Face ID เป็นเทคโนโลยีการยืนยันตัวตน ที่แอปเปิลใช้มาตั้งแต่ iPhone จนถึง iPad แต่ยังไม่มีการใช้ใน Mac อย่างไรก็ตามในการเปิดตัว MacBook Pro รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมติ่งหน้าจอ ซึ่งทำเพื่อให้ได้พื้นที่หน้าจอรวมมากขึ้น แต่ก็ทำให้หลายคนคาดเดาว่า เมื่อทำแบบนี้แล้ว ก็น่าจะมาพร้อม Face ID ไปด้วยเลย
ในประเด็นดังกล่าว Tom Boger รองประธานจากการตลาดกลุ่ม Mac และ iPad ของแอปเปิล ได้ให้สัมภาษณ์กับ The Wall Street Journal โดยเขาบอกว่า สำหรับแล็ปท็อปนั้น การใช้ Touch ID ยืนยันตัวตนมีความสะดวกมากกว่า เพราะอินพุทผู้ใช้งานก็อยู่ที่มือตรงคีย์บอร์ดอยู่แล้ว
เขายังตอบคำถามในอีกหลายประเด็น เช่น การไม่รองรับหน้าจอสัมผัส ซึ่งคำตอบก็คาดเดาได้นั่นคือ Mac ถูกออกแบบมาให้รับอินพุทแบบนี้ หากอยากได้หน้าจอสัมผัสก็ไปใช้ iPad ส่วนประเด็นที่ไม่สามารถอัพเกรดแรมได้เอง เขาบอกว่าเพราะเป็นการออกแบบฮาร์ดแวร์ ที่ปรับแต่งรวมทุกอย่าง ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด จึงไม่สามารถอัพเกรดแรมได้เอง
Comments
เพราะ Ramเทพ ราคา x5 สำหรับ Apple Ecosystems
มือถือก็ใช้นิ้วจิ้มตรงเครื่องอยู่แล้ว... โน๊ตบุ๊กก็ใช้ตามองจออยู่แล้ว...
เหตุผลฟังไม่ขึ้นเลย
[S]
+1 กำลังงงอยู่ว่าฉันใช้มือถือผ่านกระแสจิตหรอกหรือนี่...
เดี๋ยวใส่มาค่อยพูดอีกแบบ
+1
ถ้าเหตุผลแบบนี้ มือถือที่ต้องใช้มือจับตลอดเวลา ก็ควรมีแสกนนิ้วใต้หน้าจอได้แล้ว
ก็น่าจะตอบไปเลยว่า ก็สบายใจแบบนี้ ถ้าไม่ชอบที่เราออกแบบก็ไปดูตัวเลือกอื่นก็ได้
อยากถามว่า ทำไมเอาช่องใส่เมมกลับมา
แล้วก่อนหน้านี้จะเอาออกเพื่อ
แล้วอนาคตจะเอาออกอีกมั้ย 55
ลดต้นทุนก็บอกมาตรงๆ ทุเรศจริงๆ
The Last Wizard Of Century.
ใจเย็นไอ้สอง
TouchID ต้องขยับนิ้ว ถ้าใช้ FaceID ไม่ต้องขยับอะไรเลย ... เอา TouchID กลับมาใส่โทรศัพท์ก็ยังได้
เหมือนไปถามไม่ตรงคำตอบเค้าไง 555
อย่าให้เห็นว่าใส่มาในรุ่นหน้านะ
ไม่มีแต่ขนาดติ่งก็ใหญ่เกิน เหมือนเว้นไว้เตะบอล
ตอนแรกนึกว่าจะตอบว่ามีข้อจำกัดเรื่องความหนาของหน้าจอ
(แต่ยี่ห้ออื่นบางกว่านี้ก็ทำได้)
ตอบมาแบบนี้ยิ่งฟังไม่ขึ้นเลย
ไม่อินกับคำตอบ
เดาเลยว่าถ้าใส่มาแล้วจะขายราคานี้ไม่ได้ กำไรน้อยลงอีก
คิดว่าน่าจะติดปัญหา(ฝั่ง software) ทำให้ไม่พร้อม เพราะ การปลดเลย (แบบมือถือ) สำหรับ notebook มันอันตราย เพราะเราจ้องหน้าจอตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่การที่ต้องมากดอะไรเพิ่มเติม (แบบซื้อ app ด้วย faceid ที่ต้องกดปุ่ม power ก่อน) สู้เราแสกน touch id ไปเลยง่ายกว่า
