รัสเซียขู่จะบล็อคเว็บไซต์ WIkipedia ภาษารัสเซียเนื่องจากบทความเรื่องรัสเซียบุกยูเครนปี 2022 โดยทางการรัสเซียอ้างว่าบทความดังกล่าวเผยแพร่ข้อมูลที่ผิดกฎหมาย
สำหรับเหตุผลที่รัสเซียไม่พอใจบทความนี้ เนื่องมาจากในบทความมีรายงานเกี่ยวกับจำนวนคนตายของเจ้าหน้าที่รัฐฝั่งรัสเซียและประชาชนและเด็กชาวยูเครน โดย Roskomnadzor หน่วยงานควบคุมด้านการสื่อสารของรัสเซียต้องการให้นำข้อมูลนี้ออกจากบทความ
ตอนนี้บทความดังกล่าวถูกป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ใหม่หรือผู้ที่ไม่ได้ลงทะเบียนแก้ไข และผู้ที่จะแก้ไขได้จะต้องมีสถานะเป็นบรรณาธิการของ Wikipedia เท่านั้น
ฝั่ง Wikimedia Foundation องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ดูแล Wikipedia ระบุว่าหลังการบุกยูเครนก็มีการทำสงครามข้อมูลข่าวสารออนไลน์ ส่งผลให้เกิดการกระจายข้อมูลปลอมเกี่ยวกับวิกฤตครั้งนี้ ตอนนี้อาสาสมัครชาวยูเครนยังคงช่วยแก้ไขข้อมูลให้ Wikipedia และในโครงการอื่นของ Wikimedia เพื่อให้คนทั่วไปได้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่เป็นกลางและเชื่อถือได้ในช่วงเวลาวิกฤต
ที่มา - Engadget, Wikimedia Foundation, Reuters
ภาพ Nirzar Pangarkar/Wikimedia Foundation, CC BY-SA 3.0
Comments
เผด็จการนี่เหมือนกันหมดทั้งโลกสู้ด้วยข้อมูลไม่ได้ก็บล็อคมันเลย
ตามนั้น จากข่าวก่อน ๆพวกเผด็จการบล็อคตามกันมาเรื่อย ๆ
พวกเผด็จการมักคิดว่าความเห็นตัวเองถูกต้องเพียงฝ่ายเดียว
คนที่เห็นเหมือนกับตัวเองเท่านั้นที่ที่มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นได้
การบล็อค/แบน เป็นการรับประกันว่าข้อมูลตัวเองจะไม่ถูกแย้งไม่ว่าจะถูกหรือผิด
โดนคนเขียนบทความในวิกิดิ้นพล่าน ขู่จะบล็อค แต่ตัวเองไปถล่มเสาสัญญาณโทรทัศน์ประเทศยูเครน รัสเซียนิเอาใจยากจริงๆ
ส่วนรัฐบาลไทยเราเลือกยืนข้างรัสเซียที่เป็นเผด็จการมากกว่ายูเครนที่เป็นประชาธิปไตย
{{Citation needed}}
แต่ผลโหวตในที่ประชุมยูเอ็นล่าสุด ไทยเห็นด้วยที่ UN เรียกร้องให้รัสเซียยุติการรุกรานยูเครน นะครับ
แนวทางการฑูตเขาเปิดไพ่ 3 หน้า ไม่ว่ารัฐบาลไหนมาบริหารก็ทำอย่างนี้ทั้งนั้น ทั้งสหรัฐ จีน รัสเซีย ประเทศแห่งนี้อยู่จุดศูนย์กลางของ CLMV เอนเอียงข้างไหนแบบชัดเจนไม่ได้หรอก ที่รอดมาทุกวันนี้ก็เพราะใครเป็นหัวเรือ ส่วนใหญ่ก็ใช้แนวทางสมดุลอำนาจ ปลาไหลใส่สเก็ต อาจเป็นที่ไม่พอใจของคนที่เอนเอียงด้านใดด้านนึง แต่สุดท้ายมันก็รักษาประเทศให้คงอยู่จนปัจจุบัน ที่เห็นรัฐซื้อของงี่เง่า บางอย่างก็ซื้อเพราะต้องรักษาสมดุลอำนาจนี่แหล่ะ
แต่ระยะหลังมานี้ ไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็พยายามที่จะให้ไทยเลือกข้างไปสักทางให้ได้ ทั้งที่ไอ้แบบนี้แหละ ทำให้ไทยยังอยู่ได้ถึงทุกวันนี้
ไม่เข้าใจพวกที่เกลียด Siamese Talk จริงๆ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
เราควรภูมิใจกับเรื่องแบบนี้เหรอครับ
ถ้าผมต้องเล่าเรื่องเทคนิคนี้ให้ลูกฟัง ลึก ๆ ผมก็คงกระอักกระอ่วนใจนะ
แล้วถ้าลูกผมถามกลับว่าเมื่อไรประเทศไทยถึงจะไม่ต้องดำเนินนโยบายเอาตัวรอดแบบนี้ เราจะตอบเขากลับว่าอย่างไรดี ?
