สื่อหลายเจ้าเริ่มเริ่มมีรีวิว iPad Mini รุ่นปี 2021 กันออกมาแล้ว ส่วนใหญ่พูดในจุดเดียวกันว่าเหมาะสำหรับคนชอบแท็บเล็ตไซส์เล็ก และตอบโจทย์การใช้งานด้านเสพย์สื่อได้อย่างครบครัน แถมจับถนัดมือกว่าเมื่ออ่านบทความหรือหนังสือในแนวตั้ง
ขนาดที่เล็กลงการกดปุ่มบนจอตอนเล่นเกมทำได้สะดวกขึ้น พอร์ตชาร์จ USB-C ทำให้การเชื่อมต่อและโอนย้ายไฟล์ทำได้ง่ายกว่าเดิม การรองรับ Apple Pencil รุ่นที่สองทำให้การจดโน้ตทำได้สะดวกขึ้น แม้อาจจะเล็กเกินไปสำหรับการวาดภาพแบบจริงจัง ส่วนการวาง TouchID ไว้บนปุ่มล็อกเครื่อง ก็ทำให้ใช้งานสะดวกขึ้น (และอาจสะดวกกว่า FaceID เมื่อต้องใส่หน้ากากอยู่ข้างนอก)
ด้านประสิทธิภาพ แม้ชิป Apple A15 รุ่นล่าสุดในเครื่องจะถูกลดความเร็วจนด้อยกว่า iPhone 13 แต่ก็ยังมีประสิทธิภาพสูงอยู่ หน้าจอถึงจะไม่เป็นจอ ProMotion 120Hz แต่ก็เป็น IPS LCD คุณภาพดี ขนาดหน้าจอที่เล็กกว่าทำให้ความละเอียด 1488x2266 พิกเซล มีจำนวนพิกเซลต่อตารางนิ้วอยู่ที่ 327 PPI คมชัดกว่าเมื่อเทียบกับ iPad Air รุ่นล่าสุด ที่มีพิกเซลต่อตารางนิ้วอยู่ที่ 264 PPI
เรื่องกล้อง สื่อหลายเจ้าชื่นชอบกล้องหน้าอัลตร้าไวด์ที่มาพร้อมฟีเจอร์ CenterStage พร้อมระบุว่าน่าจะเหมาะกับการประชุมงานทางวิดีโอ แต่ก็อาจจะแปลกๆ บ้างหากวาง iPad Mini ในแนวนอน เพราะกล้องอยู่ด้านบนของตัวเครื่อง มุมมองของผู้ใช้จึงอาจดูเหมือนมองเอียงไปด้านใดด้านหนึ่งได้
ด้านแบตเตอรี่ อายุใช้งานที่ Apple ระบุอยู่ที่ราว 10 ชั่วโมง เท่า iPad Air แต่สื่อหลายเจ้าเช่น Dave2D พบว่าแบตเตอรี่อยู่ได้สั้นกว่า iPad Air เล็กน้อยในการใช้งานจริง อยู่ที่ราว 8 ชั่วโมง แต่ก็ไม่น่าแปลกใจด้วยขนาดที่เล็กกว่า
ข้อเสีย สื่อหลายเจ้าเช่น The Verge รวมถึงยูทูบเบอร์อย่าง MKBHD พบว่า UI ของ iPadOS 15 ยังไม่ถูกปรับให้เข้ากับ iPad Mini นัก หน้าโฮมเว้นพื้นที่ว่างจากขอบจอมากจนเกินไป แถมไอค่อนแอปยังเล็กกว่า iPhone 13 Pro Max ด้วยซ้ำ
อีกหนึ่งข้อเสียคือ iPad Mini ไม่มี Smart Connector จึงไม่สามารถใช้งานร่วมกับ Magic Keyboard หรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่ใช้การเชื่อมต่อนี้ได้ ทำให้อาจใช้อุปกรณ์เสริมได้น้อยลง แม้ก็ยังรองรับคีย์บอร์ด Bluetooth อยู่ และอีกจุดคือปุ่มเพิ่ม-ลด เสียง ที่ถูกย้ายไปไว้ด้านบนเว้นที่ด้านข้างไว้รองรับ Apple Pencil ก็ทำให้การเพิ่ม-ลด เสียง และการกดปุ่มบันทึกหน้าจอดูแปลกๆ
