Eric Roth ผู้เขียนบทภาพยนตร์ไซไฟเรื่อง Dune เปิดเผยว่าเขาเขียนบทด้วยโปรแกรม Movie Master บน MS-DOS ซึ่งเป็นโปรแกรมที่หาไม่ได้แล้วในปัจจุบัน
Eric Roth เป็นนักเขียนบทภาพยนตร์ชื่อดังหลายเรื่อง เช่น Forrest Gump (1994), The Insider (1999), Munich (2005) โดยชนะรางวัลออสการ์จากบทภาพยนตร์เรื่อง Forrest Gump ด้วย
วิธีการทำงานของ Roth คือใช้คอมพิวเตอร์ที่ยังเป็น Windows XP แล้วเปิด Movie Master 3.09 ขึ้นมาในคอนโซล DOS แล้วนั่งเขียนบทไปเรื่อยๆ เมื่อเสร็จแล้วจึงพิมพ์ลงกระดาษเพื่อส่งให้กองถ่ายภาพยนตร์ ซึ่งต้องนำไปสแกนใส่ในคอมพิวเตอร์อีกรอบ
เหตุผลที่ Roth เขียนในเครื่อง DOS เพื่อไม่ให้เสียสมาธิกับเรื่องอื่นๆ บนอินเทอร์เน็ต และเพื่อความปลอดภัยของตัวบทด้วยเพราะมีอยู่เฉพาะในคอมพิวเตอร์เครื่องนี้เท่านั้น เขายังบอกว่าด้วยข้อจำกัดด้านหน่วยความจำของโปรแกรมทำให้บทยาวได้สูงสุด 40 หน้า ทำให้เป็นข้อจำกัดของเขาด้วยที่ต้องเขียนบทให้จบภายใน 40 หน้าเช่นกัน
George R.R. Martin ผู้เขียนนิยาย Game of Thrones ก็เป็นอีกคนที่ใช้ DOS แต่ใช้อีกโปรแกรมคือ WordStar 4.0
ที่มา - VICE
Comments
ไอ้เราก็นึกว่าใช้เครื่อง Intel i486DX2 RAM 8MB ที่ลง DOS ไว้
ปล. ของไทยคงเปิด CW แทน
c&c compatible
สเปคเครื่องแรกของผมเลย
นี่นักเขียนบทออสการ์หรือราชการไทย
ต้องส่งโทรสารด้วยครับ ถึงจะเป็นราชการไทย
นึกถึงเลย J. K. Rowling ที่เขียนบทตอนจบใส่ซองกระดาษแล้วเก็บไว้ในตู้เซฟที่บ้าน
คอมหาย hdd พัง ก็หายนะเลยนะนั่น
ไม่ต่อเน็ตอันนี้พอเข้าใจได้ แต่อยากใช้ text editor แบบไม่มีอะไรรบกวน พอจะใช้ VS Code แบบ Zen mode ได้ไหมนะ
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
notepad or wordpad ก็ได้มั้ง 55555
The Dream hacker..
เผื่อมี Plug In ใช้ AI ช่วยเขียนนิยาย/บทหนังให้
เดาว่า . .
เขาคงใช้ Dark Mode ตามกระแสนิยม
แล้ว save เป็นหลายไฟล์ไม่ได้เหรอนั่น?
.
ใช้ Windows XP แล้วมันไม่ต่อเน็ต? ถ้าไม่ต่อเน็ต งั้นไม่ใช้ WordPad?
.