ขนาดเอสโตเนียประเทศเกิดใหม่ทีหลังไทย (แต่เจริญกว่าไทยไปแล้ว) ผ่านพ้นไฟสงครามมา มีพรมแดนติดกับรัสเซีย แต่ยังเลือกไปเข้า NATO ได้ แล้วไทยที่อยู่ไกลจากทั้งจีน รัสเซีย อเมริกา จะไม่มีวันเลือกข้างได้เลยเหรอครับ ?
That is the way things are.
+1024
การรับผิดชอบในสิ่งที่ตนพลาดไม่ใช่เรื่องน่าอาย มันคือวิธีการหนึ่งที่ทำตนพัฒนา
+1 ~ignorant ระดับประเทศ
+1 ครับ
ก็แล้วแต่จะคิด การบริหารบ้านเมืองมันไม่ใช่เล่นเกมส์ พลาดแล้วเริ่มใหม่กันได้ การปกครองแบบไหนก็ไม่มีทางสมบูรณ์หรอกครับ อย่าหลอกตัวเองเลย บริบทของแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน การบอกว่าแบบไหนดีมันต้องมองสภาวะแวดล้อมของแต่ละประเทศด้วย ถ้าคิดว่าแนวคิดของคุณถูก ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เพราะพวกเราก็ไม่ได้มีอำนาจไปบริหารประเทศนิ
ถ้าคุณเชื่อโลกแห่งความดี มันก็เรื่องของคุณ และอยู่ที่คนในปกครองของคุณว่าจะเชื่อเหมือนกันหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นผม ผมจะใช้ทั้งความดี และความมืด เพื่อให้คนที่อยู่ใต้การปกครองของผมอยู่รอดไม่ต้องสังเวยให้กับอำนาจภายนอก ถึงแม้ใครจะตราหน้าว่าผมเป็นคนเลวก็ตาม แล้วผมก็เคยทำมาแล้วในชีวิตจริงซึ่งผมก็ไม่ได้เสียใจอะไร เพราะอย่างน้อยผมก็พาคนในปกครองของผมถึงฝั่งทุกคน
แล้วถ้าสมมติไทยเกิดเลือกข้างไปแล้ว (ไม่ว่าจะฝั่งจีน รัสเซีย หรืออเมริกา) และไม่เจริญแบบเอสโตเนีย แต่บรรลัยกว่าขึ้นมา สุดท้ายคุณก็ด่าไทยอยู่ดี ว่าประเทศชาติล่มจมเพราะเลือกผิดฝั่ง เลือกไปทำไม ถูกมั้ยล่ะครับ?
อยากกระอักกระอ่วนใจก็เชิญครับ ต่างคนต่างความคิด แต่ถ้าให้ไทยทำสุดโต่งแบบที่คุณคิด ผมมองว่าไทยนี่แหละจะซวยจริงๆ อย่างที่คุณ akira บอก บริบทแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน จะให้ไทยเป็นอย่างนู้นอย่างนี้มันใช้ไม่ได้ทุกเรื่องหรอกครับ
//หวังว่าคงไม่มีใครมายัดเยียดผมเป็นขนมหวานหลากสีเพราะความเห็นไม่ตรงกันนะครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ถ้าใช้ตรรกะนี้ แปลว่าอีก 100 ปี 1000 ปี ประเทศไทยก็ต้องดำเนินนโยบายทางการฑูตแบบนกสองหัวไปตลอดอย่างนั้นเหรอครับ ?
