Lansweeper บริษัทซอฟต์แวร์จัดการเครื่องพีซีในองค์กร (IT Asset Management) สำรวจความพร้อมของพีซีองค์กรจำนวน 30 ล้านเครื่อง ที่ระบบของตัวเองมอนิเตอร์อยู่ พบว่ามีพีซีถึง 55% ที่สเปกไม่ผ่านความต้องการขั้นต่ำของ Windows 11 และไม่สามารถอัพเกรดได้
Lansweeper บอกว่าปัจจัยสำคัญมีอยู่ 3 เรื่องคือ ซีพียูต้องใช้ตามรุ่นที่กำหนด, แรมต้องอย่างน้อย 4GB และตัวปัญหาคือต้องมีชิป TPM 2.0 ด้วย
จากสถิติของ Lansweeper ระบุว่ามีพีซีที่ซีพียูผ่านเกณฑ์ 44.4%, แรมผ่านเกณฑ์ 91.05%, และผ่านเกณฑ์ TPM 52.55% โดยกรณีของพีซีกลุ่มที่ไม่ผ่านเกณฑ์ TPM นั้น สัดส่วน 19% คือไม่มีชิป TPM เลย ส่วนอีก 28% คือมีชิปแต่อาจเวอร์ชันไม่ถึง หรือไม่ได้เปิดใช้งาน
Lansweeper บอกว่าจากสถิตินี้ทำให้การอัพเกรดพีซีองค์กรเป็น Windows 11 เป็นภาระที่หนักมากของแอดมินองค์กร เพราะมีทั้งเครื่องที่อัพเกรดได้และไม่ได้ ทำให้ต้องประเมินทรัพยากรไอทีขององค์กรกันอย่างละเอียดล่วงหน้า
ที่มา - Lansweeper via ZDNet
Comments
ใช้ Windows 10 กันต่อไป เผื่อวันข้างหน้าจะยอมลดสเปก
ซัพพอร์ตถึงปี 2025 กว่าจะถึงตอนนั้นเผลอๆ เปลี่ยนเครื่องแล้วอ่ะครับ ใช้ได้พอดี
มันไม่นานนะ ผมว่าถึงตอนนั้นเครื่องก็ยังไม่เปลี่ยนหรอก
ไม่เปลี่ยน ไม่ใช้ ต่อไปจะใช้ linux แทน
ไม่ค่อยได้เล่นเกม ไม่ได้ใช้โปรแกรมเฉพาะทาง เลิกๆๆๆๆใช้วินโดว์
ต้องลอง WSL ครับ
linix ลง แค่ line pc ยังไม่ได้เลยครับ
ใช้ win10ต่อไป
ปัญหาระดับชาติไทย ถ้าใช้ line ไม่ได้
..: เรื่อยไป
ผมแก้ปัญหาด้วยการใช้ KDE Connect พิมพ์ข้อความบนคอมพิวเตอร์แล้ว copy/paste จากพีซีเข้ามือถือ สำหรับส่วนอื่น ๆ อย่างการส่งไฟล์ก็ใช้ KDE Connect ส่งไฟล์เข้าเครื่องก่อน หรือ video call ก็ซื้อ mobile stand มาวางข้าง ๆ แทน
วิธีไม่ optimal แต่โชคดีที่ไม่ต้องติดต่อทาง LINE บ่อย
ไมโครซอฟทำอะไรปุปปับมาก อยู่ๆก็เปิด Windows 11(ที่ยังคิดไม่เสร็จ)
ที่ทิ้งคอมพิวเตอร์จำนวนมากไว้เบื้องหลังทันที ไม่มีประกาศก่อนหน้าให้เตรียมตัวสำหรับผู้บริโภค
และถัดมาอีก 3 เดือน (คืออีก 3 วัน 5 ต.ค.) จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับ Windows 11
ที่ยังทำไม่เสร็จ บั๊คหลายอันยังไม่แก้ Android มาปีหน้า
