Tags:
Node Thumbnail

Blizzard ประกาศเลิกจัดงานประจำปี BlizzCon 2021 ที่รอบนี้จัดเป็นออนไลน์ล้วนในช่วงต้นปี 2022 ด้วยเหตุผลว่าต้องการนำทรัพยากร เวลา พลังงานที่ใช้จัดงาน ไปทุ่มให้กับการพัฒนาเกมแทน การประกาศนี้ทำให้ BlizzCon ไม่มีจัดเป็นเวลา 2 ปีติดกัน เพราะ BlizzCon 2020 ต้องยกเลิกไปเพราะ COVID-19

Blizzard ยังบอกว่าอยากขอเวลาคิดค้นรูปแบบงาน BlizzCon ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันและอนาคต และ BlizzCon จัดมานาน 16 ปีแล้ว แต่แทบไม่เคยเปลี่ยนแปลงรูปแบบเลย ในขณะที่อุตสาหกรรมเกมเปลี่ยนไปมาก เดิมที BlizzCon เป็นเวทีแข่งเกมมัลติเพลเยอร์แบบเห็นหน้า ผู้เล่นทุกคนอยากมาเจอตัวกันจริงๆ ปีละครั้ง แต่รูปแบบการเล่นมัลติเพลเยอร์ในปัจจุบันเปลี่ยนไปจากยุค LAN party มากแล้ว

สุดท้าย Blizzard บอกว่า BlizzCon ในอนาคตจะต้องยึดหลักความปลอดภัย การต้อนรับทุกคน และความหลากหลาย (inclusive) ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งตรงนี้คงหมายถึงมรสุมด้านวัฒนธรรมองค์กรที่กำลังรุมเร้า Blizzard อยู่ในขณะนี้

ที่มา - Blizzard

Get latest news from Blognone

Comments

By: Perl
ContributoriPhoneUbuntu
on 27 October 2021 - 09:27 #1229311
Perl's picture

ไม่มีอะไรจะเสนอ Diablo Immortal, Diablo 4 น่าจะเสร็จชาติหน้า ส่วน Diablo 2 ฝรั่ง Fefund กันหมด เซิฟกาก ถ้าไม่ติด PSN TH ผมคง Refund ด้วย แถมเพิ่มปัญหาด้วยการใส่ระบบ Queue เข้าไปอีก

นับวันเริ่มหมดความน่าเชื่อถือเหมือน EA เข้าไปทุกที

By: darknw on 27 October 2021 - 22:24 #1229431 Reply to:1229311
darknw's picture

Refunded เรียบร้อยแล้วของ PC ครับรอบแรกไม่ยอม สุดท้ายบ่นไปเลยยอมคืน

By: IDCET
Contributor
on 27 October 2021 - 10:00 #1229317

ผมว่า Blizzard นี้น่าจะแย่ตั้งแต่มารวมกับ Activision แล้วนะ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรเลยด้วยซ้ำ


ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว

By: whitebigbird
Contributor
on 27 October 2021 - 11:36 #1229330 Reply to:1229317
whitebigbird's picture

มันแย่ลงเพราะองค์กรใหญ่ขึ้น ผมเดาว่าเป็นองค์กรแบบที่มี comfort zone สูงจนเป็น culture ขององค์กรไปแล้ว พวกที่อยู่นานเพราะติด comfort zone ก็เรืองอำนาจ องค์กรหากินวนอยู่แต่กับความสำเร็จ ทีมก็ทำอะไรแบบ comfort zone วนไปเรื่อยๆ

อาจเป็นเพราะระดับหัวๆ เป็นพวกติด comfort zone ก็ได้ เลยส่งผลต่อองค์กรขนาดนี้

By: IDCET
Contributor
on 27 October 2021 - 12:36 #1229341 Reply to:1229330

ผมว่า Rockstar Games ในเครือ T2 ก็น่าจะประสบปัญหานี้เหมือนกัน แม้จะไม่ใช่ปัญหาเดียวกันกับ Activision

แต่จากที่กระทบกับ Modder ฝั่ง single-player และสร้างเนื้อหาในเกมเก่าๆ แต่ไม่แก้ปัญหาบนฝั่ง Online ที่เรื้อรังอยู่ ออกอัพเดตห่วย ไม่มีภาคใหม่ออกมา บริการสนับสนุนที่แย่ และไม่ใส่ใจลูกค้า เละพอกัน

แล้วก็ตอนนี้ กำลังจะเอาเกมเก่าทั้ง 3 ภาคหลักมาออกใหม่ที่ปรับปรุงกราฟฟิค ที่ตอนนี้หลายคนก็ไม่ค่อยหวังสูงเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะเรื่องการแก้ปัญหาในเกมเก่าๆ ไม่มีอัพเดตอะไร จนต้องมีคนออก Mod มาแก้เองหลายอย่างได้เกือบจะหมดแล้ว หรือรายละเอียดที่คนเล่นอยากให้เพิ่มและแก้ในตัวเกมใหม่

เศร้าที่ค่ายเกมที่เคยเป็นขวัญใจของคนเล่นเกมหลายๆ คน และค่อนข้างเป็นมิตร กลายเป็นบริษัทที่ไม่มีใครอยากจะคบด้วย แต่มีบุญเก่าติดตัว แม้แต่ผู้ให้เสียงพระเอกในเกมภาคหลักยังมีปัญหากับ Rockstar เกือบทุกภาคเลย


ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว

By: NoppawanConan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 27 October 2021 - 17:23 #1229395 Reply to:1229341
NoppawanConan's picture

ก็ขนาดที่ว่าไล่ฟ้องคนทำ Mod เอาภาคเก่ามาทำภาคใหม่ แล้วสุดท้ายก็เอาภาคเก่ามาย้อมแมวขาย แค่ปรับให้มันสวยงามขึ้นแต่ราคาแพงกว่าเดิม ส่วนโหมดออนไลน์ ก็สมน้ำหน้าที่โดน FiveM แย่งกันไปเยอะเพราะแบบนี้


แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที

By: tisana
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 27 October 2021 - 14:39 #1229366 Reply to:1229317

+1 ผมว่าเมื่อก่อน พอเป็นค่ายเล็กแล้วไม่ค่อยมีความกดดันจากนักลงทุนด้วย ได้ทำเกมในแบบที่อยาก ไม่โดนกดดันเรื่อง timeline มาก พอโดนซื้อไปนี่เป๋เห็นๆ

By: peakna
Android
on 27 October 2021 - 10:59 #1229325
peakna's picture

ไม่เหลือความขลังแล้วค่ายเกมส์นี้เอาจริงๆทำเกมส์ภาคต่อก็แสนนานระบบวนๆ ยิ่งการทำอะไรให้ผู้เล่นแล้วมาแก้ไขตัวละครให้มันเก่งน้อยลงยิ่งทำให้ภาพจำจากผู้เล่นแย่ลงไปอีก