แล้วจุดเริ่มต้นของการตัดสินใจได้เองจะอยู่ที่ตรงไหนครับ ?
จะปล่อยให้ความกลัวครอบงำไปตลอดเลยเหรอครับ ?
That is the way things are.
ก็ถ้าอยากได้แบบนั้นก็ให้รัฐบาลไทยในสมัยนี้(ถ้ายังเรียกร้องได้นะ) หรือสมัยหน้าลองดูสิครับ เอาแค่ในช่วงเวลานี้ ไม่ต้องมองไกลถึง 100 ปี 1000 ปี ลองกำหนดทิศทางได้เองแบบที่คุณบอกเลย (เช่น อยู่ฝั่งอเมริกา และบอยคอตจีน รัสเซียทุกกรณี) เดี๋ยวคงจะได้เห็นเองแหละครับว่าการตัดสัมพันธ์ทางการทูต หรือตัดการนำเข้าส่งออก จะส่งความเสียหายกับไทยขนาดไหน แล้วจะมีอะไรมารับประกันว่า ถ้าไทยเลือกฝั่งแล้ว ฝั่งที่เลือกจะช่วยเหลือเรา ชดเชยในสิ่งที่เราเคยทำการค้าไว้กับประเทศที่เป็นฝั่งตรงข้ามได้มากแค่ไหน ถ้ารับประกันไม่ได้ รัฐบาลไทยและฝั่งทูตก็โดนด่าเหมือนเดิมอย่างที่ผมบอกไป
ถ้าเปลี่ยนในช่วง 10-20 ปีให้หลัง ยังพอที่จะเปลี่ยนได้หากสถานการณ์มันดีขึ้น แต่ถ้าให้เปลี่ยนตอนนี้ในขณะที่แขนขาเราผูกรอบด้าน มีอาวุธขู่ทุกฝั่ง จะกล้าเปลี่ยนมั้ยล่ะครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ไม่ภูมิใจ และอยากให้มันเปลี่ยนแปลงครับ
แต่ผมมองว่าเราไม่ควรที่จะรีบเปลี่ยนในสถานการณ์ที่พร้อมจะมีมิซไซล์บินมาหาเราได้ทุกเมื่อครับ มันควรจะเริ่มทำการเปลี่ยนแปลงตอนที่แต่ละประเทศยังสงบๆและคอยดูเชิงกันอยู่อย่างช่วงที่ผ่านมา (แต่ไทยเราพลาดโอกาสนั้นและไม่ได้พัฒนาอะไร ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ควรด่าครับ)
ประเด็นที่ผมต้องการจะสื่อคือ ต้องแยกให้ออกระหว่าง "สิ่งที่อยากให้เป็น" กับ "สิ่งที่ทำได้ตอนนี้" ครับ
หรือคุณคิดว่าตอนนี้มันเป็นโอกาสที่ดีมากที่ประเทศไทยควรทำการเปลี่ยนแปลงครับ?
ดูจากคอมเมนต์แล้ว เขาคงอยากให้เราเปลี่ยน "ตอนนี้" หรือทำได้ "ตอนนี้" มากกว่าที่จะ "อยากให้เป็น" ครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
เอ ... มีประโยคไหนหรือคำไหนที่ผมสื่อว่าต้องการให้ทำตอนนี้เหรอครับ ?
หรือว่าอ่านใจผมได้ ?
