รัฐบาลญี่ปุ่นเซ็นสัญญาซื้อวัคซีน NVX-CoV2373 หรือชื่อในญี่ปุ่นว่า TAK-019 จำนวน 150 ล้านโดสผ่านบริษัท Takeda Pharmaceutical คาดว่าจะเริ่มส่งมอบต้นปี 2022 แม้ว่าก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นจะซื้อวัคซีนอย่างต่อเนื่องจนเกินจำนวนประชากร นอกจากนี้ยังสั่งวัคซีนจาก Moderna เพิ่มเติมอีก 50 ล้านโดสเพื่อส่งมอบต้นปี 2022 เช่นกัน
ตอนนี้ญี่ปุ่นมีสัญญาส่งมอบวัคซีนมากกว่าปริมาณประชากรไปมาก เฉพาะวัคซีน Pfizer ก็มีสัญญาอยู่เกือบ 200 ล้านโดส แต่สำหรับ NVX-CoV2373 นี้ความพิเศษคือจะเป็นวัคซีนที่ผลิตในญี่ปุ่นเอง
แม้ว่าจะมีวัคซีนจำนวนมาก แต่เดือนที่ผ่านมาญี่ปุ่นก็ต้องหยุดฉีดวัคซีน Moderna ไป 1.6 ล้านโดส เนื่องจากเกิดเหตุปนเปื้อนในวัคซีนที่ผลิตจากโรงงานในสเปน
ตอนนี้ญี่ปุ่นมีอัตราการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว 48% และได้รับอย่างน้อย 1 เข็ม 60% ของประชากร มีชาติให้การยอมรับใบรับรองวัคซีนญี่ปุ่นทั้งหมด 34 ชาติ แต่มาตรการแต่ละชาติก็ยังต่างกันไป และแม้จะเดินทางไปยังปลายทางโดยไม่ต้องกักตัวแต่ก็ต้องกักตัวเมื่อกลับเข้าญี่ปุ่นอยู่ดี
ที่มา - Japan Times
ภาพโดย Novavax
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
ตัดกลับมาที่ไทย
วันนี้พึ่งเห็นชอบสั่ง SV 12 ล้านโดส เพื่อนำมาฉีดไขว้
สั่งไม่หยุดเลยทีเดียว
ล็อตนี้ล็อตสุดท้ายแล้วครับ ใช้หมดก็ไม่สั่งแล้ว ซึ่งจะคาบเกี่ยวกับช่วงที่ไฟเซอร์ที่เราสั่งเข้ามาพอดี
กลับมาที่ไทย ผลิต AZ แต่ไม่สามารถซื้อได้ตามที่คาดไว้ ฮ่าๆ
Takeda เนี่ยเป็นตัวแทนของกี่เจ้าละเนี่ย เห็นในข่าว moderna ก็ Takeda พอจะซื้อ Novavax ก็ Takeda
เหมือน Moderna จะแค่ตัวแทนจำหน่าย แต่ Novavax จะช่วยผลิตให้นะครับ
อย่างเกาหลีนี่ SK Bioscience ก็ผลิตให้หลายๆ เจ้าพร้อมกัน
lewcpe.com, @wasonliw
ญี่ปุ่นฉีดคนต่างชาติที่พำนักอยู่ในญี่ปุ่นอย่างถูกกฎหมายทุกคนครับ เลยต้องจองวัคซีนเกินจำนวนประชากรไป
ที่ทึ่งคือเขาให้ลำดับpriorityการฉีดวัคซีนเท่าเทียมกัน เช่นตามอายุ ก็จะได้ตามกลุ่มอายุพร้อมคนญี่ปุ่น หรือกลุ่มทำงานก็ได้พร้อมกับคนอื่นในบ.เดียวกัน โดยไม่แบ่งแยก
เพื่อนผมที่ทำงานที่ญี่ปุ่นได้ฉีดpfizer 2เข็มครบไปเรียบร้อย (สองคน จากคนละเมือง คนละกลุ่มอาชีพเลยคนนึงฉีดเดือนที่แล้วพร้อมคนญี่ปุ่นที่สำนักงานเดียวกัน อีกคนได้ฉีดตามกลุ่มอายุ พร้อมๆกับคนในโซนเดียวกัน)
หันมามองบ้านเรา ยังมีดราม่าว่า คนไทยยังฉีดไม่ครบ ไปฉีดให้ต่างชาติทำไมอยู่เลย เขาลืมไปแล้วหรือว่า ถ้าคนอื่นๆในสังคมยังไม่ปลอดภัยก็ยังไม่มีที่ไหนปลอดภัย แรงงานรายวันหลักบ้านเราก็คนต่างด้าวทั้งนั้น ถ้าคนเข็นผักติด คนเตรียมอาหาร คนส่งของติด แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเราจะปลอดภัย? ดูจากแผนแล้วยังไม่เผื่อแรงงานต่างด้าวในไทยสักเท่าไร ที่ฉีดคนต่างชาติตอนนี้ ส่วนใหญ่จากการบริจาคของประเทศต้นทาง(เช่นจีน ญี่ปุ่น เมกา บริจาควัคซีนโดยระบุให้แบ่งไปฉีดคนประเทศเขาก่อน)