iPhone ใช้ face id ตอนซื้อ app ก็ต้องกดปุ่มเพิ่มนะ
ผมว่าไม่นะครับครับเฟซไอดีมันจับอายคอนแทคด้วยลดความผิดพลาดได้ขยักนึง และก็สามารถเพิ่มตัวหน่วงการยืนยันด้วยการกดคลิกปุ่มยืนยัน2รอบได้ด้วยเพื่อกันการเผลอยืนยันโดยไม่ตั้งใจได้และไม่ทำให้ลำบากขึ้นด้วยเพราะเวลากดสั่งการบนแลบท้อปเม้าส์มันต้องชี้ไปหาปุ่มสั่งการบน ui ก่อนกดคำสั่งอะไรอยู่แล้ว ผมว่าเหตุผลน่าจะเป็นได้แค่ 2อย่างคือ ไม่กั๊กไว้ขายรุ่นถัดไป ก็ลดต้นทุน
โลกเรามีสิ่งที่เรียกว่า Windows Hello มานานละครับ
กำลังจะมาตอบเลย ตามนี้เลย
ใช้มาหลายปีแล้วชีวิตดีขึ้นเยอะ
ตอบไปเลยถ้าใส่ FaceID ราคาจะแพงขึ้นไปอีกเป็น Macbook Pro Max with M1 Max
เคยใช้ Windowsn Hello บอกเลย ไม่ทันยื่นมือวางบนคีย์บอร์ด เครื่องปลดล็อคเรียบร้อย เสียดายตอนนี้พัง ยังไม่ได้เปิดเคสซ่อมเลย ฮ่าๆ
แมคไม่มีทัสสกีนดีแล้ว ใช้เมาส์สะดวกกว่า อย่าหาทำตามไมโครซอฟต์
ใส่ Face ID มารุ่นหน้า ทำให้รุ่นหน้ามีการ upgrade เพิ่มขึ้นมา
ตอแหล ทีฝั่ง Windows เค้ายังใส่ Windows Hello Camera ร่วมกับ Fingerprint ได้
ผู้ใช้จะสะดวกใช้แบบไหนเรื่องของเขา
"หากอยากได้หน้าจอสัมผัสก็ไปใช้ iPad"
ผมเคยเจอคำตอบแบบนี้ตอนไปกินข้าว
"หากอยากได้แบบนั้นก็ไปกินร้านอื่น"
ความเห็นโดยรวมคือสินค้าตัวนี้กากมาก หวังว่าในบอร์ดนี้จะไม่มีใครไปหลงซื้อมาใช้
อันนี้ประชดหรือว่าพูดจริงอะครับ ?
คนนี้เขาขาประจำอยู่แล้ว
นึกว่าซอยเถิดเทิง มีคนคุมด้วย
ขนาดนั้นเลย
งั้นตอนนี้ถ้าจะต้องซื้อ Macbook ใหม่ใช้ทำงาน จะมีตัวเลือกไหนบ้าง
จะไปรุ่นเก่าที่พอร์ทน้อยประหลาดๆกับซีพียูเดิมๆและทัชบาร์ของเขา หรือรุ่นใหม่กากๆนี้
เอ่อ………
เสียดายโควตา ไม่ตอบดีกว่า
เดี๋ยวนะ...
??
2021 มีติ่ง, 2022 ติ่งเล็กลง, 2023 ติ่งเท่าเดิมแต่มี Face ID v1, 2024 ติ่งเท่าเดิมแต่มี Face ID v2, 2025 ไม่มีติ่งแล้ว ...ไชโยโฮ่ร้องว่านวัตกรรม! เราใส่ทุกอย่างทำไมในเมื่อขยักขายทีละปีได้กำไรทุกปี ...จริงไหม
เพราะจอคอมมันทำให้กล้องจับมุมกว้างกว่ามือถือรึเปล่า ถ้าคนผ่านไปผ่านมามีคยอื่นมาจ้องหน้าจอเรา ทำให้ face id ต้องถามย้ำตอนที่เจ้าของใช้จะทำให้รำคาญ อะไรทำนองนี้รึเปล่า (แถให้)
เพราะแอปเปิ้ลรักสิ่งแวดล้อมครับ
การไม่ใส่ face ID เข้ามาเป็นการทำให้สิ่งแวดล้อมถูกทำลายน้อยลง
ถ้าใส่เข้ามาจะทำให้มีขยะเพิ่มขึ้นอีก 4129 ล้านตัน
ทำให้เกิดขยะพิษซึ่งกำจัดไม่ได้ด้วยวิธีปกติ
เราคิดแล้วทุกอย่างก่อนจะออกผลิตภัณฑ์ขึ้นมาเราหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ผู้ใช้เสมอครับ
อีก 2 ปีถัดไปถ้าเราออกสิ่งนี้มาใช้ค่อยหาคำตอบใหม่อีกทีนึง
มีความกล้าหาญ
?