ผมไม่ได้อ่อนต่อโลกขนาดที่ว่าต้องการอะไรปุบปับหน้ามือเป็นหลังมือนะครับ ของทุกอย่างมันต้องค่อยเป็นค่อยไปตามจังหวะเวลาอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามผมเชื่อว่าเราสามารถเริ่มก้าวเล็ก ๆ ได้เสมอ อย่างเช่นเรื่องยูเครนเอง ในที่ประชุม UN ไทยเองก็ลงชื่อว่าไม่เห็นด้วยกับรัสเซียนะครับ ไม่ได้เลือกนิ่งเฉยไม่เลือกฝั่งเป็นนกสองหัวแต่อย่างใด
อ่าน comment แล้วกรุณาตีความให้ถูกด้วยครับ ว่าผมกำลังไม่เห็นด้วยกับ "แนวคิด" ของ comment ต้นทางหรือว่าผมไม่เห็นด้วยกับ "สถานการณ์" ปัจจุบันของประเทศที่มันเป็นอยู่ตอนนี้
สิ่งที่ผมไม่พอใจในทีแรกคือความคิดประมาณที่ว่าเราควรเป็นแบบนี้ไปตลอด ไม่หาทางเปลี่ยนแปลง เราควรสรรเสริญความสำเร็จของการฑูตนกสองหัวประหนึ่งว่ามันคือสุดยอดทักษะแห่งทศวรรษ
ผมเข้าใจนะว่าบางทีการไม่เลือกมันก็เป็นเรื่องจำเป็น แต่ถ้าต้องทำไปตลอดผมก็ว่ามันน่าละอายครับ ซึ่งก็เป็นความคิดส่วนบุคคลของผมล่ะนะ คนอื่นคิดไม่เหมือนกันก็ไม่แปลกครับ
อีกเรื่องหนึ่งคือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มันไม่มีอะไร 0/1 หรอกครับ แม้กระทั่งประเทศอเมริกาเองก็ไม่ได้เกลียดจีนทุกอย่างทุกบริบท มันก็ต้องมีบางส่วนที่ยังพึ่งพาอาศัยกันอยู่บ้าง ดังนั้นใน comment ด้านบนที่คุณบอกว่าให้ผมเรียกร้องสนับสนุนอเมริกาแล้วแบนจีนเนี่ย มันไม่ make sense ครับ ออกแนวพยายามยกตัวอย่างสุดโต่งเพื่อมาโต้แย้งหาทางเอาชนะอย่างเดียว
That is the way things are.
คือกำลังจะบอกว่า เราควรภูมิใจที่เป็นนกสองหัวแบบนี้เหรอครับ ?
ใช่ครับ มันแล้วแต่คุณจะคิดด้วย ถ้าคุณคิดว่ามันไม่ดี มันก็ไม่ดีนั่นแหละ ไม่มีใครหยุดความคิดคุณได้ ทุกคนมีสิทธิคิด แต่ในทางปฏิบัติมันก็อีกเรื่องนึง
Thx พึ่งรู้ว่าการเป็น "นกสองหัว" เป็นเรื่องดี
เปิดหูเปิดตาจริงๆครับ
เรียกว่าอะไรดีครับ เป็นกลาง ignorance นกสองหัว เหยียบเรือสองแคม เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ?
ผมว่าแรงไปหน่อยนะ การเป็นนกสองหัวมันไม่ผิดหรอก ถ้าทำให้ทุกคนอยู่รอดได้ เท่ห์แล้วตายหมด หวังพึ่งประเทศใดประเทศหนึ่ง พอเขาไม่ช่วยก็โวยวาย ไม่น่าเป็นวิธีที่ผู้อยู่รอดใช้กัน มันใช้ได้ทั้่งทางธุรกิจ และการเมือง คนอยู่คนสุดท้ายคือผู้ชนะ คนแพ้ก็ได้แค่ป้ายเขียนสดุดดีหน้าหลุมศพไป ไม่รู้สิผมเห็นหลายคนเจ๊งยับมาแล้ว ก็เพราะความคิดโลกสมบูรณ์แบบนี้แหล่ะ ไม่ยอมรับว่าโลกความจริง มีทั้งด้านดี และด้านมืด เพียงแต่ว่าคุณใช้มันเป็นหรือเปล่าก็เท่านั้น