จะมีใครกล้าโยงไปว่า ถ้า...ได้เป็นนายก จะทำได้ดีกว่านี้ ดูแลดีกว่านี้ ในเชิงประชด แบบที่ฝั่งคนเชียร์รัฐบาลชอบทำบ่อยๆหรือเปล่า เพราะเห็นบ่อยมาก
อันนี้ขอถามส่วนตัวนิดนึง ถ้าหากละลาบละล้วงไปต้องขอโทษด้วย เหมือนท่านจะรู้จักเพื่อนจากทุกวงการเยอะมากจริงๆ และพร้อมให้ข้อมูลกับท่านบ่อยมากด้วย ยอมรับว่าได้ความรู้หลากหลายส่วนจากเพื่อนท่านเยอะมากด้วย
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ก็เขามีเหลือเฟือ
ไอ้คนที่มีเกินพอใช้ในชาตินี้ จะไม่คิดแบ่งให้คนอืนบางรึไง
วัคซีนมันก็มีอายุ ไม่ฉีดจะให้เก็บไว้ก็ไม่มีดอกเบี้ย เสียทิ้งเปล่าๆ
ญี่ปุ่นเขาก็บริจาคAzให้ไทยมาล้านกว่าโดสแล้วไงครับ ฉีดคนญี่ปุ่นในไทยน่าจะแสนกว่าโดสเองมั๊ง และจะบริจาคเพิ่มอีกสามแสนโดสอีกตะหาก
อีกอย่างคือเขาไม่ได้เหลือกลัวเสียเลยเอาไปฉีดคนต่างชาติในญี่ปุ่น แต่เขาวางแผนฉีดพร้อมกันหมดเลย ที่ผมเล่า คือเขาวางแผนโดยคำนึงถึงคนที่อยู่ในประเทศเขาทั้งหมดจริงๆ เพื่อนผมได้ฉีดก่อนคนญี่ปุ่นอีกหลายคนด้วยซ้ำ(เพราะช่วงอายุ และหน้าที่การงาน)
ส่วนคำว่าเหลือเฟือก็ขึ้นกับการวางแผน เวลาบอกว่าเราไม่มีเงินจะซื้อวัคซีนนี่ก็สงสัยนะครับ เพราะเราใช้งบค่าวัคซีนแค่1.5%ของเงินที่กู้มาสองล้านล้านบาทเพื่อสู้โควิทเองมั๊ง ถ้าเราวางแผนจัดซื้อโดยกระจายความเสี่ยงทุกช่องทางตั้งแต่ปลายปี 2563 ที่ตอนนั้นเริ่มอนุมัติให้เงินสนับสนุน SBS ก็คงไม่มีปัญหามากขนาดนี้
ตอนนี้ไทยก็ซื้อหลายยี่ห้อ แต่ก็เห็นอยู่ว่ากว่าจะได้วัคซีนคือปลายปี นั่นหมายความว่าวัคซีนผลิตไม่ทันขาย แล้วไอ้ที่ขายไปแล้วไปล้นเหลืออยู่กับประเทศร่ำรวยทั้งนั้น จนwhoยังออกมาพูดต่อว่า
และผมไม่ได้พูดว่าไม่มีเงินซื้อ ปัญหาจริงๆ คือความเป็นจริงของสังคม ยังไงซะคนรวยก็มีโอกาสและได้เปรียบคนจนอยู่วันยังค่ำ เงินมากกว่าอำนาจมากกว่ากำลังในการต่อรองย่อมมากกว่า เคยเจอไหมสินค้าที่หมดทันทีที่เปิดขาย มีร้อยขายไปได้สิบบอกสินค้าหมด แล้วมันก็ไปโผล่ในมือคนมีเส้นสาย
เพิ่งจัดซื้อยี่ห้ออื่นๆ กลางปี64 นี่เองครับได้ปลายปี ผมว่าก็เร็วมากแล้วนะ แต่คงไม่มียี่ห้อไหนได้ไวมากเท่าsv เท่านั้นเอง
แต่ถ้าวางแผนกระจายความเสี่ยงแต่แรก ก็ต้องสั่งซื้อยี่ห้ออื่นๆตั้งแต่ปลายปี63 เหมือนที่สั่งซื้อAz จาก SBS ไง หรืออย่างช้าควรจะต้นปี 64 (ยังไม่นับว่าที่สั่งAzเพิ่ม ยังเพิ่งสั่งเพิ่มตอนมิ.ย.64 นี่เอง หลังประเทศอื่นๆด้วยซ้ำ มาบอกว่าโดนประเทศอื่นแย่งได้ไง ก็สั่งช้าที่สุดซะเอง?)
