นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมให้สัมภาษณ์สื่อเกี่ยวกับดีลควบรวมกิจการระหว่างทรูกับดีแทค ระบุว่า ในทางธุรกิจเป็นสิทธิของบริษัทที่จะวางแผน หรือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการลงทุน
ส่วนฝั่งของกระทรวงและรัฐบาลยังอยู่ในระหว่างดูข้อกฎหมายอยู่ และติดตามสถานการณ์ โดยยังได้ไม่ลงรายละเอียดชัดเจน พร้อมกับระบุว่า ธุรกิจโทรศัพท์มือถือก็มีการแข่งขันอยู่แล้ว และตอนนี้ก็มีการกำกับดูแลโดยกสทช.
พร้อมระบุเพิ่มเติมว่าธุรกิจเหล่านี้มีหลายเจ้าไม่ได้อยู่แล้วเพราะต้นทุนสูง มีการใช้คลื่นความถี่ มีการให้สัมปทาน บางประเทศมีเจ้าเดียวก็ได้ รวมถึงถ้ามีหลายๆ เจ้า ต่างคนต่างลงทุนอาจเป็นการสิ้นเปลือง ทำให้เกิดต้นทุนที่สูงขึ้น ประชาชนก็จ่ายค่าบริการที่แพงขึ้น และต้องดูภาพรวมหลังจากการทำธุรกิจในระยะยาว แต่เชื่อว่ามีการกำกับดูแลอยู่แล้ว และในภาพรวมประชาชนจะได้ประโยชน์
จะผูกขาดยังไง!! ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส สวนกลับกรณีทรู-ดีแทค ควบรวมกิจการ ยันกสทช.ดูแลอยู่ เป็นเรื่องธุรกิจ ไม่ได้อยู่ในอำนาจที่จะไปกำกับดูแลได้ #ทรูดีแทค pic.twitter.com/0hEvYuhDTk
— ข่าวสด (@KhaosodOnline) November 23, 2021
กรณีคล้ายคลึงกันนี้เคยเกิดขึ้นที่สหรัฐฯ เช่นกัน ในช่วงปี 2018-2019 โดยเป็นการควบรวมของ T-Mobile กับ Sprint ดีลครั้งนั้นจบลงที่กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ อนุมัติการควบรวมโดยมีเงื่อนไขให้ T-Mobile และ Sprint ต้องให้ความช่วยเหลือด้านเครือข่ายกับบริษัท Dish เพื่อส่งเสริมการแข่งขัน ดีลนี้สำเร็จในปี 2019 แต่ล่าสุด Dish ก็มีปัญหากับ T-Mobile และเตรียมย้ายไปใช้เครือข่าย AT&T แล้ว
ที่มา - ประชาชาติธุรกิจ, ข่าวสด
Comments
พอเรื่องแบบนี้ทำไมเค้าดูแบ่งหน้าที่กันชัดเจนดีจัง
อ่านแล้วก็รู้สึกว่า ดีลผ่าแน่นอน
กสทช. เพิ่งจะบอกไปเองไม่ใช่เหรอว่าไม่อำนาจขัดขวาง แต่เป็นห่วง
ดีลนี้ไม่ผ่านก็แปลกแล้ว ยิ่งเป็นตอนนี้ยิ่งไม่แปลก
อำนาจเงิน ได้ทุกอย่าง ที่อยากจะได้
ทำอะไรได้บ้าง เห็นแต่ทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง
พวกเราจริง ๆ
!!!!!(ต่างคนต่างลงทุนอาจเป็นการสิ้นเปลือง ทำให้เกิดต้นทุนที่สูงขึ้น ประชาชนก็จ่ายค่าบริการที่แพงขึ้น)!!!!! ถอนหายใจแรงๆได้ใหมมม เหออออออ..พ่อเล่นตั้งราคาประมูลคลื่นแพงที่สุดในโลกแถมการประมูลรอบแรกมันก็เห็นชัดๆว่าปั่นราคาก็ยังจะเอาแบบนี้กันอีกเหรออออออออออ
