เว็บไซต์ Business Insider รายงานข่าวว่า ไมโครซอฟท์ยกเลิกโครงการแว่น HoloLens 3 ไปตั้งแต่ปี 2021 และเปลี่ยนยุทธศาสตร์มาจับมือกับซัมซุงพัฒนาแว่นแทน (ข่าวของซัมซุงก็ยังเป็นข่าวลือ ไม่เคยยืนยันเป็นทางการ)
เหตุผลที่ไมโครซอฟท์ยกเลิก HoloLens 3 เป็นเพราะเป้าหมายของบริษัทก็ไม่ชัดเจนว่าต้องการทำอะไรกันแน่ ฝ่ายหนึ่งในบริษัทอยากทำเฉพาะซอฟต์แวร์ ในขณะที่อีกฝ่ายอยากให้ทำฮาร์ดแวร์ด้วย การยกเลิกยังส่งผลให้ทีม HoloLens หลายคนลาออกไปอยู่กับ Meta ที่ยังมุ่งมั่นผลักดันธุรกิจ VR/AR อย่างหนัก
โฆษกของไมโครซอฟท์ให้ความเห็นกับข่าวนี้ว่า บริษัทยืนยันว่าจะทำธุรกิจ HoloLens ต่อไป
ฝั่งซอฟต์แวร์ VR/AR ของไมโครซอฟท์มี Microsoft Mesh ที่เปิดตัวช่วงต้นปี 2021 เป็นแพลตฟอร์มสร้างโลกเสมือนจริงขนาดใหญ่ แต่พอปลายปี 2021 ก็ถูกลดสเกลลงมาเป็นระบบอวตารใน Microsoft Teams
ที่มา - Business Insider, PCWorld
Comments
ฝ่ายหนึ่งในบริษัทอยากทำเฉพาะซอฟต์แวร์ ในขณะที่อีกฝ่ายอยากให้ทำซอฟต์แวร์ด้วย
แบบนี้หรือเปล่าครับ
ฝ่ายหนึ่งในบริษัทอยากทำเฉพาะซอฟต์แวร์ ในขณะที่อีกฝ่ายอยากให้ทำฮาร์ดแวร์ด้วย
แก้ละครับ ขอบคุณครับ
ของดีขนาดนี้ก็ งง เด้ งง เด้
เขาคิดดีแล้วแหล่ะครับ Microsoft ได้งานสเกลใหญ่จากรัฐบาลสหรัฐสำหรับอุปกรณ์ HoloLens การที่บริษัทต้องรับภาระทั้ง SW และ HW ในโครงการด้วยมันมีความเสี่ยงมากเกินไป เฉพาะ HW ในโครงการที่สั่งซื้อก็ระดับหลายสิบล้านชุด (เฉพาะโครงการเริ่มต้นนะครับ ยังไม่รวมถ้ามีการต่อยอดกันอีก) การหา partner มาช่วยแบ่งเบาภาระน่าจะดีกว่า
Microsoft เองก็มีประสบการณ์แย่ๆ มาจากการ handle supplier ไม่ได้จนทำให้เกิดปัญหาใน Surface Pro 4 มาแล้วก็คงรู้ตัวเองดีว่าถ้าทำเองแล้วเกิด issue ที่ควบคุมไม่ได้จ่ายค่าปรับอานแน่ๆ ก็เลยต้องกระจายความเสี่ยงกันไป ซึ่งทาง Samsung ก็น่าจะพร้อมเสี่ยงด้วยอยู่แล้วเพราะมี supplier ในมือที่เป็นบริษัทในเครืออยู่แล้ว win-win ทุกฝ่าย ส่วนที่ย้ายไป meta น่าจะเป็นส่วนที่ดู HW อยู่ เอาจริงๆ นะ งาน AR/VR ในระดับ Ent หลักใหญ่มันอยู่ที่ SW และ Infra เลย ส่วน HW ต่อไปก็คงเปิดเป็น open platform ใครผลิตก็ได้ เพื่อลดต้นทุน และขยายตลาดเป็น consumer ผมคิดว่าอย่างนั้น ลองไปดูประวัติคอมพิวเตอร์ช่วงแรกๆ สิครับ ผมว่ามันกำลังย้อนกลับมาวนลูปอีกรอบนึง เพียงแต่เปลี่ยนจากคอมพิวเตอร์ เป็นอุปกรณ์ AR/VR
กลับมาเป็นแบบ Microsoft Watch, Windows Phone และ Zune อีกแล้วเหรือเนี่ย น่าเบื่อมาก เมื่อไหร่จะเลิกนิสัยแบบนี้เสียทีทั้งองค์กรเลย
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
จุดกระแสไม่ติดเพราะผูกติดกับหลายอย่างมากเกินมั้งครับ คงนึกว่าตัวเองเป็นแอปเปิล หรือไม่ก็อยากเป็นแอปเปิลอ่ะนะ
อยู่ดี ๆ Oculus (2) Quest 2 ที่ Update Version มาที่ละหน่อย ทีละหน่อย จนทำ Function AR (Passthrough) ใน VR ที่มีราคาแค่หมื่นกว่าบาทได้ ถึงแม้ตอนนี้ จะเป็นแค่ โหมดขาวดำก็ตาม แต่ VR ของ Meta รุ่นหน้า Project Crambria ที่กำลังจะออกอย่างช้าปีหน้า มาเป็น AR แบบเต็ม ๆ Color Passthrough ซึ่งราคาน่าจะอยู่ราว ๆ 3-4 หมื่นบาท Halo Lens ตัวละแสนกว่า ก็ต้องถอยซิ่ครับ
พนันกับผมไหมล่ะ ว่าสุดท้ายใครจะเป็นผู้ชนะ ผมถือหาง Microsoft กับ Apple นะ
รับคำท้าครับ บริษัทที่มี Vision ทำมาเกือบ 10 ปี และพอประกาศ Metaverse ปุ๊ป ก็รับคนทำงานเพิ่มอีกเป็นหมื่นคน กับบริษัทที่เพิ่งออกมา 2-3 รุ่น และกับบริษัทที่กำลังจะเริ่มเข้าวงการ พนันกันก็ดี มีข่าวออกมาจะได้ไว้ปลัฟกันสนุก ๆ
ต้องรอ apple มาทำก่อนใช่ไหม ถึงจะปัง