เปลี่ยนแค่หน้าตากับ UX ที่ไม่เป็นมิตร
ได้ยินว่าเว็บถ่ายทอดเปิดตัวเน่าด้วยครับรอบก่อน หมุนกันทีเดียว
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
ข้ออ้างมีเวลาให้เตรียมผมไม่เห็นด้วยนะครับ
ทั้งที่สเปครุ่นใหม่ ๆ ก็ไม่ต้องเตรียมตัวอะไร
ฝั่ง intel ใช้ gen 8 ขึ้นไป
ซึ่งถือก็ไม่ต่างอะไรกับ mac ครับ ยิ่ง os ใหม่ที่จะออก ฟังก์ชันบางอย่าง ใช้กับฮาร์ดแวร์ที่เป็น CPU Intel ไม่ได้ด้วยซ้ำ
มีเวลาให้เตรียมตัวคือ
การบอกล่วงหน้ามาก่อนว่า อีก 1 ปี 3 ปี หรืออะไรว่าไป
Cpu ที่ไม่มี tpm. จะใช้ไม่ได้
อยู่ดีๆ ไมโครซอฟท์ก็ประกาศฉับขึ้นมา cpu gen เก่า หรือรุ่นทั่วไป bios ไม่ได้เปิด tpm ไว้เป็นค่าเริ่มต้น คนอัพเดทเอง คนที่พอรู้เกี่ยวกับ bios ต้องเข้าไปตั้งค่ากันเอง และทางผู้ผลิต motherboard ก็ต้องอัพเดท bios เพื่อเปิด tpm เป็นค่าเริ่มต้นอีกภายในสามเดือน โดยที่ไม่รู้ว่าเปิดแล้วมันจะส่งผลกระทบต่อเครื่องไหม
มันไม่ใช่ข้ออ้างครับ windows ไม่ใช่ mac และไม่เคยเป็นมาก่อน พอจะตัดหางฮาร์ดคอร์เก่ามันเลยกระทบหนักเพราะตลาดมันไม่เหมือนกัน
และ mac เขาก็ขาย hw เอง ไม่เหมือนไม่โครซอฟที่ทำแค่ sw
ปล.จากประสบการณ์อัพเดท bios แล้ว ค่า tpm ที่ตั้งไว้ย้อนกลับเป็นปิด login เข้า windows ไม่ได้ลองไปเปิด tpm ใหม่แก้ไม่หาย ต้องหาวิธีแก้อื่น
บอกล่วงหน้า 1 ปีถือว่านานนะครับ
ที่จริงปัญหาฮาดแวร์เก่าใช้ไม่ได้ มันก็คนละประเป็นกับการบอกว่ามีเวลาให้เตรียมตัว และถ้าคุณแก้ปัญหาเองก็รับความเสื่ยงเองอยู่แล้ว
สำหรับเครื่องที่ไม่รองรับ หรือเตรียมตัวไม่ทันก็ใช้ windows 10
ถ้าหากพยายามอัพก็รับความเสี่ยงเอง
ที่ผมพูดถึง mac ตอนเขาประกาศ os ใหม่ แล้วบอกว่าบางฟังก์ชันจะใช้งานกับ cpu intel ไม่ได้ ผมมองว่าประกาศแบบนี้ก็คล้ายกันเป็นเรื่องปกติ ... ผลักดันให้ผู้บริโภคบอกเป็นนัยว่าอยากใช้ก็ซื้อใหม่สิ
-ไม่ได้บอกล่วงหน้าาา มาพร้อมกับ win 12 เมื่อเดือน มิถุนายน
-ฮาร์ดแวร์เก่าที่ต้องเตรียมคือ ความพร้อมครับ ความพร้อมที่จะเปลี่ยนฮาร์ดแวร์เพื่อรองรับซอร์ฟแวร์ใหม่ คอมองค์กรจากผลสำรวจข้างบนเลย อัพไม่ได้ โปรแกรมที่ออกมาใหม่เวอร์ชั่นใหม่ก็จะไปซับพอร์ต windows11 เป็นหลัก ไม่กี่ปีก็จะทิ้ง win 10 และคอมของเขาก็ไปต่อ win 11 ไม่ได้ คงต้องอัพเกรดคอม อัพสเปคกันยกใหญ่