อีกประเด็นคือ iPad Mini รุ่นใหม่นี้มีราคาแพงขึ้นจากรุ่นก่อนที่เริ่มต้น 399 ดอลลาร์ เป็น เริ่มต้น 499 ดอลลาร์แทน ขยับมาใกล้กับ iPad Air ที่ราคาเริ่มต้น 599 ดอลลาร์มากขึ้น ในขนาดที่เล็กกว่า และรองรับอุปกรณ์เสริมน้อยกว่า แถมมีความจุ 64GB แล้วกระโดดไปที่ 256GB เลย ทำให้อาจตัดสินใจซื้อได้ยาก
สุดท้ายแล้ว iPad Mini น่าจะเหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการใช้งานแท็บเล็ตขนาดกำลังดีด้วยมือเดียว และไม่ได้ต้องการนำไปใช้แทนโน้ตบุ๊กเครื่องใหญ่เพื่อพิมพ์งานหรือทำงานจริงจัง แต่เป็น iPad รุ่นเสริม พกพาสะดวก ที่เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่จำกัด เหมาะกับการนำไปใช้จดโน้ต ชมวิดีโอยูทูบ ประชุมงานเล็กน้อย เล่นเกมในช่วงว่าง แล้วจบด้วยการอ่านหนังสือเบาๆ บนเตียง
รวมรีวิวจากเว็บต่างๆ
Comments
iPadOS 15 ทำมาแย่มาก ๆ ถ้าหากยัด widget แล้ว space ด้านข้างหายไป แต่พอสลับไปหน้าที่ไม่มี widget จะยังคงมี space อยู่
ออกแบบมาภาษาอะไรเนี่ย
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ออกแบบภาษาแอปเปิ้ลครับ 55555
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
น่าจะต้องไปสเกล UI หน้าโฮมกันใหม่อะครับ ผมก็งงว่าจะเว้นไว้ทำไมเยอะแยะ จอมันไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น เปลืองที่จัด 55
ขนาดผมใช้ iPad 6 ที่จอใหญ่กว่า iPad mini 2 มาก ยังรู้สึกหงุดหงิดเลยครับ แย่กว่าตอน iPadOS 14 อีก แถมบั๊กกระจาย
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เอาจริง ๆ ผมว่า home screen iPad OS มันห่วยมาตั้งแต่ไหนแต่ไรละครับ 555
เวอร์ชันก่อน ๆ ยังพอถูไถได้ครับ แต่พอมา iPadOS 15 นี่ ผมรับไม่ได้จริง ๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดหน้าแรกแบบเหลือแถวสุดท้ายให้โล่ง ๆ (แบบที่ผมชอบทำ ทั้งบน iPhone และ iPad) แต่มีหน้าหนึ่งที่ยัด widget ไว้ แต่อีกหน้ายัดแค่ icon แค่นั้น พอจะเลื่อนหน้า ไอคอนแต่ละแถวก็ดันไม่ตรงกันอีก คือมันใช้งานได้นะ แต่หงุดหงิดสุด ๆ
นี่ยังไม่นับเรื่องตอนไอคอนเต็มแล้วย้าย icon/widget โคตรลำบาก แถมการจัดระบบ grid แบบ 2x2 ทำให้การจัด widget มันไม่ยืดหยุ่นพอที่จะใช้งานได้ (ปัญหานี้เป็นตั้งแต่ iOS 14 บน iPhone แล้ว)
