พม่าเตรียมประกาศกฎหมายความมั่นคงไซเบอร์ฉบับใหม่ โดยเน้นความมั่นคงของรัฐบาลทหารปัจจุบันอยู่หลายส่วน
กฎหมายใหม่นี้จะให้อำนาจรัฐบาลเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้อินเทอร์เน็ต, แบนเนื้อหาได้ค่อนข้างกว้าง, เปิดทางให้ดักฟักการสื่อสาร, และจำคุกผู้วิจารณ์รัฐบาลหรือแม้แต่พนักงานของบริษัทที่ไม่ให้ความร่วมมือ อีกส่วนหนึ่งคือการเพิ่มโทษจำคุกผู้ที่ใช้บริการ VPN เพื่อหลบเลี่ยงการบล็อคเว็บ
ปีที่แล้ว Telenor เคยออกมายอมรับว่าถอนตัวออกจากพม่าเพราะรัฐบาลบีบให้ติดตั้งอุปกรณ์ดักฟัง การปรับกฎหมายครั้งนี้ก็เป็นการประกาศแนวทางนี้ออกมาชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษรจากเดิมที่เป็นคำสั่งลับของรัฐบาล
การควบคุมอินเทอร์เน็ตนับเป็นเป้าหมายสำคัญของกองทัพพม่าหลังเข้ายึดอำนาจ โดยกองทัพตัดอินเทอร์เน็ตหลายครั้ง ขณะบริษัทเทคโนโลยีทั้ง เฟซบุ๊ก, กูเกิล, และ TikTok พากันแบนบัญชีชวนเชื่อรัฐบาลทหาร
ที่มา - The Irrawaddy
ภาพโดย jarmoluk
Comments
เยี่ยมยอด จะไปก็ต้องไปให้สุดครับ
ดีครับ เพื่อความมั่นคงของประเทศ
Node TOR แถวนี้คงผุดเป็นดอกเห็ดแหงมาไม้นี้
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
Telegram ต้องเข้าแล้วแมะ
เปิดทางให้ดักฟักการสื่อสาร >> เปิดทางให้ดักฟังการสื่อสาร
โรลโมเดลรึเปล่าแบบนี้จะมีคนทำตามไหม
ดีที่บ้านเราไม่ถึงขั้นนี้
มั่นคง ในความล้มเหลวพังทลายแน่นอน
ฆ่าธุรกิจ Datacenter รวมถึงการสื่อสารให้ถอยหลังลงคลอง
ปิดอนาคตตัวเองซะงั้น ทั้งที่นักธุรกิจอีกหลายๆ ประเทศอยากจะเข้ามาลงทุนในกลุ่ม CLMV ด้วย
ตอนนี้ก็คงเหลือแค่จีนกับอีกไม่กี่ประเทศที่ยังอยากจะลงทุนอยู่
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ผมรู้สึกเองว่าถ้าประเทศใช้โมเดลแบบนี้มันก็จะมีนักธุรกิจเข้ามาแหละ แถมน่าจะชอบอีกด้วยเพราะไม่ต้องแข่งขัน แค่จับมือกับผู้มีอำนาจแล้วตัวเองก็จะอยู่ได้อย่างสบายแล้ว
เพียงแต่ประเทศก็จะเจอกับของแพงขาดการแข่งขัน ด้อยพัฒนากว่าประเทศอื่น ๆ เพราะต้นทุนสูง แต่สิ่งเหล่านี้จะปรากฎให้เห็นก็คงหลักยี่สิบปีขึ้นไปนั่นแหละถึงจะรู้ตัว
ทำไมไม่เปลี่ยนเป็นสังคมนิยมแบบเต็มตัวเลยครับ น่าจะไปได้ดีกว่าแบบที่เป็นอยู่ อาจพัฒนาไปไม่ถึงแบบจีน แต่อย่างน้อยก็เหมือนเวียดนามได้ก็ยังดี
ข้างในทำยังไงก็ได้ครับ แต่ขอในชื่อมีคำว่าประชาธิปไตยก็พอแล้ว มันดูดีในสายตาคนต่างชาติแน่นอน 555
ช่วงนี้กำลังเก็บกวาดบ้านอยู่ก็เลยต้องออกตัวแรงนิดหนึ่ง อาจจะเป็นเพราะเมื่อก่อนยังไม่มีต้นแบบการปกครอง เพื่อนบ้านทางตะวันตกก็เสรีนิยมก็ต้องลองเดินไปทางนั้น แต่พอเพื่อนบ้านทางเหนือเริ่มเก๋าเลยอยากจะเป็นตามนั้นบ้าง (บ้านเราก็อยากเป็นแบบนั้นอยู่เหมือนกันทำเป็นเล่นไป) ทิศทางก็เลยจะมุ่งตามเพื่อนบ้านทางเหนือแน่นอนครับ
ดูสภาพแล้วคงออกมาเหมือนเกาหลีเหนือมากกว่า
ผู้นำรวยจากการขายทรัพยากรธรรมชาติ ส่วนชาวบ้าน ใช้ชีวิตและคุณภาพชีวิตแบบprimitive เหมือน 50ปีที่แล้ว?
ผมว่าเพราะอยากใช้ประชาธิปไตยนี้ละเลย ปัจจุบันนี้เขายังระบบเดิมอยู่นะคนับ ยังมีหลายพรรคการเมือง และยังรอเลือกตั้ง(ถ้าเหตุการณ์สงบลง) มันก็จะวนลูปอยู่อย่างนี้
ไม่สู้เปลี่ยนเป็นคอมมิวนิสต์ มีพรรคการเมืองเดียวไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ
แนวคิดคอมฯแต่กับการปฏิบัติจริงนี่ก็นะ... ทุกคนเท่ากันยกเว้นชนชั้นปกครองอะครับ ไม่ต่างจากฟาสซิสต์เท่าไหร่เลย
แยกระบบการเมือง กับระบบเศรษฐกิจ ออกจากกันก่อนครับ
ระบบการเมือง ก็ เผด็จการ ประชาธิปไตย รัฐศาสนา ฯลฯ
ระบบเศรษฐกิจ ก็ ทุนนิยม สังคมนิยม ฯลฯ
การเป็นเผด็จการจึงไม่จำเป็นต้องเป็นสังคมนิยม
และประชาธิปไตยก็ไม่จำเป็นต้องเป็นทุนนิยม
มีแต่คอมมิวนิสต์ที่เป็นแพ๊กคู่
ที่รากความคิดเป็นสังคมนิยมสุดโต่ง
แต่เพื่อไปถึงจุดนั้น จะต้องมีการรวบอำนาจการเมืองเบ็ดเสร็จ
จะได้บังคับใช้ระบบเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์ได้
ทำกันขนาดนี้ก็เปลี่ยนระบอบดีกว่า ตอนนั้นต่างชาติเรียงหน้าแบนก็ดูไม่แคร์อะไร คงไม่ต้องเลือกตั้งหรอกเอาจริงๆ
ประเทศสารขัณฑ์มี role model แล้ว