ติ่งน่ะ พื้นที่ตั้งเยอะตั้งแยะ ยัด Face ID ก็ยังได้ ผมเดาว่าซอฟต์แวร์ไม่พร้อมมากกว่า พอไม่พร้อมก็แถไปว่าสแกนลายนิ้วมือก็พอ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
พอมี Apple Watch ก็ดีหน่อย แต่ถ้าคนไม่มีก็แสกนนิ้วแทน แต่ถ้าใช้หน้าได้ก็จะดี =,,= Apple หนอ ครึ่งๆ กลางๆ มีติ่งแล้วก็ไม่เอามาใส่อีก
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
จะว่าไป ถ้าพลังงาน ชิป M โหดขนาดนี้แล้ว iPad Pro gen หน้าน่าจะให้ USB C ซัก 2 รู แล้ว ต่อ Hub แล้ว สลับมารัน Mac ได้ด้วยไปเลยนะ ..... ไหนๆๆก็ HW เดียวกันแล้ว
ทำแยกกันสองแบบ ขายได้สองชิ้นนะครับ
S T O N K
แซวคนอื่นเยอะ คอมเม้นต์เบิ้ลด้วยเลย ?
ไม่ใส่ face id ยังพอเข้าใจได้ แต่ไม่ใส่ center stage มาทั้งที่ใน ipad รุ่นใหม่มีหมด อันนี้น่าแปลก
ผมมองว่าในไอโฟน ใช้ face id เพื่อ unlock ก็จริง แต่มันจะยังค้างอยู่หน้าจอล็อคจนกว่าจะปัดหน้าจอขึ้นเข้าหน้าโฮม
ถ้าเอา face id ไปใช้กับ macbook pro เมื่อ face id มัน unlock หน้าจอแล้วก็ควรทำคล้ายๆ กัน คือกดปุ่มไหนสักปุ่มเพื่อเปลี่ยนจากหน้าจอล็อคเป็นหน้า desktop
คือยังไงก็ต้องกดปุ่ม ก็กดปุ่ม touch id ทีเดียวให้มันไปเลยสิ
แถมยังมีกรณีที่ face id ถ่ายเจอคนหลายคน มันก็ต้องหาอีกว่าหน้าไหนมีสิทธิ์ใช้เครื่อง แถมถ้าทุกหน้าที่เจอมีสิทธิ์ใช้ทุกคนอีก มันจะต้องทำยังไง นี่ยังไม่รวม feature สลับผู้ใช้ทันทีของ touch id ด้วยนะ
คงต้องเลือก user ที่ login เข้าก่อนนะครับ ถ้ามีหลายคนหลาย user
กดปุ่ม ctrl กับ scan นิ้วที่อยู่ไกลสุดนี่ก็ต่างกันเยอะนะครับ
แล้วบน iPad นี่ทำยังไงนะครับ?
iPad เหมือนจะดีไซน์ให้ใช้สำหรับคนเดียวเหมือนไอโฟนมากกว่านะครับ
แต่มันมีอุปกรณ์เสริมที่ใช้แล้วก็อยู่ท่าเดียวกับ laptop นี่ครับ
แต่ iPad มีหลาย User ไม่ได้นะครับ
อ้อ ผมเข้าใจว่าหมายถึงคนยืนมุงหน้ากล้องครับ ?