ตอนนี้ทางแก้คือ ต้องยัด widget ให้เต็มหน้าทุกหน้า (ซึ่งความเป็นจริง แอปเปิลควรจัดให้แต่ละหน้าเป็น 6x4 ให้หมดไปเลย แทนที่จะเป็น 6x4 ในหน้าที่มี widget และ 6x5 พร้อมพื้นที่โล่ง ๆ แบบไร้ประโยชน์ด้านข้าง ในหน้าที่ไม่มี widget)
Coder | Designer | Thinker | Blogger
จากใจคนใช้ iPad 6(รอ Air Gen 5 อยู่ อยากได้ USB C) งง กะ iPad OSตัวใหม่มากครับ
เอาจริง ๆ ผมอยากจะอัปเกรดไปใช้ iPad Pro ตัว Cellular นะครับ เพราะว่าค่อนข้างเหมาะสำหรับการพิมพ์งานนอกสถานที่กับใช้งานปากกาจดประชุมนอกออฟฟิศ (ส่วนตัวเลือกตัว Pro เพราะจอ ProMotion 120Hz ล้วน ๆ และส่วนตัวไม่ได้สน M1 เท่าไร เนื่องจากมันก็ยังง่อยเปลี้ยเสียขาเหมือนกับรุ่นก่อน ๆ)
ตัว iPadOS ไม่ใช่แค่งงครับ มันออกแบบมาไม่ดีพอ บั๊กเยอะ และใช้งานยังไม่ค่อยโอเคเท่าไร ส่วนตัวคิดว่า แอปเปิลควรดีเลย์อัปเดตออกไป แล้วแก้ให้ใช้งานดีขึ้นกว่านี้
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ของผมรู้สึกว่ามันดีที่เร็วขึ้นนะครับ ไม่รู้ว่าคิดไปเองไหม แต่พวก UI งงจริงครับ
เหมาะใช้งานมือเดียว งั้นก็ที่ได้ก็ได้สะดวกแล้วดิ สบายเลยทีนี้ จอใหญ่กว่าโทรศัพท์ ฮ่า ๆ ๆ
นายคิดเหมือนขั้นใข่มั้ย B1
รอ Apple ยอมให้โทรศัพท์โทรเข้าได้ก่อน (ถ้าได้แบบบังคับใช้ Airpod) ก็เอา 555
ผมรอมาตั้งแต่รุ่นแรก เลิกรอแล้วครับ
ตั้งแต่ AssisstiveTouch ตั้งให้กด 2 ทีแล้วทำหน้าที่ Cap screen ได้ก็ไม่เคยกดปุ่มเพื่อ cap screen อีกเลย
ราคาใกล้ๆ iPad Air เลย แอบเลือกยากนิดหนึง ไม่รู้ขนาดไหนถูกใจดี
อัตราส่วนจอที่เกือบจะเป็น 3:2 ทำให้แอพบางแอพแสดงผลไม่เต็มจอ คงต้องรออัพเดทอีกสักพัก
ราคาแรงไปหน่อย อยากได้ tablet ตัวเล็กหน่อยไว้อ่าน e-book ฝั่งแอนดรอยก็ไม่ค่อยทำ size นี้กันแล้ว
แต่ก่อนซื้อ iPad Mini 1 ในราคา 9 พัน
ต่อมาซื้อ iPad Mini 2 ให้ผู้ใหญ่ที่บ้านใช้ ราคาหมื่นนิดๆ
ตอนนี้จะซื้อให้ผู้ใหญ่อีกเครื่อง คงต้อง iPad ธรรมดาแล้วหล่ะ
iPad Mini ราคาไม่ Mini ซะแล้ว
PS. ตอนนี้ iPad Mini 1 ยังอยู่ดีครับ แบตปกติ เอามาดัดแปลงทำ Facetime Receiver ไว้คุยกับแมวที่บ้านแทน
iPad Mini ที่ราคา ไม่มินิ
"ชิป Apple A15 รุ่นล่าสุดในเครื่องจะถูกลดความเร็วจนด้อยกว่า iPhone 13"
CPU โดนเนิฟเหรอเนี่ย?