จำไม่ได้หรือครับ ช่วงมี.ค.64 รมต.ยังพูดเองว่า J&Jมาเสนอขายราคาทุนได้ Q3(สั่งมี.ค.ได้Q3)แต่ตอนนั้นรมต.บอกว่าเราไม่เอา เพราะมีวัคซีนในมือมากเกินพอแล้ว? ตอนเขามาเสนอไม่สนเอง แต่ตอนหลังมาพูดอีกทีตอนเดือน7 ว่าตามJ&Jไม่ได้ เขาไม่เหลือโควต้าขายแล้ว ก็ผ่านไปกี่เดือนแล้วล่ะครับ? ยังไม่นับข่าวจากหลายๆแหล่งว่า แม้แต่pfizer ก็มาเสนอขายเราตั้งแต่ปลายปี63แล้วด้วยซ้ำ แต่เราเพิ่งเซ็นสัญญาสั่งซื้อเดือนที่แล้วนี่เอง?
เรื่องแย่งชิงวัคซีนก็เรื่องนึงครับ แต่ประเด็นสำคัญคือเราไม่ได้กระจายความเสี่ยงแต่แรกเลยตะหาก ทุ่มแทงตัวเดียว และคาดหวังsvมาแค่ขัดตาทัพ แต่ดันกลายเป็นวัคซีนหลักซะงั้น ตอนนั้นปล่อยข่าวโจมตีCOVAX ว่าไม่เข้าเพราะแพงเลือกไม่ได้ ทั้งๆที่มันเป็นช่องทางหนึ่งในการจัดซื้ออาจได้ไม่มากแต่ก็ยังได้เรื่อยๆ
หลายคนยังมัวไปโทษประเทศอื่นว่าแย่งซื้อเยอะ ทั้งๆที่รบ.ไทยไม่เคยวางแผนกระจายความเสี่ยงในช่วงเริ่มต้นเลย คือเราไม่ได้สั่งซื้อเลยไปโทษคนอื่นได้ไง จองทีหลัง(เพิ่งคิดจองตอนเดือน6-7นี่เอง)ก็ได้ช้าเป็นธรรมดา ถ้าจองไปแต่ต้นปีแล้วไม่ได้ของตามเวลาที่รับปากก็ค่อยด่าว่าโดนคนอื่นแย่งซื้อไป แต่นี่จองลมก็ได้ลมสิครับ รมต.พูดเองว่าแทงม้าเต็ง แต่พอม้าเต็งพลาด คนไทยก็รับกรรมไป? หลายคนอาจจะไม่ตายถ้าได้วัคซีนเพียงพอตามแผนหรือมีการวางแผนรับมือกระจายความเสี่ยงแต่แรก?