เหลือที่ขนาดนั้น ยังไงซักรุ่นก็น่าจะใส่มาแหละ ถึงตอนนั้นก็ปั้นคำพูดสวยหรู แล้วแฟนคลับบางคนก็คงว้าวกัน
หลังๆมานี่ผมรู้สึก Apple คำพูดกับการกระทำมันดูสวนๆกันเองยังไงไม่รู้ อย่างตอน USB-C ที่อวยสุดๆตอน Macbook แต่ไม่ยอมเปลี่ยนให้ iPhone ซะทีหรืออย่าง 3.5mm ที่เอาออกไปใน iPhone ก็สับว่ามันไม่ดี แต่ก็ใส่มาให้ใน Macbook หรือตอน Face ID ที่ฟันทั้งอวยทั้งสับแสกนลายนิ้วมือว่าไม่ปลอดภัยอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ใน Macbook ก็เลือกใส่แสกนลายนิ้วมือแทนแสกนหน้าอยู่ดี
ถ้าแรม ราคานี้ แล้วได้ HBM ผมคงไม่บ่นมาก
แต่มันดันเป็น LPDDR นี่ล่ะเลยแอบเซ็ง
แต่สปีด 200GB/s กับ 400GB/s ก็โหดอยู่นะครับ เทียบกับ DDR5 Dual Channel ปกตินี่ได้ 160GB/s เอง
แต่ว่าถ้า HBM จริง น่าจะโหดครับ ไม่ได้หมายถึงความเร็วนะครับ 555 ด้วยราคาแอปเปิ้ลแล้ว
เห็นว่า HBM2 ทำได้ 460GB/s ต่อกอง แล้ว M1 มีสองกอง น่าจะทำได้ถึง 960GB/s นะครับ 555
บวกมันหน้าด้าน ๆ นี่ล่ะ ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ มันก็ไม่น่าถึง ฮา
ใกล้เคียงแหละครับผมว่า แต่ถ้าแอปเปิ้ลใช้ HBM จริง ก็อย่างที่บอกครับ ราคาน่าจะแรงกว่านี้มาก 555
เพราะงั้นผมว่าตอนนี้ของแอปเปิ้ล อัพแรม 16 กิก ราคา 14000 บาท แล้วได้ความเร็วระดับนี้ก็ถือว่า ..... แพง แพงโว้ยย แพงชิบ......
มองยังไงก็เก็บไว้กั๊กมากกว่า แต่ถ้าต้องมาถอดหน้ากากทุกครั้งที่เปิดเครื่องตอนอยู่ใน บ ก็เสี่ยงพอควรอยู่
"หรือยังแพงไม่พอ ?" 555
เค้าคิดมาดีแล้ว ทนๆ นี้แหละส่งที่ผู้ใช้ต้องกการ สดวก สบาย
เคยไปเข้าห้องเรียนมหาวิทยาลัยในเนเธอร์แลนด์ สังเกตว่านักเรียนเกือบทั้งห้องติดตัวปิดกล้องหน้าจอแล็ปท็อป ไม่เป็นแบบเลื่อนได้ก็เอาเทปมาปิด เหมือนกับไม่เชื่อใจใน privacy security ของคอมพิวเตอร์ ไม่ว่ายี่ห้ออะไรก็ตาม
ถ้าถามเด็กมหาวิทยาลัยกลุ่มนี้ว่าให้เลือกระหว่าง touch id กับ face id เค้าน่าจะเลือก touch id เพราะเวลา login เข้าคอม จะได้ไม่ต้องมาเปิดๆ ปิดๆ ตัวปิดกล้องหน้าจอ
สำหรับผมการไม่ใส่ face id โดยจะอ้างเหตุผลเรื่องของ UX กับ privacy security ก็ฟังขึ้นอยู่ เพราะถ้าให้เลือกว่าต้องกดยืนยันตัวตนโดยกดปุ่ม physical key เฉพาะแบบ touch id กับใช้ mouse กดปุ่มบน windows pop-up (ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการใส่ password หรือยืนยันการจ่ายเงิน) ผมกลัวจะเผลอกดอย่างหลังโดยไม่ตั้งใจมากกว่า
ผมว่าอันนี้มีประเด็นที่สุด เห็นชาวออฟฟิศก็ปิดกัน ให้มาเลื่อนปิด เลื่อนเปิดน่าจะไม่สะดวก
บน iPhone นี่ไม่กลัวเหรอครับ?