งง ว่าจะไป เนิฟ มันทำไม
มันจะไปแย่งตัวทำกำไรสูงของ iPhone เพราะมีผู้บริโภคจำนวนมากแน่ที่อาจใช้มือถือเดิมไม่ยอม upgrade ใหม่ แล้วซื้อ iPad Mini ตัวถูกสุดเพื่อใช้ขยายหน้าจอในการดูข้อมูลเวลาออกไปทำงานข้างนอกที่ต้องจับถือมือเดียว หรือเอาไว้เล่นเกมส์ ซึ่งตลาดตรงนี้เป็นตลาดของ iPhone 13 Pro Max ที่ทำกำไรให้ Apple อย่างสูง ยิ่งด้วยราคาที่ต่างกันหลายเท่าตัวยิ่งทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจง่ายขึ้น ยอมลดความต้องการในฟีเจอร์อื่น ก็เลยฆ่าตัดตอนด้วยการให้ A15 แบบโดนตอน
การตลาดแบบ Apple ครับ ถ้าราคาถูกกว่า ต้องอย่าไปข้ามหน้าข้ามตารุ่นพี่ 55
ทุกยี่ห้อก็ใช้การตลาดแนวนี้นะครับ
ไม่เสมอไปครับ ทำไมหรอ ซัมซุงเคยออกแท็ปเล็ตราคาถูกใช้ปากกาได้ แต่ตัวแพงขึ้นมาจอสวยขึ้น แต่ใช้ปากกาไม่ได้ ย้อนแย้งไหมล่ะ
แต่ iPad mini ใช้ปากกาได้นะคะ
Galaxy Note 8.0
Coder | Designer | Thinker | Blogger
คือที่จะสื่อคือผลไม้ไม่ควรทำให้ตัวถูกดีกว่าตัวแพงไงครับ มักเมคเซ้นตามราคา
เหมือนจะเคยมี iPhone XR ซึ่งประสิทธิภาพดีกว่า XS นะครับ
น่าจะเป็นการ binning SOC เอาตัวแรงไว้ใส่ของที่ขายได้กำไรดีกว่า ตัวที่วิ่งไม่ถึงก็ลดสปีดเอามาใส่ iPad
จากใจคนใช้ 12.9 อยู่อยากได้มากๆขนาดนี้
กระโดดมาไซส์นี้มันจะรู้สึกอึดอัดมั้ยครับ หรือรู้สึกว่า 12.9 มันใหญ่ไปหว่า ผมกำลังคิดอยู่ว่าระหว่าง Mini กับ Pro 10.9 จะเอาอันไหนดี
ผมเคยใช้ 12.9 รุ่นแรกรู้สึกไม่สุดสักอย่างแถมหนัก ถ้าจะทำงานเอกสารใช้ Laptop ไปเลยดีกว่า ถ้าจะพกไว้อ่านหนังสือใช้ 9-11 ดีกว่า สรุปขายทิ้งได้ 10.5 แทนสบายกว่าเยอะครับ งานเดียวที่เหมาะกับ 12.9 น่าจะพวกวาดรูปมั้งครับ
ช่วงขนาด 9.7-11" เป็นขนาดที่กำลัดีสุดครับไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป เคยใช้ 12.9 มันใหญ่จนต้องกวาดสายตาดูเวลาถือด้วยมือ คือ ล้าสายตามาก ส่วน mini ถ้าเอามาอ่านหนังสือหรือเว็ปถือว่าเล็กไปหน่อยต้องซูมตัวหนังสือหนึ่งระยะ แต่กรณีถ้าเอาไปเล่นเกม mini จะเป็นขนาดที่จับแล้ว ok สุด
จากที่เคยใช้ 12.9 10.9 แล้วก็ mini รู้สึกว่า 11 ลงตัวสุดครับ
พอดู mini ทำให้ ชอบไซส์เล็กมันเหมาะพกพาแต่ไม่เหมาะอ่านหนังสือ
ตอนนี้จาก 9.7 -> 10.5 โอเคมากๆ
แต่พอลองใช้ 12.9 มาบ้าง ติดใจอ่านเขียนเข้าเว็บ 12.9 ไปซะแล้ว แลกกับน้ำหนักแต่ Productivity มากขึ้นโอเคเลย
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
ส่วนตัวคิดว่าราคามันแพงไป ทีแรกเก็งว่าขึ้นมา 2000 แบบ Air 3- Air 4 แต่นี้ไรถูกกว่า Air 4 แค่ 2000 ชิพแทบไม่ต่าง
แล้วมีข่าวเยลลี่ด้วย เชื่อเถอะรุ่นถัดไปราคาลดแน่นอน
กลัวว่า Mini ตัวต่อไปกว่าจะมาน่าจะอีก 3 ปี Mini 4-5-6 ทิ้งช่วงการออกตลอด รอแก้จอเจลลี่อย่างเดียว Mini 4 เจอ iOS15 ไปไม่รอดแล้ว
น่าจะจับตลาด ที่เราคิดไม่ถึง เช่น ร้านอาหาร โรงแรม ภัตนาคาร ที่ไว้ให้พนักงานติดตัวไว้ใช้รับ order ใส่ข้อมูลต่างๆ
ไม่มีลายเซ็น