- และไมโครซอฟไม่เคยจำกัดฮาร์ดแวร์ cpu มาก่อนในการลง ขอแค่มี cpu มีแรม มีการ์ดจอ ก็ลงได้แล้ว แต่ปริมาณเพียงพอไหมไปซื้อมาอัพเดทได้ แต่การที่จำกัดฮาร์ดแวร์ cpu คือการโยนของเก่าทิ้งไปเลย
- แล้วจะเอา mac มาเปรียบเทียบทำไม ทำแบบ mac แล้วมันดีหรือ ไมโครซอฟท์ถึงต้องทำตาม
ซ้ำ
ต่างกันนะ ฝั่ง Mac คือถ้า HW ไม่รองรับก็จำกัดฟีเจอร์กันไป แต่ยังใช้งานส่วนใหญ่ได้ แต่ Win11 นี้แบบไม่ต้องเปิดมาทำงานกันเลย
ผมแค่จะสื่อว่า ถ้าอยากใช้ version ใหม่ ก็ซื้อฮาร์แวร์ใหม่สิ อาจจะเปรียบเทียบไม่ค่อยจะตรง แต่เอาจริง ๆ ลองคิดดูมันก็เป็นแบบนี้ทุกค่าย คือเมื่อฮาร์ดแวร์ไม่ถึงก็อัพเดตข้ามรุ่นไม่ได้
cpu gen 8 มันก็นานแล้ว
tpm มันก็มีใน cpu นานแล้วเหมือนกัน
ประกาศเปิดตัว แต่ยังไม่ได้เปิดให้ใช้งานตัวจริง ผมมองว่ามันก็คือบอกล่วงหน้าแล้วนะครับ
ถ้าคิดว่า 3 เดือนไม่พอแล้วคิดว่าแค่ไหนถึงจะพอเหรอครับ? ส่วนตัวผมคิดว่าหลักปีนี่นานอยู่นะ เพราะเรื่องพวกนี้มันเปลี่ยนแปลงได้เรื่อยๆ ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมระหว่างนั้น ต้องประกาศใหม่แล้วรอดีเลย์ไปอีกปีเหรอครับ?
แล้วก็... Windows 10 ก็ยังซัพพอร์ตอีก 4 ปี (ถึง 2025) เพราะงั้นผมมองว่ามันก็ไม่ใช่การทิ้งคอมพิวเตอร์จำนวนมากไว้เบื้องหลังทันทีซะทีเดียวนะครับ
สำหรับผู้ใช้ทั่วไประยะเวลาเท่านี้อาจจะเพียงพอครับ แต่ข่าวนี้พูดถึงระดับองค์กร การปรับเปลี่ยนอะไรทีต้องใช้ระยะเวลาครับ ไม่ใช่ว่าอย่กเปลี่ยนก็เปลี่ยนได้เลย
ผมพูดถึงเรื่องเฉพาะเวลานะครับ ส่วนเรื่อง windows 10 ก็อีกเรื่องนึง ใช้ต่อไประหว่างเปลี่ยนได้ครับ
อันนี้ผมไม่แน่ใจนะครับ แต่คิดว่าน่าจะใช่ ในระดับองค์กร ยังไงซะเค้าก็คงไม่ได้เปลี่ยนเวอชั่นของวินโดวส์ "ทันที" ที่ปล่อยออกมานะครับ เพราะฉะนั้น การที่เค้าประกาศแค่ 3 เดือน หรือ 1 ปีล่วงหน้า ตอนที่มันออก ระดับองค์กรส่วนใหญ่ก็ยังคงใช้ของเดิมไปก่อนจนกว่ามันจะจำป็นต้องเปลี่ยนมากกว่าครับ เพราะงั้นจริง ๆ คงไม่น่ามีปัญหาอะไรมาก เพราะ Windows 10 ก็ยัง Support ไปอีกหลายปีอยู่ครับ ถึงคราวเปลี่ยนจริง ๆ ก็คงเปลี่ยนพร้อมเครื่องใหม่มากกว่า ส่วนองค์กรที่จำเป็นต้องใช้ Windows 11 ทันทีที่ออกมาเลยผมยังนึกไม่ออกนะครับว่ามันจะต้องรีบเปลี่ยนอะไรขนาดนั้นเพราะมันไม่ได้มีฟีเจอร์อะไรที่องค์กรจำเป็นต้องใช้เลยน่ะครับ