บน iPhone ต้องกดปุ่ม Sleep/Wake ยืนยันครับ
ไม่ได้ใช้ Face id ของ Apple อยู่ใช่ไหมครับ
ไม่ได้ใช้ครับ
แต่ก็หมายความว่ามันออกแบบเพื่อแก้ปัญหาที่ว่าได้นะครับ
ถ้าตามวิธีการที่ Apple ทำอยู่ก็คือการให้กดปุ่ม Physical Key อีกปุ่มยืนยัน ในเชิง UX เลยมีค่าเท่ากันว่าต้องขยับมือไปอีกขั้นอยู่ดี Designer ของ Apple อาจจะคิดว่างั้นก็มีแค่ Touch ID อย่างเดียวไปเลยแล้วกัน
Apple อาจจะไม่ใส่เพราะอยากลดต้นทุนหรือจะกั๊กก็ได้ครับ แต่อย่างที่บอกว่าถ้าจะเอาเรื่อง UX หรือความกังวลใน Privacy Security ของ User บางกลุ่มก็มีเหตุผลอยู่
แต่ผมไม่ค่อยคิดว่า Apple ตัดสินใจในการใส่หรือไม่ใส่อุปกรณ์อะไรด้วยเหตุผลลดต้นทุนเป็นหลัก เพราะ Apple มีวิธีหาเงินแพงๆ จากทางอื่น เช่น Ram แพง SSD แพง คิดว่าเป็นเรื่องของ Design Choice แล้วก็ความดื้อในวิธีคิดของตัวเองบางอย่างมากกว่า หรือพูดอีกอย่างถ้า Apple จะเน้นแนวทางลดต้นทุนในการออกแบบ Products เราน่าจะได้ใช้ Mac หรือ iPhone เป็นพลาสติกกรอบแกรบ ไม่มี Force Touch ใน Trackpad ไม่มานั่งออกแบบ Touch Bar หรือ Butterfly Keyboard (ที่ failed)
อันนั้นคือกรณียืนยันตัวตนนะครับ ตัวที่ใช้บ่อยกว่ามากอย่างการปลดล็อคหน้าจอกับปลดล็อคแอปก็ไม่ได้ต้องกดอะไรนี่ครับ
ที่ reply คุยกันมาทั้งหมดก็พูดถึงเรื่องยืนยันตัวตนนี่ครับ
ขอโทษที่คุยคนละประเด็นนะครับ ผมเข้าใจว่าเอาเรื่อง Face ID, Touch ID
แต่อันนี้คือการปลดล็อคหน้าจอไม่นับว่าเป็นการยืนยันตัวตนใช่ไหมครับ อันนี้ผมก็น่าจะหลุดไปเหมือนกัน
เรื่อง privacy มันก็ไม่มีอะไรต่างจากกล้องปกติเลย ส่วนเรื่อง UX หรือเรื่อง Software อื่นๆก็คงตอบได้แค่ว่า Apple เป็นบริษัท IT ระดับโลกนะครับ
ท้ายที่สุดแล้ว.. ทั้ง face id และ touch id มันใส่มาทั้งคู่ได้ครับ ใส่มาทั้งคู่ให้ผู้ใช้เลือกใช้เอง ใครสะดวกแบบไหนก็ใช้ไป คนอยากใช้ก็ได้ใช้ ส่วนคนที่ปิดยังไงเขาก็ปิดกล้องอยู่แล้วไม่ต่างกัน นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ครับ แต่ Apple มักจะไม่ทำแบบนั้น
Apple มันดื้อครับ
Apple "ไม่" เคยออกแบบมาให้ผู้ใช้คิดอยู่แล้วครับ Apple "คิด" มาให้ผู้ใช้ก่อนเสมอมา
เป็นทั้งข้อดีและข้อเสียของ Apple
Think different (with consumer)
ส่วนตัวคิดว่ากั๊กไว้ ไม่ก็หาวิธีเลี่ยงไม่ให้ไปโดน สิทธิบัตรปลดล๊อคด้วยใบหน้าของฝั่ง Windows ไม่ได้ ..อาจจะต้องรอ หรือเจรจากับ Windows ก่อนฮะ จริงๆเรื่องสิทธิบัตรเป็นปัญหาที่หลายคนลืมนึกถึง
แสกนหน้าเนี่ย Windows Hello ของ MS มันก็ใช้ดีอยู่นะ ดีกว่ากดพาสเองอีก
สงสัย ยังไม่รู้จะทำยังไงให้มันดีกว่า MS เพราะถ้าใส่มามันต้องเอามาโม้ได้ด้วย
เรื่องจอสัมผัสเนี่ย นึกว่าจะไล่ให้ไปหา MS
รองประธานทางการตลาดเขาก็ต้องตอบให้มันเป็นเชิงบวกและฟังดูแย่น้อยที่สุดแหละ มันก็ทำออกมาแบบนี้แล้วก็ต้องขายแบบนี้ ก็อาจจะมีสักเหตุผลที่ตอบๆ มาด้านบนเป็นคำตอบหรือเหตุผลจริงๆ แต่จะให้ตอบแบบแย่ๆ อย่างที่ว่าๆ มา ก็เจ๊งกันพอดีสิครับ
ข่าวลือ "Brain Wave ID" กำลังมา
ยุคใส่หน้ากากยังไม่ทำมือถือสแกนนิ้วอะครับๆ