ไร้กระดูกสันหลัง
จุดเริ่มต้นของการอยู่แนวหน้าของโลกคือเริ่มต้นจะเชื่อในศักยภาพของคนในชาติ และทำลายเพดานที่กดทับมันไว้
ผมเชื่อว่าไทยอยู่ในชัยภูมิที่ดีเหลือเชื่อ
บุคลากรที่มีประสิทธิภาพมากมาย ทรัพยากรที่มีคุณค่า
และผมฝันว่าวันนึงเราจะไม่ทำตัวขี้ขลาดแบบนี้ ยืนตัวตรงอย่างภาคภูมิในความเป็นมนุษย์ และเป็นมหาอำนาจที่สามารถยื่นมือช่วยเหลือมนุษย์เพื่อนบ้านโดยไม่เป็นลูกไล่ใคร
การมีเป้าหมายที่น่าเหลือเชื่อ ก็น่าจะดีกว่าพอใจที่เป็นอยู่แบบนี้ เพราะอย่างน้อยเราก็ไปข้างหน้า แม้จะน้อยนิดแต่ก็ไม่อยู่กับที่
ผมก็อยากเห็นประเทศเราแข็งแกร่ง สามารถแสดงจุดยืนของตัวเองได้ โดยที่ไม่ต้องเกรงกลัวทั้งฝั่งตรงข้ามและฝั่งเดียวกันเอง (มิตรแท้ ประเทศพี่น้อง ไม่มีหรอกครับ ทุกประเทศเอาประเทศตัวเองเป็นหลักทั้งนั้น เพราะงั้นผมถึงเลือกใช้คำว่าแสดงจุดยืนมากกว่าเข้าข้างประเทศใดประเทศหนึ่ง)
แต่ "ณ ตอนนี้" เราไม่ได้เป็นแบบนั้น เรายังไม่สามารถปกป้องการโจมตีจากฝั่งตรงข้ามด้วยตัวเองได้ และเรายังไม่สามารถปกป้องการเอาเปรียบจากฝั่งเดียวกันด้วยตัวเองได้ ถ้าฝั่งใดฝั่งหนึ่งกดดันมาให้เราเลือกก็ว่าไปอย่าง แต่ถ้าเขาไม่ได้กดดันอะไรและด้วยสถานะประเทศเราตอนนี้ ผมมองว่าการที่เรารักษาความสัมพันธ์ประเทศมหาอำนาจให้มาคานกันเอง เป็นไม่กี่ทางที่เราทำให้เรารอดได้ครับ
ถามว่าเจ็บใจไหมก็เจ็บใจครับที่ประเทศเราทำได้แค่นี้ แต่ตอนนี้เราก็ต้องเอาตัวรอดเท่าที่ทำได้ก่อน เรื่องของอนาคตไว้ค่อยไปด่าครับ
แต่ผมเข้าใจและไม่ได้รู้สึกแย่อะไรกับคนที่อยากให้เลือกข้างยูเครนนะ เพราะเขาก็แค่คำนึงถึงมนุษยธรรมเท่านั้นเอง อาจจะไม่ได้นึกถึงเรื่องการทูตหรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็จริง แต่หลายๆคนก็เป็นแค่คนธรรมดาเท่านั้น ไม่แปลกอะไรที่จะมองแค่มุมมองเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แต่คนที่อยากให้เลือกข้างรัสเซียนี่ผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่แฮะ
ปล. ผมรู้สึกว่ารัฐบาลชุดนี้ค่อนข้างเห็นได้ว่าจะเข้าข้างจีนและไม่เอาอเมริกาเป็นพิเศษนะครับ
tl;dr โปรรัสเซียสงสารรัสเซียมากกว่ายูเครน ส่วนยูเครนคือ "ทำตัวเอง"
พวกโปรรัสเซียมองว่าตัวร้ายที่แท้จริงคือ US ครับ วางแผนย่ำยีรัสเซียมาตลอด และเสี้ยมให้หลายๆ รัฐเอาใจออกห่างจากรัสเซีย (ด้วยแนวคิดเสรีภาพ) แต่ใจจริงแค่ต้องการค้าอาวุธให้รวยเท่านั้น NATO,EU ก็แค่ร่างทรงของ US ในอีกรูปแบบหนึ่งที่คอยกัดกินรัสเซียอย่างช้าๆ
