Keiji Yamamoto ผู้บริหารฝ่ายเชื่อมต่อผลิตภัณฑ์ (Chief Product Integration Officer - CPIO) ของโตโยต้า ประกาศนโยบาย "เอาจริง" กับการพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยมีรายละเอียดคือ
ปัจจุบัน โตโยต้ามีทีมซอฟต์แวร์อยู่หลายทีม ทั้งในบริษัทแม่ Toyota Motor เอง และผ่านบริษัทลูกอย่าง Toyota Research Institute (TR), Woven Planet ที่ทำเรื่องรถยนต์ไร้คนขับ, Toyota Connected รวมถึงโครงการย่อยอย่าง รถยนต์ไฟฟ้า e-Palette, สมาร์ทซิตี้ Woven City, แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์สำหรับรถยนต์ Arene เป็นต้น
ที่มา - Toyota
Comments
ยักษ์เริ่มตื่น
ผมนี่อยากให้รถยนต์มาถึงยุค OTA เร็วๆ
อัพ PCM, TCM หรือ Infotainment แต่ละที ศูนย์มองเห็นเป็นช่องทางหากำไรอย่างเดียว ทั้งที่เป็นสิ่งที่ควรอัพเพื่อแก้ปัญหา (เช่น รอบเดินเบาต่ำ) เหมือนอัพ Firmware อุปกรณ์อื่นๆ คือถ้าไม่เจอปัญหาก็ไม่อัพให้ ถึงแม้จะมีเวอร์ชันใหม่ ถ้าอยากอัพต้องจ่ายเงิน อยู่นอกประกันคุณภาพต้องจ่ายเงิน
ผมถึงต้องลงทุนไปซื้ออุปกรณ์ทั้งหมดมาทำเองเลย อยากอัพอยาก Customize Option อะไรก็ทำได้ตามใจ
Tesla ทำมาแต่แรกแล้วนะครับ ต้องบอกว่ารถฝั่งญี่ปุ่น (โดยเฉพาะโตโยต้า) ไม่ทันโลกเองมากกว่า
ไม่ต้อง OTA ก็ได้ แต่อย่างน้อยขอแบบอัพเดต BIOS ของ PC ที่สามารถดาวน์โหลดจากหน้าเว็บของผู้ผลิตฯ แล้วเอาไปแฟลชใส่อุปกรณ์ได้มั้ย
รถ BMW ที่ใช้ iDrive7 ก็ OTA แล้ว แต่ แผนที่ ยังต้อง Load จาก Web ลง USB มาติดตั้งเอง
สายไปแล้ว สายไปมาก
ทั้งหมดนี้ผมยกความดีความชอบให้ tesla เลย
ถ้า tesla ไม่เกิด วงการรถก็จะเหมือนเดิมไปอีกอย่างน้อยๆ 20 ปีแน่ๆ(ปีใหม่ อัพเดทแค่โครงใหม่นิดหน่อย แพง ถูก อยู่ที่ option และความหรู วนลูปไปแค่นี้)
จีนไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ญี่ปุ่นยังยินดีกับความสำเร็จเดิมๆ ระวังเงยหน้ามาอีกที วิ่งไม่ทันเค้านะครับ
กำลังจะมาเล่นมุก "เพิ่มพนักงานจาก 2 คนเป็น 12 คน" ดันมีตัวเลขพนักงานซะละ ว้าาา
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เพิ่มพนักงานช่วยอะไรได้ครับ ถ้าคนบริหารยังคิดแบบบูมเมอร์เหมือนเดิม
จอแอนดรอยจีน OTA มาปีกว่าละ วิทยุติดรถทั่วๆไปยังทำไม่ค่อยได้เลย
ซิมในเครื่องเน็ตหมดนี่จะอัพอย่างไรกันล่ะทีนี้
ผมว่าน่าจะเป็น Digital SIM หรือ eSIM มากกว่านะ ไม่งั้นคงต้องรื้อกล่องเปลี่ยนซิมวุ่นวายเลย เว้นแต่จะสามารถเอาออกได้จากช่องตรงหน้ารถสักแห่ง ที่มักจะให้เฉพาะผู้เชี่ยวชาญหรือช่างเป็นคนถอดออก
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
หมดยุค minor change เพื่อขายรถใหม่แล้ว