว้ซะเยอะ จะใส่กลับมาก็คงต้องคิดคำที่จะขายมันใหม่อีกที
ผมว่ามันดีกว่าจริงๆ ครับ ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติ
ผมก็ไม่ได้จะปฏิเสธว่ามันดีกว่าครับ
ถ้ามันดีกว่าแบบเบ็ดเสร็จชนิดที่แทนที่กันได้ 100% ทุกสถานการณ์ก็เรื่องนึง แต่มันไม่ใช่แบบนั้น มันยังมีบางจุดที่แสกนลายนิ้วมือมันยังดีกว่าอยู่ (อย่างที่หลายคนเขาเรียกร้องกัน) และมันก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรที่จะใส่ทั้งสองอย่างไม่ได้ด้วย ผมถึงมองว่าการที่คนถามว่าทำไมถึงไม่ใส่ Touch ID และมีคนตอบว่าเพราะ Face ID ดีกว่าแบบนั้นแบบนี้มันผิดประเด็นไปหน่อยครับ
จากประสบการณ์ที่เปลี่ยนผ่านจากยุค touch ID มา face ID ก็ตามที่ว่ามาเลยครับ ตอนแรกๆ มันก็อาจจะไม่คุ้น แต่พอใช้ไปสักพักรู้สึกว่าเออมันสะดวกกว่า touch ID จริงๆ ซึ่งสุดท้ายมาตายตรง mask จุดนี้เองที่ทำให้กลับไปนึกถึง touch ID และคิดว่าถ้ามีทั้งสองอย่างน่าจะดี
ก็แล้วแต่ทิม
ขอแบบใส่หน้ากากได้ และไม่ต้องใช้ Apple watch ได้ไหม
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว