มีรายงานว่า Ian Goodfellow ผู้อำนวยการฝ่าย Machine Learning ของแอปเปิล ได้ขอลาออกจากบริษัท หลังทำงานที่แอปเปิลมาได้กว่า 3 ปี ประวัติการทำงานของเขาอยู่ในสายงานด้าน AI และ ML เคยเป็นนักวิจัยที่ OpenAI ย้ายมากูเกิล จากนั้นจึงมารับตำแหน่งที่แอปเปิล และจากข้อมูลระบุว่าเขาน่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน ML ที่สุดในแอปเปิลตอนนี้
ผลงานเด่นของ Goodfellow คือเป็นผู้สร้างโมเดล GAN หรือ generative adversarial network ที่ใช้วิธีสร้างข้อมูลขึ้นมา แล้วใช้ตัวเปรียบเทียบความใกล้เคียงกับชุดข้อมูลหลัก ทำให้ถูกนำไปใช้ในงานสร้างภาพเสมือนจริง
เรื่องนี้มาเป็นประเด็นเนื่องจาก Goodfellow ส่งอีเมลหาทีมงานแจ้งการลาออกของเขา โดยไม่ได้บอกเหตุผลตรง ๆ แต่ก็พูดถึงนโยบายล่าสุดของแอปเปิล ที่กำหนดให้พนักงานต้องกลับมาทำงานที่สำนักงาน อย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ โดยบอกว่ารูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่น เป็นสิ่งดีที่สุดสำหรับทีมงานของเขา
แอปเปิลได้เริ่มปรับนโยบายการทำงานตั้งแต่เมษายนที่ผ่านมา โดยเริ่มจากต้องเข้าทำงานที่สำนักงาน 1 วันต่อสัปดาห์ และค่อย ๆ เพิ่มจำนวนวัน โดยตั้งแต่ 23 พฤษภาคม จะต้องเข้าทำงาน 3 วันต่อสัปดาห์เป็นอย่างน้อย
ที่มา: Apple Insider
Comments
แค่ต้องกลับมาทำงานที่ Office เลยลาออก จริงดิ
ปรกติครับ คนเก่งมักมีจุดอ่อนตรงจุดนี้ถ้าผู้บริหารหาจุดที่อยู่ตรงกลางไม่ได้ก็จะเจอปัญหาแบบเดียวกันไม่ว่าที่ไหน เมื่อ 7-8 ปีก่อนผมก็ทำงานแบบ WFH แบบนี้แหล่ะ แต่เป็นพนักงานประจำนะ ก็เลยค่อนข้างเข้าใจอารมณ์ประมาณนี้ คืออีโก้นั่นแหล่ะยิ่งทำงานคนเดียวอีโก้ยิ่งสูงเพราะไม่มีใครทัดทานหรือแนะนำ หลังพอทำงานบริหารก็พอเข้าใจคนอื่นมากขึ้นแต่ก็ยังติดเรื่องติสแตกเป็นประจำ
เป็นไปได้ครับ ผมก็ทำมาแล้ว ตอนนี้ wfa สบายใจ เบื่อรถติดมากๆ
wfa » Work From Amazon ??
~ HudchewMan's Station & @HudchewMan~
Amazon Cafe ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ผมไปนั่งทำงานฮะ
ปกติ Amazon ไม่มีปลั๊กไหให้ชาร์จนี่ครับ
WFA = Work From Anywhere
ทำไมไม่ห้ามกันนะ
มันก็เป็นสาเหตุใหญ่ของใครหลายคนได้นะครับ
จริงครับ จะว่าไป Apple ก็ออกโฆษณา "Escape from the Office | Apple at Work" ที่ลาออกกันยกทีมส่วนหนึ่งเพราะกลับไปทำงานที่ Office นะครับ
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
หลายบ.ITในไทยก็ยังลังเล ที่จะกลับofficeกันนะ กลัวลาออกกันเยอะ
คนทำงานจากที่บ้าน ติดความสะดวกที่ไม่ต้องเดินทางไปกันเยอะแล้ว เรื่องประสิทธิภาพการทำงาน WFHมาสองปีกว่าก็ปรับตัวกันได้หมดแล้ว
