จากเหตุการณ์ Facebook, Instagram, WhatsApp ล่มทั่วโลก ซึ่งถือเป็นการล่มครั้งใหญ่ที่สุดนับจากปี 2008 ไม่เพียงแค่ผู้ใช้งานทั่วโลกที่ถูกตัดขาดจาก Facebook ในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ยังรวมถึงพนักงาน วิศวกร ไม่สามารถเข้าระบบใช้งานเพื่อการทำงานได้ด้วย
พนักงานบอกกับ CNBC ว่า พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงเครื่องมือที่ใช้ในการติดตามข้อมูล เช่น จำนวนคนที่ใช้บริการ รวมถึงฟังก์ชันการแชทภายใน แม้แต่วิศวรกรยังเข้าระบบเพื่อแก้ปัญหาไม่ได้
นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องบังเอิญที่การล่มครั้งใหญ่ของ Facebook เกิดขึ้นในวันเดียวกันกับที่ Frances Haugen อดีตผู้จัดการผลิตภัณฑ์ใน Facebook ออกมาแฉ Facebook ในรายการข่าว 60 Minutes ว่า Facebook สนับสนุนให้มี Hate Speech เพราะไม่อยากให้ Engagement ตก หรือเลือกผลประโยชน์มากกว่าความปลอดภัยนั่นเอง
พนักงาน Instagram รายหนึ่งถึงกับบอกว่าที่ Facebook ล่ม เป็นผลกรรมสำหรับสิ่งที่ Facebook ทำ เหล่าพนักงานยังรู้สึกไม่ดีแทนแบรนด์ และครีเอเตอร์ที่ต้องรันแคมเปญโฆษณาบน Facebook ในเช้าวันจันทร์ (ช่วงเวลาที่ล่มตามเวลาท้องถิ่น) แบบนี้
ด้าน Mike Schroepfer ซีทีโอ Facebook ชี้แจงผ่าน Twitter ก่อนหน้านี้ ว่าปัญหาล่มเกิดจากปัญหาเน็ตเวิร์ค พร้อมบอกว่าขอโทษกับทั้งธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ ครอบครัว และทุกคน ที่ต้องพึ่งพาระบบของ Facebook ในการใช้ชีวิต
ที่มา - CNBC
Comments
แสดงว่าฝรั่งก็มีความเชื่อเรื่องผลกรรมเหมือนกันเหรอเนี่ย
ปล. ชอบธีมใหม่ของ Blognone กึ่งมืดหน่อยๆแต่ก็ยังแสบตาอยู่ดี
วศวก ของเค้าเองนี่ เค้าสวดมนตร์ให้ FB หายกันมั้ยหนอ
ไม่มีเส้นทางเข้าจากหลังบ้านเลย?
มีแหละครับ แบบต่อสาย serial เข้าไปแล้ว login ตรงๆ แต่ปัญหาน่าจะเป็นที่ว่า config ผิดจนต้องไปนั่งไล่แก้ทีละเครื่อง แล้ว switch คงมีเป็นพันเป็นหมื่นตัว เลยใช้เวลานาน แล้วเห็นอีกเรื่องที่ว่า คนแก้เป็นไม่ได้อยู่หน้าไซท์งาน คนอยู่หน้าไซท์งานก็มือไม่ถึง เลยยิ่งเสียเวลา
สภาพเหมือนปิดเว้บหนีดื้อๆ
I need healing.
เอาง่ายๆ ถ้า Router config route ผิดขั้นร้ายแรง ต้องเข้าไปแก้หน้า Router ด้วยการต่อ serial ไปสั่งโดยตรงสถานเดียว (ถึงต่อได้Network ก็จะหลุดบ่อยหรือช้ามากๆ)
ยิงถ้าไม่มีroutingให้ชี้ไปหาได้เลยในทาง Logical
ต้องหาระบบอื่นที่เชื่อมถึงกันในทาง Physical มาต่อเข้าอีกทีหนึ่ง (ซึ่งทำได้ง่ายกว่า แต่อาจมีปัญหาในเรื่องความปลอดภัย เพราะเหมือนเป็นการเปิดประตูหลังค้างไว้)
และกว่าจะConfig แล้วประกาศ Routing ใหม่สำเร็จ ก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมงอยู่นะ
ปล. แต่ผมก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่า Config network บน Azure มีอะไรพิเศษกว่ามากแค่ไหนนะ เพราะเท่าที่รู้มา Facebook ใช้ Azure อยู่เป็นส่วนใหญ่ด้วย นอกจากDatacenterของตัวเอง