อาจจะมีหลายคนอ้างว่า ก็ตอนต้นปีเรายังสถานการณ์ดี เลยไม่คาดคิดว่าจะเลวร้ายนี่ ก็อาจใช่ครับ แต่เพราะเราโชคดี เราเลยไม่ระวังตัว ไม่วางแผนรับมือความเสี่ยง? และไม่ใช่ว่าไม่มีคนทักไม่มีคนเตือน ตอนเดือนมี.ค.ที่สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนก็มีคนเตือน รมต.ก็ยังบอกว่าเรามีวัคซีนเยอะพอ(แต่ยังไม่ได้สั่งจากAzเพิ่มเลยด้วยซ้ำตอนนั้น) พูดตรงๆว่าสถานการณ์ไทยเราช่วงกลางปี คือเหมือนประเทศอื่นเมื่อปีที่แล้วเลย คือเกิดปัญหาซ้ำซากโดยที่ไม่เรียนรู้จากคนอื่นเลยมากกว่า
นี่ก็ได้ข่าวว่าจะทุ่มแทงวัคซีนที่ผลิตในไทยอีก จากการที่ยังไม่จองซื้อยี่ห้ออื่นๆชัดเจน แม้จะประกาศล่วงหน้าว่าปีหน้าจะซื้อหลักร้อยล้านโดส ผมกลัวจริงๆ สนับสนุนให้ผลิตเอง แต่ไม่ใช่ทุ่มแทงตัวเดียวอีกซ้ำซากครับ
ญี่ปุ่นรวยและอำนาจเยอะกว่าเราก็จริง แต่เหตุผลที่ญี่ปุ่นมีวัคซีนเยอะขนาดนี้เพราะญี่ปุ่นเขาไม่ได้ซื้อ "ตอนนี้" ครับ
ใช่ วัคซีนมันผลิตไม่ทันขายอยู่แล้ว เพราะความต้องการมันทั่วโลก แล้วแต่ละตัวประสิทธิภาพมันจะออกมาเป็นยังไงผลข้างเคียงมากน้อยแค่ไหนก็ยังการันตีไม่ได้ด้วย เรื่องนี้เขารู้กันทั้งโลกนั่นแหละครับ เพราะงั้นหลายๆประเทศเขาถึงพยายามจัดหาวัคซีนจากหลายๆช่องทางและหลายๆยี่ห้อ สั่งเกินไว้ก่อนเผื่อตัวไหนดีไม่ดี ทั้งหมดก็เพื่อ "ชีวิต" ของประชาชนเขาครับ (แม้แต่อเมริกาที่ผลิตเองได้ยังต้องสั่งข้างนอกเผื่อเลย)
และในทำนองเดียวกัน เหตุผลตอนนี้ที่ไทยเรายังไม่มีวัคซีน ก็เพราะเราคิดจะซื้อ "ตอนนี้" นั่นแหละครับ ถ้าคิดหาวัคซีนตั้งแต่ปีที่แล้วแบบญี่ปุ่น พยายามเข้าร่วมทุกช่องทางและเจรจาหลายๆยี่ห้อ ตอนนี้เราก็คงมีวัคซีนมากกว่านี้และหลายๆชีวิตก็คงไม่ต้องล้มหายไป รัฐบาลเองก็คงไม่ต้องเสียเงินเพื่อรักษาและฟื้นฟูมากแบบในตอนนี้หรอกครับ
และแน่นอน เรื่องนี้ไม่ใช่ขงเบ้งหลังเกิดเรื่อง อย่างที่บอกว่าสถานการณ์วัคซีนในปีที่แล้วมันเป็นที่รับรู้กันทั้งโลกว่าต้องแย่งกันและคุณภาพไม่แน่นอน วิธีการแก้ปัญหาง่ายๆอย่างการกระจายความเสี่ยงก็เป็นเรื่องที่ใครๆก็รู้ (ขนาดจองวัคซีนภายในประเทศไทยเอง หลายคนยังรู้เลยว่าควรจะจองเผื่อไว้หลายๆโครงการไว้ก่อนทั้งฟรีและเสียตัง) มีหลายคนออกมาทักท้วงในปีที่แล้วว่าควรกระจายความเสี่ยง แต่รัฐบาลก็หาได้สนใจไม่ (แถมบางคนโดนยัดข้อหาอีก)
สถานการณ์ในประเทศไทยตอนนี้ ไม่ต้องไปโทษคนขายวัคซีนหรือไปโทษที่ประเทศอื่นแย่งไปหรอกครับ โทษรัฐบาลไทยเราเองนี่แหละที่ไม่ยอมไปแย่งกับเขาเอง
"ไอ้คนที่มีเกินพอใช้ในชาตินี้ จะไม่คิดแบ่งให้คนอืนบางรึไง" << อันนี้หมายถึงใครรึครับ?
ไม่ได้พูดถึงโรงงานวัคซีน(บางโรงงาน)ใช่ไหม?