แต่คนที่ชอบสังคมอาจจะอยากกลับoffice แต่ก็มีอีกกลุ่มที่ติดWFHไปแล้ว หลายที่จะทำนโยบายแบบhybrid แต่ก็ต้องดูว่าแบบอ่อนๆหรือแบบเข้มๆ ถ้าแบบสัปดาห์ละวันอะไรแบบนี้ก็อ่อนๆ ถ้าแบบเข้มๆ ก็เหมือนapple เข้าสัปดาห์ละสามวัน หลายคนก็อาจจะคิดลาออก
สำหรับผมสัปดาห์ละสามวันนี่ถือว่ากำลังดีนะ (ผมเองอยากได้ 2 วัน) ประเด็นสำคัญคือให้มันมี overlap กันระหว่างคนที่ไม่ได้ต้องทำงานด้วยบ้าง กินข้าวกับทีมอื่น เดินไปชงกาแฟเจอเซลล์ ฯลฯ
lewcpe.com, @wasonliw
เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างทีมเห็นด้วยครับ แต่คงต้องใช้กิจกรรมอื่นๆช่วยเอา
ถ้าสามวันต่อสัปดาห์สำหรับผมก็มากไป เพราะมันแทบไม่ลดค่าใช้จ่าย แถมเพิ่มค่าใช้จ่ายมากกว่าเดิมอีกตะหาก เพราะกลายเป็นต้องลงทุนทั้งค่าเดินทาง(เช่นรถยนต์ ค่าเช่าที่จอดรถรายเดือนฯลฯ) และลงทุนอุปกรณ์ที่บ้าน(ถ้าทำงานอย่างจริงจัง มันก็ต้องปรับปรุงห้องทำงานและระบบinternet) ถ้าอย่างใดอย่างนึงเลยจริงๆต้นทุน(ของพนักงาน)จะถูกกว่า อย่างบางคนเคยต้องเช่าหอ เช่าคอนโดใกล้ๆที่ทำงาน ถ้าเข้าofficeสามวัน WFHสองวันจะอยู่ไหนดี เนทที่หอก็อาจจะไม่แรง ทำWFHลำบากไปซะอีก ติดไรเพิ่มก็ยาก จะให้กลับบ้านวันWFHก็เปลืองทั้งค่าเดินทางและค่าเช่าหอเปล่าๆ กลายเป็นภาระมากกว่าเข้าofficeเต็มห้าวันซะอีก
แต่สำหรับผมสองถึงสามวัน แต่อาจจะสัปดาห์เว้นสัปดาห์(หรืออาจจะวน เช่นสัปดาห์นี้เข้าสาม สัปดาห์หน้าเข้าสอง) แบบนี้ยังแพลนง่ายกว่าแต่อาจจะยาก ในแง่ของการรวมทีม และการเจอหน้าทีมอื่นๆ(สุดท้ายก็ต้องพึ่งกิจกรรมอื่นๆสำหรับteam building อีกที)
ตอนนี้ความยากคือคนส่วนใหญ่ติดความสบายของการ WFHไปแล้วนี่แหละ ตื่นสายได้(ไม่ใช่เข้างานสายนะ แต่ไม่ต้องเผื่อเวลาเดินทาง 1-2ชั่วโมง) ประหยัดค่ารถค่าน้ำมัน(หลายคนแพลนจะซื้อรถก็ไม่ต้องซื้อ หรือใช้คันเก่าต่อได้เพราะวิ่งน้อย) และพวกjuniorหลายคนก็พร้อมจะลาออก ถ้ากลับต้องเข้าofficeมากๆ เพราะมีบ.หลายที่ชูเรื่องWFH 100% หรือhybrid ตั้งแต่แรกเลย แต่สำหรับseniorขึ้นไป คงเคยชินกับการทำงานofficeมากกว่าทั้งชีวิตคงแบบไหนก็ได้
Senior เห็นหลายคนก็ชอบอยู่บ้านละครับ ได้อยู่กับลูกกับครอบครัวทั้งวัน
ผมมองว่าเข้าออฟฟิตสัปดาห์ละ 2 วัน กำลังดีเหมือนกันครับ
เราเลยยุคที่ต้องถวายตัวให้บริษัทมาไกลแล้วนะ สมัยนี้คือเราเลือกบริษัท+บริษัทเลือกเรา ถ้า Match กันก็อยู่กันได้ และที่สำคัญถ้าคุณเก่งพอคุณก็มีสิทธิ์ที่จะเลือก
อยากถามความเห็น ผบห. ว่าจะมีเหตุผลอะไรที่จะอยากให้กลับเข้า office ภายใต้เงื่อนไขว่า งานก็เสร็จตาม roadmap ไม่ได้มีอะไรล่าช้า แถมสุขภาพจิตพนักงานดีขึ้นด้วยซ้ำ
ไม่เห็นหน้างานไม่เดิน
ส่วนตัวมองว่า มันมีเรื่องบางเรื่องที่เล็กน้อยเกินกว่าจะคุยผ่าน medium แต่ถ้าได้เจอหน้ากันพูดคุยเรื่อยเปื่อยจะถูกนำมาพูด และมันทำให้บางงานออกมา"ดีขึ้น"ครับ
อาจจะมีความรู้สึกค้านว่า ถ้าระบบดีก็จะไม่มีปัญหา แต่ตราบใดที่เราเป็นมนุษย์ มันก็ยังมีเรื่องพวกนี้จริงๆ ครับ
Gather ช่วยได้ครับ
ลองเข้าไปดูแล้ว น่าสนใจดีครับ ไม่ formal จนเกินไป ขอบคุณครับ
(คือผมตอนนี้ รู้สึกแม้กระทั่งว่าไลน์เป็น formal channel ไปแล้ว จนถึงกับต้องปิด noti เป็นบางเวลา ไม่งั้นจะรู้สึกเครียดสะสม และไม่เป็นเวลาเลยครับ 🥲)
หลายปีก่อนเคยประชุมใน skype นี่แหละ คุยงานรู้เรื่องแต่ไม่ครบทุกรายละเอียดครับ
mentoring ลำบากมากครับ
ยกเว้นบางบริษัทที่ให้พนักงานเปิดกล้องตลอดเวลางาน
อันนี้งงกับบางองค์กรที่ไม่ยอมเปิดกล้องจริงๆ(เพราะไม่บังคับ กลายเป็นไม่มีใครเปิดเลยสักคน ยกเว้นวิทยากร แต่ถ้าประชุมทีมก็ไม่มีใครเปิด)
ผมว่ามันทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างคนในทีมหายไปเยอะเลย
คสพ. ทีมครับ อันนี้หลักๆเลย การติดต่อสื่อสาร
อย่างบริษัทฯผมที่จะให้เข้า 3 วัน จากเดิม 2 วันนี่
เดาว่าน่าจะมีมา 100% / 80% วันนึงแน่ๆ
(ออกตัวก่อนผมเป็น Front)
แต่เอาจริงๆเรื่องค่าใช้จ่ายพูดยากครับ
แต่ที่กระทบคือค่าตั๋วรถไฟฟ้าครับ
สมมติอาทิตย์ละ 2 วัน ค่าตั๋วถูกกว่าแบบชัดๆมา
ถัวร์ค่าไฟได้ แต่พอมา 3 วันซึ่งตอนนี้รายเดือนมันไม่มีแล้ว
รวมๆทั้งเดือนจะมากกว่ารายเที่ยวหรือเปล่านะ?
คนเก่งเค้าเลือกชีวิตเอง จะเลือกงานเอง ไม่ถูกใจก็แค่ย้ายใหม่ คนกลุ่มนี้ทำเพราะใจรัก ไม่ค่อยทำเพราะเงิน หรือ บางทีไม่ต้องทำงานที่นี่ก็มีกินมีใช้อยู่แล้ว
บางคนตอนสมัครงานก็รู้อยู่แล้วว่าต้องทำที่ office ให้นั่งตรงไหนก็ได้หมดเพราะอยากได้งาน แต่ช่วงที่ผ่านมาไปอยู่บ้านนานจะให้กลับไปที่ office เลยไม่อยากไป
ออฟฟิศผมเป็น NGO ให้ WFH ได้คนละ 1 วันต่อสัปดาห์ ผมชอบวันทำงานที่บ้านมาก รู้สึกว่างานเดินกว่า แต่ด้วยตำแหน่ง มันเกี่ยวข้องกับ suppliers vendors และเอกสารเยอะ เลยต้องเข้า
ที่ทำงานเก่า NGO เหมือนกัน ปรับเป็น ทำงานสี่หยุดสามแล้ว แล้วอาทิตย์นึงเข้าออฟฟิศวันเดียว ดีมากกก
ผมนี้ อยู่ใกล้ office แบบเดินไปได้ กลายเป็นว่าเข้า office ทุกวันไม่มี WFH กับเขา เพราะไม่สะดวกไร แต่ก็เข้าใจคนบ้านไกลนะ WFH น่าจะสะดวกกว่า
ททง. เราอยู่ไกลบ้านนะ แต่ก็อยากเข้าไปทำงานเกือบทุกวันอยู่ดี ขอแค่เวลาทำงานยืดหยุ่นว่าเข้าตอนไหนก็ได้ ออกตอนไหนก็ได้ แค่ชั่วโมงครบก็พอแล้ว (เราชอบทำงานกลางคืน นอนกลางวัน และไม่ชอบเดินทางตอนชั่วโมงเร่งด่วน)
ตอนโคควิดมาแรก ๆ ได้อยู่แต่บ้าน งานแทบไปเดิน มีแอบเข้าสำนักงานบ้างเพราะทนอยู่บ้านไม่ไหว จนปัจจุบันสำนักงานเริ่มให้บุคลากรเข้าทำงานในพื้นที่สำนักงานได้ตามความสมัครใจ เราดีใจมาก เข้าทำงานในสำนักงานแทบทุกวันเลย งานเดินปรู้ด ๆ สบายใจ