ปล. บางองค์กรยังใช้ Windows 7 อยู่เลยทั้ง ๆ ที่ไม่ MS ไม่ Support แล้ว
ผมคิดว่าองค์กรน่าจะสนใจเรื่องเวลาซัพพอร์ทของเก่ามากกว่าเวลาก่อนของใหม่ออกนะครับ เพราะองค์กรส่วนใหญ่ไม่น่าจะจำเป็นต้องอัพเป็น Windows 11 ทันทีที่เปิดตัว ซึ่งถ้าในมุมมองนั้นก็อีก 4 ปีถึงจะจำเป็นต้องเปลี่ยน ไม่ใช่ต้องเปลี่ยนทันที (แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่ามันพอไหม)
ส่วนเวลาก่อนของใหม่ออก... ผมคิดว่ากลุ่มที่ต้องใส่ใจกับช่วงเวลานี้น่าจะเป็นกลุ่ม Manufacturer มากกว่านะครับ แต่เท่าที่ผมเข้าใจ เครื่องที่เก่าไม่เกิน 3-4 ปี Hardware น่าจะรองรับ Windows 11 กันหมดแล้ว เวลาล่วงหน้า 3 เดือนสำหรับการปรับ Software ให้รองรับ Windows 11 (อย่างอัพเดท Bios เพื่อเปิด TPM) ก็น่าจะพออยู่ครับ
ไม่ปุปปับหรอกครับ ต่อให้จัดซื้อซื้อเครื่องพร้อมสำหรับใช้ Win11 มาได้
กว่าฝั่ง sw จะพร้อมมันก็นานนะ สุดท้ายเผลอๆจะไปพร้อมอัพตอนจัดซื้อรอบหน้าด้วยซ้ำ
แต่ถ้ามองว่าแค่ทีมนี้แหละที่ใช้ ผมว่านั่นทีมนั้นเค้าคงจัดการตัวเองได้ สี่ปีถือว่านานพอสำหรับจัดการระดับทีม
ไม่มี Internet Explore มาให้ (ถึงจะมี IE Mode มาให้ก็เถอะ)
ผมว่าดีแล้วครับ
เอาจริง ๆ ผมไม่ได้รู้สึกอยาก upgrade Windows 10 เป็น 11 เลย สนใจแต่ security fix เท่านั้น แต่รู้สึกหลาย ๆ คนใน internet (จากที่อื่นเท่าที่ผมอ่าน ๆ มา) อยาก upgrade เป็น Windows 11 ทั้งนั้น...
ผมเริ่มอยากรู้ละ มันมี feature อะไรที่เด่น ๆ เหรอครับ คนถึงอยาก upgrade เป็น Windows 11 (อ่านในนี้แล้ว https://www.blognone.com/node/123389 ไม่ได้รู้สึกว้าวอะไรเลย)
เอาจริงๆ Windows 7-11 นี่ถ้ายังมี security update คงไม่มีคนอัปเกรดขึ้นมาเท่าไหร่
แต่ผม wow มากครับ
11 เน้นที่ความปลอดภัย และ Performance ที่ยกระดับจากwin10 แค่ 2อย่างนี้ สบายใจละ
ไม่ได้สนใจเรื่องหน้าตาเลย
ความปลอดภัยบน Win 10 มีครบหมด(ถ้าHWรองรับ) แต่ Win 11 มันเปิดมาให้เป็น Default
ผมแค่อยากเล่นอะไรไปเรื่อยๆ
เป็นคนง่าย ๆ คือชอบหน้าตาครับ
มันดูเป็น GNOME ดี
ถึงจะซัดแรมเยอะไปหน่อยก็เถอะ....
