หลังศาลรัฐธรรมนูญถูกแฮกเมื่อวาน วันนี้นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) แสดงความเห็นในกรณีนี้ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าการแฮกเป็นเพียงการดิสเครดิต ไม่มีข้อมูลหายและระงับการเข้าถึงเว็บแล้ว
ส่วนระบบหลังบ้านเว็บ ก็เป็นการจ้างบริษัทเอกชนเข้ามาดูแล เจ้าตัวคาดว่าคงไม่มีมาตรการป้องกันที่เพียงพอ และคาดว่ายูสเซอร์เนมและพาสเวิร์ด อาจจะหลุดจากแอดมิน หรือแฮกเกอร์เจาะเข้ามาเอง ซึ่งทั้งหมดกำลังสืบสวนกันอยู่ และก็คาดว่าการกู้เว็บคงยาก
เบื้องต้น กระทรวงดิจิทัลฯ จะร่วมมือกับ คณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อหาผู้กระทำ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากระบบตรวจสอบการบุกรุก ซึ่งต้องใช้เวลา
นอกจากนี้ รมต. DES ยังกล่าวด้วยว่า ที่หน่วยงานรัฐมักถูกโจมตีบ่อย เป็นเพราะหลายหน่วยงานมีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณด้านความปลอดภัยไซเบอร์
ที่มา - มติชน
ภาพจาก Facebook กระทรวง DES
Comments
พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เลยใช้โอกาสนี้ของบเพิ่ม?
ผมนี่ยกนิ้วให้เลยครับ
ร่วมยกด้วยเลยครับ
งัยละพวกมึง ต่อยมวย ชั้นเชิงมันต่างกัน
ผมนี้ ยืนขึ้นปรบมือให้ท่านเลย ยอม
แบ่งงบมาทำอะไรแบบนี้ก็ดีนะครับ
เอางบไปทำวัคซีน โควิด ดีกว่า
ราคาเว็บไม่ใช่จะถูกๆ แต่คุณภาพของที่ได้...
The Dream hacker..
งบน้อยจริงอ่ะ
ทำไมเรื่องข้อมูลจากหน่วยงานรัฐอื่น เช่น ข้อมูลจากโรงพยาบาลที่หลุด ประชาชนเป็นผู้เสียประโยชน์โดยตรง ไม่ไวแบบนี้บ้าง
+112
เป็นการแสดงตวามเห็นที่ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย
ข้อมูลหลุด ประชาชนเดือดร้อนกลับเงียบ แต่พอเป็นเรื่องนี้ละอย่างไว
เว็บที่ปลอดภัยต่อการแฮกก็ไม่ได้ต้องแพงอะไร ยิ่งเว็บที่ไม่ได้มีระบบอะไรซับซ้อนยิ่งแล้วใหญ่
The Dream hacker..
เดี๋ยวนะ password ไม่ได้ hash ?
"ที่หน่วยงานรัฐมักถูกโจมตีบ่อย เป็นเพราะหลายหน่วยงานมีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณด้านความปลอดภัยไซเบอร์"
นโยบายด้านความปลอดภัยฯ แทบไม่ต้องใช้เงินงบประมาณเลยครับ
หน่วยงานราชการหลายๆแห่ง ยังใช้ password เป็น 1234 อยู่เลย ถ้าไม่ใช่ ก็เล่นติด username-password ไว้ที่หน้าจอ monitor ....