flex timeก็มีข้อจำกัดครับ ถ้าเวลาต่างกันมากเกินไปทำให้การนัดประชุม การประสานงานยากมาก บางอย่างนัดล่วงหน้าได้ บางอย่างต้องสอบถามด่วน แต่ยังไม่เข้า หรือบางคนกะเข้าบ่าย เข้าดึก ก็ทำให้ติดต่อกันยากไปอีก
ส่วนใหญ่ให้ยืดหยุ่นได้แค่ +- 1-2ชั่วโมงมากกว่า เช่นเข้างานสิบโมง เลิกทุ่มนึงแทน หรือวันไหนมี incident ต้องอยู่ยาว หรือต้องมาเฝ้าตอนdeploy อีกวันก็มาทำงานสายชดเชยกันไปได้
เราไม่ได้มีปัญหาเรื่องนี้เลยนะ ส่วนใหญ่ถ้าจะนัดประชุมอะไร หัวหน้าจะหย่อนเมล์เอาไว้ว่าขอนัดประชุมเวลานี้นะ ทุกคนเข้ามาประชุมด้วย เสร็จแล้วก็แจกจ่ายงานแยกย้ายไปทำงานตามปกติ ถ้ามีเรื่องด่วนอะไรก็ส่งข้อความในระบบของสำนักงานได้ทันที เราเลยไม่ได้มีปัญหาเรื่องความต่างของเวลาเลย :)
ผมว่าน่าจะค่าเดินทางแพงด้วยแหล่ะมั้ง แถมต้องเสียเวลาและเบื่อตอนเดินทาง
อันนี้ส่วนตัว พอดีถนนหน้าบ้านตอนนี้ทำถนนยาวไปอีกหลายปี (ถึงแม้ว่าจะมีชื่อว่าถนนที่สร้างไม่เสร็จก็ตาม แต่รอบนี้คือทำหนักมาก) ถ้าต้องเข้าออฟฟิศอาทิตย์ละสามวันผมก็ต้องคิดเหมือนกันว่าไหวหรือเปล่า ลำพังแค่รถติดอยู่หน้าบ้านนี่ก็ไม่ธรรมดาละ
ยิ่งแบบที่ทีมชอบให้คนเข้าทำงานเช้า ๆ นี่คือผมตายเลย เพราะยิ่งเช้ารถยิ่งติดหนักครับ
เห็นด้วยเรื่องความสะดวกในการเดินทางครับ
ถ้าตัดเรื่องค่าเดินทางออกไป... ส่วนตัว 3 วันผมโอเคนะ แต่อยากได้เวลาเข้าออฟฟิศที่ยืดหยุ่นในระดับนึง หรือถ้าจะให้ดีก็แบบผสมไปเลยคือทำงานในออฟฟิศ 4-6 ชั่วโมง (เข้าออฟฟิศช่วง 10-16 อะไรแบบนี้) ซึ่งน่าจะเพียงพอสำหรับงานที่ต้องทำหรือมีประสิทธิภาพดีกว่าถ้าทำในออฟฟิศ แล้วที่เหลือไปทำต่อที่ไหนก็ได้เวลาไหนก็ได้อะไรแบบนี้
แต่ละคนก็น่าจะมีเหตุผลแตกต่างกันไป รวมถึงเหตุผลของฝั่งองค์กร การทำงานที่บ้านก็อาจจะมีประเด็นความเสี่ยงเรื่องความลับที่ค่อนมากกว่าปกติ เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีประวัติมาก่อน " ข้อมูลการออกแบบชิป Apple โดนอดีตพนักงานขโมย พร้อมยื่นฟ้องบริษัท Rivos เหตุขโมยความลับทางการค้า"
ในพันทิป มีคนไอทีมาตั้งกระทู้ Office ให้กลับไปทำงาน นางไม่อยาก ลาออก หางานใหม่ที่ WFH ได้ตลอด คนแบบนี้มีจริง ๆ แหละ
ส่วนตัวชอบทำงานที่ Office มากกว่า ได้งานมากกว่า ได้เพื่อนมากกว่า ที่พักไม่ใช่ปัญหา ย้ายตามงาน
นอกจากในพันทิปที่อื่นก็เป็นนะครับ เคยอ่านจากข่าวไหนสักข่าวบางคนก็ค้นพบ lifestyle ที่เหมาะกับตัวเองแล้วก็พบว่างานที่ทำไม่จำเป็นต้องประจำที่ออฟฟิศก็ได้ ส่วนตัวผมเองผมชอบกึ่งๆ ทั้งสองแบบ ยังอยากจะกลับไปอยู่ในบรรยากาศออฟฟิศบ้าง WFH บ้าง