Gabe Newell ผู้ก่อตั้ง Valve ออกมาให้สัมภาษณ์ในโอกาส Steam Deck เริ่มวางขาย เขาเล่าว่า Steam Deck ถือเป็นวิวัฒนาการอีกขั้นของเกมพีซี เพราะถึงจุดที่เราสามารถสร้างฮาร์ดแวร์ที่เหมาะกับการพกพา มีอินพุตหลากหลาย จอที่คุณภาพดี ซีพียู-จีพียูที่มีพลังมากพอ แบตเตอรี่ที่อยู่ได้นานพอสมควร ในราคา 399 ดอลลาร์ได้สักที ช่วยเปิดศักราชใหม่ให้เกมพีซีที่พกไปเล่นที่ไหนก็ได้
เขายังเทียบ Steam Deck ที่เน้นราคาเข้าถึงได้ กับแว่น Valve Index ที่เน้นตลาดไฮเอนด์ ว่าโจทย์ต่างกัน เพราะแว่น Index ต้องการผลักดันประสบการณ์ของ VR ให้ก้าวหน้าไปอย่างดีที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ ต้องยกระดับทั้งคุณภาพของภาพ การตรวจจับวัตถุ การสวมใส่สบาย ฯลฯ ในขณะที่เครื่องเล่นเกมพกพา ไม่ได้ยกระดับคุณภาพของเกมพีซี แต่เป็นการนำเกมพีซีไปเล่นที่ไหนก็ได้ ในราคาที่เข้าถึงได้
Gabe ยังเปิดเผยว่า ลูกค้ากลุ่มแรกๆ ของ Steam Deck มักซื้อรุ่นความจุสูงที่สุด ซึ่งผิดความคาดหมายของ Valve ที่ตอนแรกคาดว่า 60-70% ซื้อรุ่นถูกที่สุด แต่เอาเข้าจริงแล้วกลับกัน เขามองว่าเมื่อฐานลูกค้าเริ่มขยายกว้างขึ้น ก็น่าจะเป็นไปตามที่ Valve คาดไว้
เขายังเล่าถึงบทเรียนจากเครื่องเล่นเกม Steam Machine ที่สอนให้ Valve เรียนรู้ว่าต้องทำฮาร์ดแวร์ด้วยตัวเอง การหวังพึ่งบริษัทอื่นๆ ผลิตฮาร์ดแวร์ให้ตามกรอบที่ Valve วางไว้อย่างตอน Steam Machine นั้นไม่เวิร์ค สุดท้ายแล้ว Valve ต้องเดินหน้าทำทุกอย่างเอง ตั้งแต่งานซัพพอร์ต การทำแพ็กเกจ ไปจนถึงประสบการณ์ใช้งาน
โจทย์ของ Valve นั้นมุ่งชัดว่าต้องการนำเกมพีซีอย่าง Final Fantasy XIV มาเล่นบนอุปกรณ์พกพา จึงต้องแก้ปัญหาทุกอย่างในฝั่งของซอฟต์แวร์ให้ได้ (เขายังเล่าว่าตอนนี้ติด FFXIV อยู่ หลังเป็นแฟน World of Warcraft มายาวนาน)
ที่มา - Rock Paper Shotgun
Comments
จะรองรับเกม PC ได้นานประมาณกี่ปีกันนะ
นวัตกรรมสุดๆ ของ Steam Deck ก็คือ ราคานี่แหล่ะ
เท่าที่ดูจากรีวิวแล้ว ปัญหาคือเรื่องแบตนี่แหละเล่นได้ประมาณ 2 ชม. เอง - -"
ถ้าไม่เล่น 3D โหด ๆ ก็ได้ยาวกว่านั้นนะครับ
เล่น FFXIV ด้วย controller นี่ขอยอมแพ้จริงๆ
เล่นทั่วๆไปพอไหว แต่ลง Savage, Extreme นี่ไม่รอด
อยากจะเชียร์ แต่เชียร์ไม่ลงจริง ๆ ด้วยความที่สัมผัสประสบการณ์ Linux Gaming มาอย่างยาวนาน
ขอเอาใจช่วยแล้วกันนะ 555
ผมว่ามันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของ Linux for gaming ก็ได้นะ เพราะ Steam Deck มันเป็นเหมือน "console" ตรงที่มีผู้เล่นรายใหญ่อย่าง Valve มาทำ hardware และ software เอง และทั้งคู่น่าจะไม่มีปัญหาเรื่อง "ความหลากหลาย" มาเป็นภาระให้นักพัฒนาเกมเหมือนกับที่ Linux เป็นอยู่ครับ