ผมเจอ 3 แผนกครับตั้งงี้เลย ก็ 1111 2222 3333
User ก็รหัสสาขา
อีกเรื่องคือเรื่อง Centralize กับระเบียบมากกว่า...เอกชนก็เป็นครับ
คือพอมีเรื่องต้องเปลี่ยนรหัสนี่มันก็ต้องทำบันทึก"กระดาษ"แจ้งขอเปลี่ยน
ยิงไป สนง. กทม. หรือ สำนักงานภูมิภาคที่ดูแล แล้วค่อยมีการนัดหมาย
แจ้งว่าจะทำการเปลี่ยนรหัส สิริ อย่างน้อยๆ 2-4 สัปดาห์กับการเปลี่ยน
จากนั้นก็จะมีกระดาษแจ้งว่าเปลี่ยนเรียบร้อยแล้วกลับมา ฮาๆๆๆๆๆ
ส่วนของผมที่เคยเจอบริษัทฯตัวเองพีคที่สุดคือ ติดต่อไปว่าระบบไฟวอร์ล่ม ไม่จ่าย IP
ทาง สนง. กทม. บอกให้ผมเอาคอมไปต่อหน่อยจะรีโมทเข้ามา.......ครับ
พีคต่อมาบอกจะให้ใช้ MB.Hotspot......เช็คไม่ได้ Firewall
เช็คเป็นการเชื่อมต่อจากภายนอกบล็อคการเข้าถึง ขำกลิ้งครับ
สรุปบอกผมทำตามเป็นหุ่นเลยชิหายยยยยยยย
หน่วยงานรัฐไม่ใช้ cloud ไม่ค่อยอัพเดท software ด้วย
หาช่องโหว่ตามบอร์ดต่างประเทศ จิ้มๆดูก็ได้อร่อยแล้ว
Back up ข้อมูลไม่มี? ก็แค่ล้างไพ่ จัดการระบบความปลอดภัย แล้ว upload Back up file ใหม่ แค่เนี้ย
DES ทำอะไรในสายงานตัวเองเป็นมั่งเนี้ยยยยย
...หรือเป็นแผน สร้างภาพผู้ก่อการว่า สร้างความเสียหายรุนแรงกับรัฐ (ทั้งที่จริงแค่ก่อกวน ไม่ได้เสียหายอะไรขนาดนั้น)
... หรือเป็นแผน เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส จะตั้งงบซื้ออะไรๆใต้หัวข้อ อุปกรณ์/ระบบรักษาความปลอดภัย
... หรือใช่มันทุกข้อ ?
หน่วยงานภาครัฐ ควรรวมศูนย์เพื่อทำ security ร่วมกัน มี portal ศูนย์กลางทุกหน่วยงาน การทำงบประมาณ เหมือนจ่ายแล้วทิ้ง ไม่มีการดูแลรักษา
ซื้อ Firewall/WAF ใหม่เร็ววว
เบิ้ลลล
คงอยากมาให้ใช้ Cloud ภาครัฐนั่นแหล่ะ ทำมาตั้งนานมีหน่วยงานเข้าร่วมนับหัวได้ เลยกระทุ้งเบาๆ แต่ใครอยากจะโยนงบของตัวเองมาให้คนอื่นใช้เล่า เหอะๆ ปัญหาโลกแตกของหน่วยงานภาครัฐ จริงๆ แล้วมันเป็นหน้าที่หลักของ DE เลยนะในการประสานความร่วมมือเรื่องพวกนี้ แต่ออกแนวประสานงาทุกที เจอหน่วยงานที่เขาแข็งๆ เรื่องไอทีตอกกลับมาถอยกันแทบไม่ทัน เจ้าหน้าที่เขามาบอกคำเดียวว่าไม่ไว้ใจระบบโครงข่ายของ DE ปัญหาเยอะ (พูดกันหลังบ้านนะ หน้าบ้านก็อย่างที่รู้กัน) จบข่าว เห็นมาหลายหน่วยและเอาเข้าร่วมก็ระบบเล็กๆ พอเป็นพิธี
ปัญหาหลักเลยคือเจ้าหน้าที่ที่รู้จริงมีน้อย จ้างเอกชน แล้วทำไมหน่วยงานอื่นเขาจะต้องมาให้ DE ดูแลให้ด้วยล่ะ ในเมื่อเขาเองก็จ้างเอกชนเก่งๆ ได้เหมือนกัน แถมสั่งได้ทุกอย่างถ้าเงินถึง ซึ่งหน่วยงานไอทีแข็งๆ ก็เงินถึงซะส่วนใหญ่ด้วยสิ ถ้าแก้ตรงความน่าเชื่อถือของกระทรวงไม่ได้ ก็ยากที่จะแก้ปัญหาพวกนี้ ออกมาแก้ข่าว แก้เขินพอเป็นพิธี
ตอนนี้จับคนร้ายได้แล้ว คนร้ายให้ user/password ที่เปลี่ยนได้ไหม อยากรู้