ดูตามข่าวไม่ว้าวเท่าไหร่หรอกครับ ลองหาดูพวก reviews build version ต่าง ๆ ใน youtube ลองดูนะครับ เผื่อสนใจมากขึ้น ?
สำหรับผม แอพ Android ที่กำลังจะใส่มาใน Windows 11 มันทำให้ Tablet ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows เป็นรูปเป็นร่างและใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวันมากขึ้น
ยังไม่เห็นของผมยังไม่กล้าตัดสินอะไรเลยครับ ?
อีก 45% เป็นเครื่องแมคใช่มะ
ถ้านับ ตามคลิป PC ก็คือวินโดส์ทั้งหมดเลยครับ ฮ่าๆ
ที่เหลือคงเป็นพีซีที่ใช้ windows 10, windows 7 มากกว่า คอมในองค์กรที่ใช้แม็คคงมีน้อยมาก ใช้งบประมาณสูง ถ้าไม่ใช้งานเฉพาะด้านจริงๆ ของบไม่ผ่านหรอก อย่างที่ทำงานผมก็ CPU gen 7 (i5 7500T), RAM 4GB, windows 10 pro, HDD 500GB (ซึ่งช้ามาก คอมส่วนตัวนี่ใช้ SSD มาเป็นสิบปีแล้ว)
คนหนีไปใช M1 กันหมดแน่ ๆ
Windows on Arm อนาคตจะเป็นอย่างไรครับ เงียบเกินไป น่าจะมีเครื่องออกมาขายแบบชิปแรง ๆ แบตอยู่ได้นานเท่า M1 หน่อยก็ดี แต่เงียบไปเลย microsoft surface x ก็ไม่มีอะไรใหม่ คงต้องรอ Windows 11 on Arm
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
ออก Windows 10.5 มาแก้ปัญหา ตัดฟีเจอร์ที่มีปัญหาออกไป ให้ผู้ใช้ที่มีเครื่องเก่าใช้ได้ ส่วนใครที่ซื้อเครื่องใหม่ก็ใช้ฟีเจอร์ Windows 11 ไป ฟีเจอร์ที่เป็นปัญหาก็ทำเป็น module สำหรับ update แยกต่างหาก ไม่ต้องปวดหัวเรื่องทำ patch update ด้วย เพราะ 10.5 กับ 11 มันก็ตัวเดียวกัน ต่างกันแค่ฟีเจอร์เจ้าปัญหา
ถ้าอัพเกรดไม่ได้นี่ ขยะอิเล็กโทรนิคส์ เพิ่มอีกบาน
สำหรับผู้ใช้ตามบ้าน... นับจากเครื่องรุ่นใหม่ที่สุดที่อัพเดทไม่ได้ไปจนถึงวันที่ Windows 10 เลิกซัพพอร์ต มันก็น่าจะอายุ 8 ปีขึ้นไปแล้ว (หรือมีใหม่กว่านั้นผมไม่แน่ใจ) ซึ่งผมมองว่ามันก็เป็นตัวเลขที่โอเคสำหรับผู้ใช้ตามบ้านในการอัพเกรดเครื่องนะครับ (Mac เองเฉลี่ยๆแล้วก็ซัพพอร์ตราวๆ 8-10 ปีเหมือนกัน)
แต่สำหรับผู้ใช้ในองค์กร... ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าปกติรอบเปลี่ยนเครื่องราวๆไหนกันนะ แต่ 2025 มันก็อาจจะไวไปหน่อย ก็ต้องรอดูว่าเมื่อถึงเวลา Microsoft จะเลิกซัพพอร์ต Windows 10 ทั้งหมดจริงๆไหม หรือยังลากยาวเรื่องความปลอดภัยอยู่
อาจจะอยู่ที่นโยบายองค์กรแต่ละที่