สงครามยูเครน-รัสเซียครั้งนี้คือการเอาคืนของรัสเซียที่โดนพวก US ย่ำยีครับ หลังจากที่เงียบมานาน
ส่วนยูเครนที่จริงก็เป็นเหยื่อของ US เช่นกัน แต่ไม่น่าสงสารเพราะเลือกเข้าข้างเองจนโดนสงคราม ทั้งๆ ที่ "เลี่ยง" ได้ (คืออยู่ใต้อาณัติรัสเซีย หรืออย่างน้อยที่สุดคือเป็นกลางไม่เข้าข้างใครแม้แต่ EU,NATO) ช่วงสงครามตอนแรกๆ ยังมีคนล้อผู้นำยูเครนเลยว่า "ตัวตลก" หรือไม่ก็ "ผนงรจตกม" ด้วยซ้ำ (แม้แต่คนใน US ระดับสูงบางคนยังคิดแบบนี้เลย แน่นอนว่าทัวร์ลง น่าเสียดายที่หา twitter ต้นตออันนั้นไม่เจอ ☹️)
ส่วนเรื่องเอกราชของชาติ พวกนั้นก็อ้างว่า "ชีวิตประชาชน" สำคัญกว่า ให้ยอมๆ เขาไปเพื่อรักษาชีวิตประชาชน ไม่ใช้ปลุกใจให้ไปรบ (แล้วตาย)
คหสต. ผมเริ่มหลอนจนคิดไปไกลว่า ควรจะรักษาเอกราชของยูเครนหรือไม่ในเมื่อมีโลกหลังสงครามนิวเคลียร์เป็นตัวประกัน? จะกลายเป็นว่าได้เอกราชแต่แลกกับโลก fallout (สุดท้ายก็รักษาเอกราชไม่ได้อยู่ดี) หรือต้องยอมเสียชาติเพื่อโลก?
ตลกดี 555
OK Boomer
แก้ตัวให้รัสเซียเอาเป็นเอาตาย
เด็ก ผู้บริสุทธิ์ชาวยูเครนล้มตายตั้งเท่าไหร่ จากการรุกรานของรัสเซีย
ผมแค่กลัวลูกบ้าปูตินที่จะปล่อยนิวเคลียร์ตอนจวนตัวครับ แบบ "ตายตกตามกัน" ครับ
ใจจริงก็อยากให้ยูเครนชนะนั่นแหละ ยังเชื่อมั่นในเสรีภาพอยู่
โดนย่ำยี? ตั้งแต่เปลี่ยนจากโซเวียตมาเป็นรัซเซีย รัซเซียเอากำลังไปรุยประเทศรอบๆมากี่ครั้งแล้วครับ
มันเป็นเหตุผลที่ประเทศรอบๆ เลยจำใจต้องเลือกมาอยู่ไม่ NATO ก็ต้องเข้า EU เพราะไม่มีประเทศไหนรอบๆนั้นที่สู้รัซเซียได้
กลับกัน NATO ทำอะไร NATO อยู่เฉยๆ มาตั้งแต่ก่อตั้
จะโดนโปรรัสเซียสวนกลับแบบตรรกะวิบัติ Whataboutism ว่า "ด่ารัสเซียว่ารุกราน ที US รุกรานตะวันออกกลางทำไมไม่ว่าอะไร" แทนครับ
(ตอบกลับโพสตัวเอง) อันนี้ไม่ใช่โพส twitter ต้นตอที่ว่า แต่ก็เป็นหลักฐานชัดๆ ว่ามีคน US ระดับสูงคิดแบบนั้นจริงๆ
https://twitter.com/aaronjmate/status/1500219139713114120
ผมกลับคิดว่าจะไม่มีใครคุ้มหัวเราอย่างแท้จริง และเราจะกลายเป็นสนามอารมณ์ที่มิสไซต์ทักลูกจากทุกฝ่ายจะบินมาหา
I need healing.
นี่เป็นสงครามยุคไอทีระหว่างตะวันตกกะตะวันออกจริง ๆ
มั่วหรือเปล่า?
อ่านกระทู้ตรงไหนมาบอกตะวันออกก่อน หืม
นโยบายเห็บสมัย
โลกที่ปราศจากความขัดแย้ง คือโลกที่ไม่เจริญ //พับไมค์