เราก็มีเงินซื้อครับ ไม่ใช่ไม่มี แต่เรา "ไม่ฉลาด" พอที่จะวางแผนล่วงหน้าแบบเขา เลยต้องมาใช้เงินกับค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยแทน ทั้ง ๆ ที่ถ้าเอาเงินจำนวนเดียวกันนั้นไปซื้อวัคซีน ก็คงซื้อได้ไม่รู้กี่ร้อยล้านโดสละครับ
That is the way things are.
เค้าก็ใช้เงินซื้อมา เราก็มีเงินซื้อแต่ไม่ซื้อไปซื้ออย่างอื่น
หรือถ้าหมายถึงโรงงานผลิตวัคซีนก็มีต้นทุน ไม่ได้แสกขึ้นมาทำไมต้องผลิตมาแจกฟรี ๆ
ที่ไทย ของดีไม่ค่อยเอามาใช้ ของที่คนไม่ค่อยใช้ก็มาอวยว่ามันดี
ของไทยไม่ต้องครับ เพราะมีวัคซีนดีๆอย่าง SV และ AZ จากโรงงานของพ่อ แถมกัน(วัคซีนตัวอื่น)ได้ทุกชนิด
อิจฉาจัง บ้านเรากำลังจะเอาวัคซีนห่วยๆมาอีก12ล้านโดส เพื่องานวิจัยหมอยง
ปีหน้าไทยมีใบยา กับจุฬา
อิจฉาประเทศโลกที่ 1
ต้องสั่งแบบนี้ดิ Big lot เลย คนไทยเห็นสั่งแต่ lot เล็กๆ
ดีเลยครับ ซื้อเกินๆ งี้ ถ้าเหลือจะได้บริจาคให้ไทยได้อีก
/สายฟรีคับ
ประเทศที่เขาคิดได้ เขาสั่งเกินจำนวนประชากรตั้งแต่แรกๆ เลย
เจ้าไหนเปิดจองก็พร้อมทุ่มงบประมาณไปจองทันที และมีใช้ก่อนคนอื่น
กลับมาที่ประเทศโลกที่ 3 ด่าประเทศที่ทุ่มเงินจองเพื่อได้วัคซีนมาฉีดคนในประเทศ
ว่า กักตุนวัคซีน ทำไมไม่ไปด่าคนที่ไม่ยอมไปจอง
และด่าคนอื่น… ให้เริ่มที่ตนเองก่อน ก่อนที่จะด่าคนมีอำนาจ
จนขณะนี้เขาก็ยังโทษประเทศอื่น โทษคนอื่น ไม่เคยโทษคนคนนั้นเลย
แต่คนญี่ปุ่นไม่ยอมรับการฉีดจากพยาบาล ต้องให้หมอฉีดเท่านั้น ถึงได้ล่าช้าแบบนี้
ที่ได้ยินเหมือนเขา test phase 3 เองอีกรอบด้วย มันเลยช้ามากกว่าจะเริ่มฉีดจริง
ญี่ปุ่นเริ่มฉีดแบบวงกว้างพร้อมๆเรา คือปลายพ.ค. ต้นมิ.ย.(บ้านเรานับ 7มิ.ย.) แต่วันนี้เขาฉีดไปแล้ว 136ล้านโดส(ฉีดครบสองเข็ม 60ล้านคน)ครับ ในขณะที่ของเรา36ล้านโดส
จริงๆด้วยศักยภาพระบบในบ้านเราฉีดวันละ 1 ล้านโดสยังได้ ถ้ามีวัคซีนเพียงพอ(ที่ผ่านมามีสูงสุดแถวๆ 9แสนโดสถ้าจำไม่ผิด)
เรื่องฉีดของญี่ปุ่น ตอนนี้ออกคำสั่งอนุญาตชั่วคราวให้ทันตแพทย์เป็นผู้ฉีดได้ (อ้างอิง https://www.japantimes.co.jp/news/2021/04/26/national/japan-dentists-vaccinations/ ) รวมถึงระดมพลแพทย์เกษียณแล้วและเอกชน
อันนี้น่าชื่นชมนะ เจอปัญหา แทนที่จะบอกว่า "ติดระเบียบ" "ติดข้อกฎหมาย"
แต่เขาใช้วิธี "แก้ระเบียบ" เพื่อให้ทำงานต่อได้