นักวิจัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พัฒนาหุ่นยนต์ AutoVacc หรือเครื่องแบ่งบรรจุวัคซีนอัตโนมัติ ที่สามารถดึงวัคซีน AstraZeneca ออกจากขวดแก้วได้ 12 โดสภายใน 4 นาที และสามารถดึงปริมาณวัคซีนมาใช้ได้มากกว่าการใช้แรงคน 20% เพิ่มโอกาสการกระจายวัคซีน และลดความเหนื่อยล้าจากการใช้แรงบุคลากร
จุฑามาศ รัตนวราภรณ์ หัวหน้าทีมวิจัยของศูนย์วิจัยวิศวกรรมชีวการแพทย์ของมหาวิทยาลัย กล่าวว่า วัคซีน AstraZeneca หนึ่งขวดบรรจุ 10 โดส หรือฉีดได้ 10 คน แต่ทางบริษัทผู้ผลิตวัคซีนเติมปริมาตรวัคซีนให้เป็น 13 โดส เนื่องจากแต่ละรอบที่บุคลากรต้องดูดวัคซีนขึ้นมาใช้ อาจเกิดการสูญเสียวัคซีน ได้ การพัฒนา AutoVacc ช่วยเพิ่มปริมาณวัคซีน หรือลดโอกาสการสูญเสียวัคซีนไป
กล่าวคือ สามารถดึงวัคซีนจาก 10 โดส ได้เป็น 12 โดสนั่นเอง
ทางทีมวิจัยคาดว่าจะสามารถผลิตหน่วย AutoVacc ได้อีก 20 เครื่องภายใน 3-4 เดือน เครื่องต้นแบบมีราคา 2.5 ล้านบาท และมีแผนจะพัฒนาหุ่นยนต์แบ่งดูดวัคซีน Pfizer-BioNTech ด้วย
รูปภาพหุ่นยนต์ AutoVacc สามารถดูได้ที่แหล่งข่าวต้นทาง
ภาพตัวอย่างวัคซีนของ AstraZeneca จากมหาวิทยาลัย Oxford
ที่มา - Reuters
Comments
ด้วยราคา prototype ระดับนี้แทบจะไม่ feas กับประเทศไทยในเวลาปกติได้เลย แถมกว่าจะทำได้จริงก็อีก 3-4 เดือน mass scale ไปต่างประเทศจริงๆ ก็ยังไม่รู้อีกเมื่อไร คงต้องหาเร่งหาดีลกับประเทศที่ค่าแรงแพง ส่วนระยะสั้นคงต้อง gov/impact funding อย่างเดียว
[S]
อ่านจบมีคำถามหลายอย่างเลย "เครื่องต้นแบบมีราคา 2.5 ล้านบาท" อีก 20 เครื่องที่เหลือราคาเท่าไร ในสถานการณ์แบบนี้ เรามีวัคซีนเพียงพอต่อเครื่องแล้วรึเปล่า หาวัคซีนก่อนดีไหม
ก็เพราะแบบนี้ไงครับเราเลยต้องมี เครื่องตัวนี้มาช่วย รีดวัคซีนอออกมาให้ คุ้มค่าที่สุด
อย่าลืมว่า วัคซีนตอนนี้ไม่ใช่ มีเงินก็๋ซื้อได้นะครับ แต่ ซื้อไปตอนนี้ ต้องรออย่างน้อย 1 - 2 ไตรมาสเขาถึงจะเริ่มส่งมอบได้
วัคซีนมีเงินก็ใช่ว่าจะซื้อได้
แต่อุปกรณ์สามารถผลิตได้ในประเทศได้เลย ดงันนั้นคงจะดีถ้าต้องใช้ทรัพยกรทุกอย่างที่มี
ตัวต้นแบบของงานวิจัยส่วนใหญ่ก็แพงเอาเรื่องอยู่เด้อ
คำถามคือจะเช็ค error ยังไงคือถ้ามีเครื่องมือแล้วคุณต้องมารีเช็คเพื่อฉีดเอง
เอาคนฉีดดีกว่าครับ ผมเดาว่าคงไว้รอใช้พร้อม chulavac หนะหละ
ผมมองในมุมมอง กม. ต่อ ถ้าเครื่องมือดึงผิดพลาดจนมีปัญหา แล้้วแพทย์ฉีดให้คนไข้
ด้วยความพลั้งเผลอกม. จะครอบคลุมถึงการบอกว่าผิดพลาดโดยสุจริตหรือไม่? (อันนี้ต้องคิดนะครับ
ผมว่าลองผิดลองถูกไม่ได้)
จำได้ Grab/line man ช่วงนึงไม่ให้กรอก
ไม่ให้อะไรจะเอา GPS อย่างเดียว พอกดสั่งไรเดอร์ก็ไม่รู้เรื่อง
ต้องโทรถามพี่อยู่ตรงนี้ใช่ไหม? ผมก็ตัดปัญหาไม่สั่งมันไปน่าจะง่ายกว่า
ต่อไปจะตำหนิแล้วนะครับไม่สบายใจก็ข้าม
...........
......
...
..
.