ตัวอย่าง องค์กรที่ผมอยู่ เค้า upgrade เครื่องอายุเก่ากว่า 5 ปีเป็นปรกติครับ ฉะนั้น Windows 11 มาจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหรือรับมือยากอะไร ก็อัพเกรดตามรอบปรกติไป ตัวไหนอัพไม่ได้ ก็ใช้ Windows 10 ต่อไปจนจบ EOL หรือรอรอบเปลี่ยนเครื่องเอา
ผมว่าองค์กรน่าจะเร็วกว่าตามบ้านอีกนะครับ ส่วนใหญ่ตีอายุการใช้งานไม่เกิน 5 ปี แล้วก็เปลี่ยนเครื่องเลย อย่างบริษัทผม 3-4 ปีเปลี่ยนที เพราะเป็นการเช่า
สำหรับองคนี่สามสี่ปีถือว่าเร็วครับ ยังเปลี่ยนหรอก แบบ ถ้าเพิ่งจัดซื้อไปนะ รออีกนานครับ ยิ่งจำนวนพนักงานเยอะ มีหลายฝ่ายด้วยแล้วรอบนึงช้ามากก
แต่ซื้อเครื่องรุ่นใหม่แล้วยังไงต่อครับ SW ที่จะใช้ยังไม่พร้อมบน Win11 สุดทายก็มารอเรื่องนี้อยู่ดีแหละ อันนี้คิดเองนะ
มันไม่ใช่ 3-4 ปีครับ เพราะถ้าเพิ่งจัดซื้อปีสองปีที่ผ่านมาก็น่าจะอัพได้ทุกรุ่น ที่มีปัญหาอัพไม่ได้ก็คือเครื่องที่เก่าอย่างน้อย 4 ปี และ Windows 10 ก็ยังซัพพอร์ตไปอีก 4 ปีด้วยครับ
สรุปก็คือองค์กรที่มีปัญหาก็คือองค์กรที่รอบเปลี่ยนเครื่องนานกว่า 8 ปีครับ แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าองค์กรส่วนใหญ่ (โดยเฉพาะองค์กรที่ไม่เกี่ยวกับ IT) รอบเปลี่ยนเครื่องนานแค่ไหนกันครับ
ว่าแต่ never combine taskbar อยู่ไหนครับหาไม่เจอ
เรามันคนสไตล์เดียวกัน
หลังจากลอง windows 11 มา ผมว่าผมใช้ windows 10 ดีกว่า เกลียดความมนที่มันมนเกินไป
จากข้อมูลที่มีในตอนนี้ คิดว่า สาเหตุหลักที่บังคับ TPM น่าจะเป็นการบังคับทำ Virtualization-Based Security ซึ่งเหมือน MS เองก็ไม่ได้อธิบายว่า TPM ทำอะไร แค่บอกว่าต้องมี
ทั้งนี้ถ้าทำจริงคิดว่า เตรียมรับ performance hit ได้เลย (20% ล่ะมั้ง?)
ไม่เห็นเห็นจำเป็นต้องรีบอัพเลยนิครับ ใช้เจน 8 ที่ออกมา 2017 ไปจนถึง 2025 ตามกำหนดซัพพอร์ตของ วิน10 ไปเลยดีไม่ดี เดียวเขาก็ขยายอีก ดูวิน7สิ ขยายตั้งกี่รอบ ดีไม่ดีขายถึง 2027 อายุเจ 8ก็ 10ปีพอดีเหมาะแก่การเปลี่ยนแล้ววว
The Dream hacker..
จริง ๆ กว่าองค์กรณ์จะเริ่ม upgrade OS ไป 11
ก็คงพร้อมกับซื้อเครื่องใหม่พอดีแหละครับ
นี่กว่าจะยอมขึ้นมา 10 กัน เล่นเอาเพลียกับ IE 8 มานานมากกกกกกกก
MS เขาคำนวณไว้แล้ว ว่าต้องเเป็นแบบนี้ เพื่อบังคับให้ซื้อใหม่ไง
ถ้าให้รองรับเจนเก่าๆ เดี๋ยวก็อัพฟรีจาก 10 ไม่ได้ตังอีก
เข้าเน้นผลกำไร
+11
ดีนะเป็นเครื่องเช่า -_-