ค
ฉีกทุกตำรากฎหมายแข่งขันทางการค้า
เห็นควรเพิ่มหน่วยกิจวิชาเศรษฐศาสตร์ในคณะวิศวกรรมศาสตร์ ดูจากตรรกะในด้านเศรษฐศาสตร์ของรัฐมนตรีดูผิดเพี้ยนไปเยอะ (ประชดนะไม่ต้องคิดมาก)
ปัญหาคือรัฐมนตรีจบโทเศรษฐศาสตร์ครับ 55555
ตอบแบบนี้ก็เป็นรัฐมนตรีได้
อืม...แต่ก็ไม่แปลก เพราะขนาดตำแหน่งสูงกว่ารัฐมนตรีก็ยังตอบ "ไม่รู้ๆ" ได้เลยนี่นา
ตำแหน่งสูงกว่านั้น ก็ต้องแก้ข่าวคำพูดตัวเองเรื่อยๆ โดนบิดเบือนบ้าง ไม่เคยพูดบ้าง (อันนี้แปลก พูดไปไม่กี่วัน คลิปก็มีเยอะแยะ)
ถ้าพูดแล้ว คนฟังเข้าใจหมู่มากเข้าใจไปทางเดียวกัน เห็นแย้งเหมือนกัน อันนี้มันต้องพิจารณาที่คนพูด หรือคนฟัง
หลายเรื่องละนะท่านนี้อะ
สงสัยว่าถ้า dtac หายไป (ไม่มีใครซื้อ ออกจากตลาดเอง) ก็จะยังคงเหลือเจ้าใหญ่ที่พอจะใช้งานได้ดีแค่ ais กับ true แบบนี้สองบริษัทเข้าข่าย duopoly ทันทีเลยหรือเปล่า
ก็กระทบกับการแข่งขันเหมือนกัน ผู้กำกับตลาดที่ดีจะไม่ปล่อยให้เกิดสถานการณ์แบบนั้น หรือถ้ามันเกิดแบบนั้นจริง ๆ จะต้องเร่งหาเจ้าใหม่ เอาคลื่น dtac เดิมที่ออกจากตลาดมาเร่ขายถูก ๆ หรืออาจจะแจกด้วยซ้ำแบบประคบประหงมเจ้าใหม่สุด ๆ เพื่อให้ตลาดเกิดการแข่งขันขึ้นมา
แบบนี้จะโดนครหาว่าเลือกที่รักมักที่ชัง แบ่งผลประโยชน์ไม่เท่าเทียมกับอีก 2 เจ้าหรือเปล่าครับ
ตอบแบบปัญญาอ่อนมาก อย่าตอบเลยดีกว่า และยุบหน่วยงานนี้ไปเหอะ เสียดายภาษีเปล่าๆ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
กระทรวงนี้ดันเป็นกระทรวงที่ members ส่วนใหญ่ของ bn รู้เกี่ยวกับเนื้องานมากกว่าคนที่รัฐบาลสามารถเลือกมาสวมหัวโขนคุมกระทรวงได้แทบทุกคน ก็เลยนะ พูดอะไรออกมาก็กลายเป็นเรื่องตลกไปซะหมด
ปล.คนเก่งๆมีความสามารถ พร้อมทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิ ไม่น่าจะมีวันได้รับแต่งตั้งม่าเป็น รมต. เพราะอะไรก็รู้ๆกันอยุู่
..: เรื่อยไป
คุ้นๆ ถ้าจำไม่ผิด รมต คนนี้มาจาก อดีต กลุ่มทุน gulf ไม่ใช่หรอ
duopoly อ่ะครับ ชิวๆ
ประเทศซีพีจริงๆ มีสมเด็จพระสัวธนินท์ เป็นประมุข
ประเทศ BTS Group && CP Group
เอาจริงๆ เขาก็พูดถูกแล้วนะ ดูแลอยู่ ดูแลให้ควบรวมกิจการได้สะดวกขึ้น ไม่ก็ ดูแล แบบ ดู กับ แล อย่างเดียว ไม่ทำอะไรนอกจากนั้น ฮ่าๆ
เหลือแต่สักเลก ครับ