ที่สั่งไฟเซอร์ตั้งแต่ 2-3 เดือนก่อเริ่มทยอยส่งมอบแล้วครับ
แต่ถามว่า มีเงินตอนนี้ซื้อได้ไหม คำตอบคือได้
เอาเงินไปฟาดซื้อวัคซีนที่เค้าเหลือกันมาจาก ตปท. หลายๆประเทศในยุโรปที่จังหวะ
ก่อนหน้านี้เค้าไม่ฉีด AZ ก็มีข่าวโยนทิ้งเยอะ ผมก็ไม่แน่ใจ รมต. ตปท. ตอนนี้มันอะไรยังไง?
ฟังดูไม่รู้จะเหมาะเอามาใช้จริงมั้ย แต่คิดดูแล้วมันก็เพิ่มปริมาณวัคซีนที่ฉีดได้ 20% เลยนะครับ
วิจัยต่อยอดกันไปครับ
ไม่รู้ว่าเครื่องแบบเดียวกันนี้มีในท้องตลาดรึยัง ถ้ามีแล้ว เค้าขายกันอยู่ที่กี่บาท
เดี๋ยวพี่จีนมาดูงาน...
ขวดนึงใช้เวลา 4 นาที..
ลองสมมตินั่งเทียนตัวเลขดู
ชั่วโมงทำการ 8 ชั่วโมง+ดูดเตรียมไว้ล่วงหน้า 3 ชั่วโมง
ดูดได้วันละ 165 ขวด ประหยัดค่าวัคซีนได้วันละ 330 โดส ตีซะว่าโดสละ 150 บาท
ประหยัดค่าวัคซีนได้ห้าหมื่นบาทต่อวัน ใช้สักสองสามเดือนก็น่าจะพอมีลุ้นคืนทุนอยู่
ตอนนี้ให้พยาบาลทำก็ดูดได้ 12 โดสอยู่แล้ว ถ้าใช้เครื่องก็อาจจะช่วยให้เจ้าหน้าที่เหนื่อยน้อยลงนิดหน่อย อาจจะช่วยเรื่องโอกาสผิดพลาดน้อยลง ไม่มีมือสั่น ไม่ทำหลอดตกขณะดูด แต่ความผิดพลาดเหล่านี้เป็นส่วนน้อย
งานดึงวัคซีนใส่เข็มนี่หนักกว่าที่คิดครับ ต้องใช้สมาธิเยอะ มือไม้เกร็งไปหมด ถ้าต้องทำทั้งวันก็เตรียมผ้าล็อคมือไว้เลย ตอนนี้โดสนึงดึงได้ 11 เข็มเต็มที่ เข็มที่ 12 นี่ยากมาก เข็ม low dead space ที่มีตอนนี้ก็คุณภาพต่ำ มันไม่ low dead space จริงๆ ไม่รู้หุ่นในงานวิจัยนี่ใช้เข็มอันไหน
อ้างอิงข้อมูลจากแฟนผมที่เป็นพยาบาลอยู่ศูนย์ฉีดวัคซีนครับ
การใช้เครื่องมือจะทำให้พยาบาลสามารถไปทำอย่างอื่นได้ครับ ไม่ต้องมายืนดูดวัคซีนตลอด
แนวคิดดี แต่ต้นทุนค่อนข้างสูงจนต้องกลับมาคิดว่า คุ้มค่าไหม ถึงจะบอกว่าวัคซีนหายากสั่งแล้วได้ช้า แต่ก็นึกว่าถ้ายอมจ่ายราคาวัคซีนเพิ่มหรือเปลี่ยนไปซื้อตัวอื่นก็อาจจะคุ้มค่ากว่า?
ราคารบ.ไทยจัดซื้อ(ปัดเศษ)
Astrazeneca โดสละ 160 บาท
Pfizer and BioNTech โดสละ 400กว่าบาท(ราคารบ.ไทยจัดซื้อ)
Sinovac โดสละ500บาทนิดๆ
ตอนนี้ตจว.ก็draw Azมาขวดละ 12โดส(จากมาตรฐาน10โดส)อยู่แล้วล่วงหน้าพร้อมฉีด(ฝีมือคนก็ลำบากคนทำล่ะนะ)เพราะส่งมาไม่เคยพอตามที่ขอไปอยู่แล้ว
อีกอย่างข้อจำกัดคือถ้าdrawออกมาแล้วก็ต้องฉีดให้หมดในไม่กี่3-4ชั่วโมง(ระหว่างนั้นต้องใส่ตู้แช่หรือเจลความเย็นรองไว้) ถ้าใช้เครื่องทำ ก็อาจต้องแบบjust in time คือทำต่อเนื่องตามปริมาณคนมาฉีด ถ้าศูนย์ฉีดใหญ่ๆแบบบางซื่อน่าจะคุ้ม แต่ตจว.ไม่น่าทำได้
อีกอย่างอย่าลืมว่า เราทำผิดจากข้อแนะนำของผู้ผลิตนะครับ คือทำไปเพราะเหตุฉุกเฉินขาดแคลนก็พอเข้าใจ แต่จะทำเป็นล่ำเป็นสันอย่างเป็นทางการมันก็อาจจะไม่ใช้ทางแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุหรือเปล่าฦ