รู้สึกว่าวิธีคิดชวนงงดีแฮะ ^^'a
~ HudchewMan's Station & @HudchewMan~
เพิ่มเติมให้นิดนึง โปรแกรมที่แกใช้มันสร้างมาสำหรับเขียนบทหนัง ซึ่งบทหนังมันก็ไม่ใช่แค่พิมพ์ตัวอักษรยาวเป็นพรืด มันจะมีการกำหนดรายละเอียดของซีนนั้นๆ เช่น กลางวัน/กลางคืน, กลางแจ้ง/ในร่ม
ืคือเข้าใจว่าแกก็เหมือนคนแก่ทั่วๆไปที่ไม่ค่อยอยากจะเริ่มเรียนรู้อะไรใหม่ๆสักเท่าไหร่ จริงๆ บทหนังมันเขียนจากอะไรก็ได้ แค่ต้องจัด format เอาเองนิดหน่อย หรือเรื่องความปลอดภัยที่จริงๆมันก็ไม่จำเป็นต้องใช้คอมเก่าขนาดนั้นก็ได้ สรุปทั้งหมดทั้งมวลคือแกไม่ยอม move on นั่นเอง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกในวงการหนังเท่าไหร่
เคยเห็นบทหนังไทย สมัยที่เขายังใช้พิมพ์ดีดพิมพ์ แล้วก็บทหนังแบบที่เริ่มใช้คอมฯ พิมพ์ เป็นบทความสัมภาษณ์ท่านมุ้ย ซึ่งเริ่มใช้คอมฯ มาเขียนบทหนังเป็นคนแรก
ลักษณะก็มาดิบๆ ที่สามารถใช้พวกเวิร์ดโพรเซสเซอร์พิมพ์ได้น่ะครับ
ผมไม่เคยใช้และไม่เคยเห็นโปรแกรมพิมพ์บทหนัง (ทั้งดอสและวินโดวส์)
เลยยังนึกไม่ออกเหมือนกัน ว่ามันทำอะไรได้ แต่ก็น่าจะต้องสะดวกกว่าใช้เวิร์ดพิมพ์แหละ
ไม่งั้นเขาก็คงไม่ทำโปรแกรมมาขายหรอก ฮา
~ HudchewMan's Station & @HudchewMan~
โปรแกรมเขียนบทหนัง ประโยชน์มาก
เพราะอย่างท่านข้างบนว่า ไม่ใช่เขียนเป็นพรืด มี syntax อยู่คล้ายๆ โปรแกรมมิ่งนิดนึง เช่นถ้า indent เข้ามากี่ tab แล้ว text บรรทัดนั้นคืออะไร หรือตัวหนาแปลว่าอะไร เป็นชื่อคน บทพูด เล่าเรื่อง ทรานซิชั่น อธิบายเพิ่ม ฯลฯ ซีน เวลา ตัด ต่อเนื่อง ฯลฯ
ดังนั้นเราสามารถรู้ว่าบทนี้คนไหนโผล่หน้ามาฉากไหนบ้าง ครั้งแรกมาฉากไหน ฯลฯ สถานที่นี้ มีกี่ฉากกลางวันกลางคืน ฯลฯ
และก็ช่วยให้เขียนเร็วด้วย เช่นกดแท็บหรือเอ็นเทอร์ มันก็จะกระโดดไปให้ว่าเราจะเขียนอะไร ชื่อคน บทพูดหรือชื่อตอน สะดวกมากๆ บางอันนี่ถึงกับเอาข้อมูลไปเชื่อมกับการตัดต่อได้ หรือโปรแกรมวางแผนโปรดักชั่น ฯลฯ
แต่ไทยมาสายมั่วกันเยอะ ใช้โปรแกรมไม่เป็นส่วนมาก สมัยก่อนโปรแกรมก็ไม่ได้รองรับภาษาไทยด้วย แต่บางคนฟอร์แม็ตไม่เป็นด้วย เขียนภาษาอังกฤษให้ต่างชาติมาอ่านก็ไม่รู้เรื่อง อันนี้ไม่ค่อยน่าให้อภัย
ส่วนเรื่องเอาเน็ทออกนั้นเรื่องจริง บางเจ้าซื้อแม็คมา แล้วแกะฮาร์ดแวร์ไวไฟทิ้ง เป็นเรื่องสมาธิด้วย เรื่องความปลอดภัยด้วย ต่างชาติเขาซีเรียส พวกสตูมียามถือปืนหน้าตึก ห้ามเอาสื่อเข้าออกโดยพลการ กลัวก็อปหนัง ข้อมูลข่าวรั่วอีก
แต่สุดท้ายที่แกทำไรแปลกๆ ผมว่ามันคือเรื่องของการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอิ้อให้ตัวเองทำงานสร้างสรรค์ของตัวเอง ดังนั้นไปวิจารณ์ไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่เรื่องทางเทคนิก
คีย์บอร์ดช่าง classic ยิ่งกว่าเครื่องคอมอีก
แต่ save ไฟล์ออกมาแล้ว flash drive ก็อปไม่ได้เหรอเนี่ย จะได้สะดวกๆ หน่อย ฮ่าๆ
ไวรัสติดมากับ flashdrive จบเลย
I need healing.